Mazda CX-3 Minor change ดีเซล1.5 ท้าชนไฮบริดซี-เอชอาร์
บี-เอสยูวีหรือบางค่ายนิยามตัวเองว่าเป็น"ครอสโอเวอร์"รถกลุ่มนี้ช่วงราคากว้างมากครับ มีให้เลือกตั้งแต่ 7 แสน- 1 ล้านบาทต้นๆ แบ่งระดับการทำตลาดด้วยรูปแบบของขุมพลัง
ยิ่งปีนี้บี-เอสยูวีกลุ่มบนราคาประมาณ 1 ล้านบาทสู้กันสนุกด้วยการมาของ “โตโยต้า ซี-เอชอาร์” และพวกที่ยึดหัว หาดเดิมอย่าง “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” และ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ก็ทำการไมเนอร์เชนจ์ต้อนรับ(เป็นไปตามอายุการทำตลาดพอดี)
ผมเพิ่งลองขับ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไมเนอร์เชนจ์” หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน โดยมาสด้าแบ่งขายเป็น 5 รุ่นย่อย เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร E ราคา 879,000 บาท (เพิ่ม 44,000 บาท) C 955,000 บาท(เพิ่ม 45,000 บาท)S 1,029,000 บาท (เพิ่ม 54,000 บาท) และ SP 1,083,000 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง) ส่วนดีเซลมีทางเลือกเดียว XDL 1,189,000 บาท (ลดลง4,000 บาท)
ตัวรถปรับรายละเอียดไปพอสมควร โดยเฉพาะรุ่นท็อปของทั้ง 2 เครื่องยนต์ เช่น การใส่ซันรูฟมาให้ การเปลี่ยนลายของล้ออัลลอย 18 นิ้ว และยางรุ่นใหม่ของ Toyo Tire การใส่เบรกมือไฟฟ้า มาแทนคันโยกแบบกลไก ส่งผลให้ช่องว่างตรงนี้เปลี่ยนเป็นกล่องเก็บของพร้อมที่พักแขนได้
ส่วนภายในที่ชัดเจนอีกจุดคือ ตรงแผงแดชบอร์ดมีการใช้หนังกลับมาเป็นวัสดุ ก็ดูดีไปอีกแบบ ขณะที่ภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ ลวดลายของกระจังหน้า เบ้ารับไฟตัดหมอก รายละเอียดในโคมไฟหลัง และพวกทริมตรงชายขอบประตูด้านล่าง
ทั้งนี้ในรุ่นเริ่มต้นที่ราคาขยับขึ้นเป็นผลมาจากระบบความปลอดภัยแบบไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามาเช่น เบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Hold ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนและขณะถอยหลัง
ส่วนรุ่นท็อปที่เพิ่มฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงใส่หลังคาซันรูฟ และระบบกล้องแสดงภาพ 360 องศา เพิ่มเข้ามาต่างจากรุ่นอื่นๆ แต่กลับไม่ขึ้นราคา ตรงนี้ก็ชัดเจนว่า มาสด้าต้องประเมินราคาที่แข่งขันได้กับ เอชอาร์-วี และ ซี-เอชอาร์ เอาไว้ด้วย
“มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไมเนอร์เชนจ์” ยังมีพร้อม 2 เฉดสีตัวถังใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ คือสีแดง (Soul Red Crystal)และสีเทา (Machine Grey) ก็จะเห็น 2 สีนี้จากทั้งหมด 7 สีที่มาสด้าใช้โปรโมต
การลองขับบนเส้นทางกรุงเทพฯ-สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งคราวนี้มาสด้าเขามาแปลกคือ ให้รถหลายคันติดตั้งอุปกรณ์จับจักรยานของ “ธูเล่” (Thule) ประเทศสวีเดนเอาไว้ด้วย มีทั้งติดตั้งบนหลังคา และด้านหลังของรถ
ความน่าสนใจคือ นํ้าหนักของจักรยาน 2 และผู้โดยสารพร้อมคนขับรวม 3 คน ไม่ทำให้สมรรถนะของ “ซีเอ็กซ์-3” ดูด้อยลงไป
กล่าวคือมีนํ้าหนักโหลดเพิ่มขึ้นจริง แต่รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า และแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ
6 สปีด ยังวิ่งฉิว จังหวะออกตัวดี เร่งไม่อืด ปลายก็ยังไหลๆ ขณะเดียวกันเสียงเครื่องยนต์ในช่วงการขับปกติก็เบามากๆ
ในส่วนขุมพลังมาสด้าไม่ได้ไปยุ่งอะไรครับ ประสิทธิผลเท่าเดิมกับตอนเปิดตัวครั้งแรก แต่เห็นว่ามีการปรับจูนช่วงล่างใหม่ ทั้งเปลี่ยนสเปกของเหล็กกันโคลง โช้กอัพและสปริง หวังเป้าหมายเพื่อความนุ่มนวล
แต่ถ้าถามผมว่าช่วงล่าง(รุ่นดีเซล)นุ่มนวลลงไหม? ตอบยากครับ แต่สามารถยืนยันเรื่องการเกาะถนนและการทรงตัวที่เฉียบขาดเหมือนเดิม
ด้านอัตราบริโภคนํ้ามัน มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เคลมไว้เฉลี่ย 22.2 กม./ลิตร ตัวเลขถือว่าใกล้เคียงกับ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ที่แจ้งไว้ 24.4 กม./ลิตร ส่วนการขับของผมในทริปนี้ลองวัดในช่วง 60 กม.สุดท้าย (จากแยกเจดีย์หักถึงสวนผึ้ง)ได้ตัวเลขประมาณ 19 กม./ลิตร
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบซีเอ็กซ์-3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร กับ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด (เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า) สมรรถนะรวมๆสูสีครับโดยเฉพาะช่วงล่างและการควบคุมยอดเยี่ยมทั้งคู่ ทว่าเรื่องการตอบสนองของขุมพลัง ผมแอบเทใจไปให้ไฮบริดนิดๆ งานนี้ต้องไปลองขับเอง และดูลักษณะการใช้งานของตนเองเป็นหลัก
รวบรัดตัดความ...มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เจเนอเรชันแรกรุ่นนี้อิงการพัฒนามาจาก “มาสด้า2” ตัวรถขับดี สมรรถนะเยี่ยมทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลแต่เสียที่ว่าขนาดตัวถังเล็กไปนิด ดังนั้นในเจเนอเรชันที่ 2 การพัฒนาจะมีบนแพลตฟอร์มเดียวกับมาสด้า3 โฉมใหม่(เปิดตัวปีหน้า)การันตีความใหญ่ พร้อมการใช้งานที่อเนกประสงค์มากขึ้น แต่เอาละครับถ้าขนาดไม่มีความสำคัญกับคุณ แล้วชอบในรูปลักษณ์ นิยมสมรรถนะก็จัดรุ่นนี้ไปได้เลย
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,391 วันที่ 12 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ยิ่งปีนี้บี-เอสยูวีกลุ่มบนราคาประมาณ 1 ล้านบาทสู้กันสนุกด้วยการมาของ “โตโยต้า ซี-เอชอาร์” และพวกที่ยึดหัว หาดเดิมอย่าง “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” และ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ก็ทำการไมเนอร์เชนจ์ต้อนรับ(เป็นไปตามอายุการทำตลาดพอดี)
ผมเพิ่งลองขับ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไมเนอร์เชนจ์” หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน โดยมาสด้าแบ่งขายเป็น 5 รุ่นย่อย เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร E ราคา 879,000 บาท (เพิ่ม 44,000 บาท) C 955,000 บาท(เพิ่ม 45,000 บาท)S 1,029,000 บาท (เพิ่ม 54,000 บาท) และ SP 1,083,000 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง) ส่วนดีเซลมีทางเลือกเดียว XDL 1,189,000 บาท (ลดลง4,000 บาท)
ตัวรถปรับรายละเอียดไปพอสมควร โดยเฉพาะรุ่นท็อปของทั้ง 2 เครื่องยนต์ เช่น การใส่ซันรูฟมาให้ การเปลี่ยนลายของล้ออัลลอย 18 นิ้ว และยางรุ่นใหม่ของ Toyo Tire การใส่เบรกมือไฟฟ้า มาแทนคันโยกแบบกลไก ส่งผลให้ช่องว่างตรงนี้เปลี่ยนเป็นกล่องเก็บของพร้อมที่พักแขนได้
ส่วนภายในที่ชัดเจนอีกจุดคือ ตรงแผงแดชบอร์ดมีการใช้หนังกลับมาเป็นวัสดุ ก็ดูดีไปอีกแบบ ขณะที่ภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ ลวดลายของกระจังหน้า เบ้ารับไฟตัดหมอก รายละเอียดในโคมไฟหลัง และพวกทริมตรงชายขอบประตูด้านล่าง
ทั้งนี้ในรุ่นเริ่มต้นที่ราคาขยับขึ้นเป็นผลมาจากระบบความปลอดภัยแบบไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามาเช่น เบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Hold ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนและขณะถอยหลัง
ส่วนรุ่นท็อปที่เพิ่มฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงใส่หลังคาซันรูฟ และระบบกล้องแสดงภาพ 360 องศา เพิ่มเข้ามาต่างจากรุ่นอื่นๆ แต่กลับไม่ขึ้นราคา ตรงนี้ก็ชัดเจนว่า มาสด้าต้องประเมินราคาที่แข่งขันได้กับ เอชอาร์-วี และ ซี-เอชอาร์ เอาไว้ด้วย
“มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไมเนอร์เชนจ์” ยังมีพร้อม 2 เฉดสีตัวถังใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ คือสีแดง (Soul Red Crystal)และสีเทา (Machine Grey) ก็จะเห็น 2 สีนี้จากทั้งหมด 7 สีที่มาสด้าใช้โปรโมต
การลองขับบนเส้นทางกรุงเทพฯ-สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งคราวนี้มาสด้าเขามาแปลกคือ ให้รถหลายคันติดตั้งอุปกรณ์จับจักรยานของ “ธูเล่” (Thule) ประเทศสวีเดนเอาไว้ด้วย มีทั้งติดตั้งบนหลังคา และด้านหลังของรถ
ความน่าสนใจคือ นํ้าหนักของจักรยาน 2 และผู้โดยสารพร้อมคนขับรวม 3 คน ไม่ทำให้สมรรถนะของ “ซีเอ็กซ์-3” ดูด้อยลงไป
กล่าวคือมีนํ้าหนักโหลดเพิ่มขึ้นจริง แต่รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า และแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ
6 สปีด ยังวิ่งฉิว จังหวะออกตัวดี เร่งไม่อืด ปลายก็ยังไหลๆ ขณะเดียวกันเสียงเครื่องยนต์ในช่วงการขับปกติก็เบามากๆ
ในส่วนขุมพลังมาสด้าไม่ได้ไปยุ่งอะไรครับ ประสิทธิผลเท่าเดิมกับตอนเปิดตัวครั้งแรก แต่เห็นว่ามีการปรับจูนช่วงล่างใหม่ ทั้งเปลี่ยนสเปกของเหล็กกันโคลง โช้กอัพและสปริง หวังเป้าหมายเพื่อความนุ่มนวล
แต่ถ้าถามผมว่าช่วงล่าง(รุ่นดีเซล)นุ่มนวลลงไหม? ตอบยากครับ แต่สามารถยืนยันเรื่องการเกาะถนนและการทรงตัวที่เฉียบขาดเหมือนเดิม
ด้านอัตราบริโภคนํ้ามัน มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เคลมไว้เฉลี่ย 22.2 กม./ลิตร ตัวเลขถือว่าใกล้เคียงกับ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ที่แจ้งไว้ 24.4 กม./ลิตร ส่วนการขับของผมในทริปนี้ลองวัดในช่วง 60 กม.สุดท้าย (จากแยกเจดีย์หักถึงสวนผึ้ง)ได้ตัวเลขประมาณ 19 กม./ลิตร
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบซีเอ็กซ์-3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร กับ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด (เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า) สมรรถนะรวมๆสูสีครับโดยเฉพาะช่วงล่างและการควบคุมยอดเยี่ยมทั้งคู่ ทว่าเรื่องการตอบสนองของขุมพลัง ผมแอบเทใจไปให้ไฮบริดนิดๆ งานนี้ต้องไปลองขับเอง และดูลักษณะการใช้งานของตนเองเป็นหลัก
รวบรัดตัดความ...มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เจเนอเรชันแรกรุ่นนี้อิงการพัฒนามาจาก “มาสด้า2” ตัวรถขับดี สมรรถนะเยี่ยมทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลแต่เสียที่ว่าขนาดตัวถังเล็กไปนิด ดังนั้นในเจเนอเรชันที่ 2 การพัฒนาจะมีบนแพลตฟอร์มเดียวกับมาสด้า3 โฉมใหม่(เปิดตัวปีหน้า)การันตีความใหญ่ พร้อมการใช้งานที่อเนกประสงค์มากขึ้น แต่เอาละครับถ้าขนาดไม่มีความสำคัญกับคุณ แล้วชอบในรูปลักษณ์ นิยมสมรรถนะก็จัดรุ่นนี้ไปได้เลย
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,391 วันที่ 12 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561
