งบ ‘ไทยนิยม’ 9.5หมื่นล้าน หว่านลงหมู่บ้านหมดกันยายนนี้
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยนิยมฯ ได้รายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการที่สำคัญ ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปี 2561 จำนวน 95,758.1 ล้านบาท ดังนี้
1. แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงิน 21,078 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ ผลจากการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 8.24 ล้านคน จากทั้งหมด 11.4 ล้านคน ระบุว่า ต้องการพัฒนาตนเอง 4.05 ล้านคน แบ่งออกเป็น เกษตรกร 2.97 ล้านคน คนทำงานอิสระ 9.56 แสนคน และผู้ที่ทำงานมีนายจ้างอีก 1.29 แสนคน และกลุ่มผู้ที่ไม่ประสงค์จะพัฒนาตนเอง จำนวน 4.19 ล้านคน ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มนักศึกษาที่เข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียน และกลุ่มวัยทำงาน
อย่างไรก็ดี ครม.ได้มีมติอีกครั้งโดยเห็นชอบในหลักการเรื่อง การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมฯในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียนและอยู่ระหว่างการกลั่นกรองของประชาคมที่ดำเนินการอยู่จำนวน 1,001,541 คน
2. แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร วงเงิน 24,301 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพ มีเกษตรกรได้ประโยชน์ 4.3 ล้านคน อาทิ โครงการสร้างฝายชะลอนํ้าและจัดหาแหล่งนํ้าชุมชน จำนวน 1,349 แห่ง ดำเนินการแล้ว 255 แห่ง โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านแหล่งนํ้าชลประทาน 1,400 แห่ง ดำเนินการแล้ว 32 แห่ง โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร 27,920 ราย ดำเนินการแล้ว 19,743 ราย
โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวเพื่อผลิตสินค้าเกษตรอื่นที่เหมาะสม 6,832 ไร่ ดำเนินการแล้ว 2,534 ไร่ และโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน 1.5 แสนไร่ ดำเนินการแล้ว 0.95 แสนไร่ และโครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จำนวน 99 สหกรณ์ ดำเนินการแล้ว 98 สหกรณ์ เป็นต้น
3. แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพชุมชน 50,379 ล้านบาท มี 3 โครงการย่อย คือ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ตามโครงการไทยนิยมฯ (หมู่บ้าน/ชุมชนละ 2 แสนบาท) วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพ จากข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 มีการเสนอโครงการเข้ามารวมทั้งสิ้น 91,373 โครงการ จาก 80,751 หมู่บ้าน/ชุมชน ผ่านการอนุมัติโครงการในขั้นตอนของ คณะกรรมการบริหารงานอำเภอ/คณะกรรมการของกรุงเทพมหานคร และการพิจารณาเห็นชอบแผนจากผู้ว่าราชการจังหวัดและปลัดกรุงเทพมหานครแล้วทั้งหมด และอยู่ในขั้นตอนของกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่และสำนักงบประมาณเห็นชอบแผนแล้ว จำนวน 91,274 โครงการ หรือคิดเป็น 98.10% โดยมีกำหนดการโอนเงินเข้าบัญชีหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
ขอรับงบ7.1หมื่นโครงการ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ หรือโครงการหมู่บ้าน/ชุมชนละ 2 แสนบาท 71,923 โครงการ จำแนกโครงการออกเป็น 3 ลักษณะ คือ โครงการที่ส่งผลต่อการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้โดยตรง จำนวน 12,271 โครงการ อาทิ ลานตากผลผลิตทางการเกษตร 3,622 โครงการ, การปรับปรุงภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยว 649 โครงการ, โรงสี 583 โครงการ, การเลี้ยงสัตว์ปีก 507 โครงการ และการเลี้ยงสัตว์นํ้า 470 โครงการ
โครงการที่ส่งผลทางอ้อมแต่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างงานสร้างอาชีพ/สร้างรายได้ จำนวน 9,999 โครงการ อาทิ ถนนเพื่อการเกษตร 2,541 โครง การ, ขุดลอกสระ ห้วย หนอง คลอง บึง 2,164 โครงการ, ลาน อเนกประสงค์/สาธารณประโยชน์ 2,045 โครงการ, ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 351 โครงการ และบ่อบาดาล 344 โครงการ
และโครงการที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน 49,653 โครงการ อาทิ โครงการถนนสัญจรภายในหมู่บ้าน 14,362 โครงการ, ศาลากลางบ้าน/ศาลาประชาคม/อาคารอเนกประสงค์ 8,690 โครงการ, ปรับปรุงซ่อม แซมประปาหมู่บ้าน 6,103 โครง การ, หอกระจายเสียง 4,332 โครงการ และเสียงตามสาย จำนวน 2,399 โครงการ
2. โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี วงเงิน 9,328 ล้านบาท โดยกรมการพัฒนาชุมชนมีแผนดำเนินการในหมู่บ้าน 3,273 หมู่บ้าน/ชุมชน ครอบคลุม 76 จังหวัด ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้อมการจัดทำขอบเขตของงาน (TOR) แนวทางการบริหารสัญญา และการขับเคลื่อนโครงการมีศูนย์ประสานงาน “OTOP นวัตวิถี” ระดับภูมิภาค 11 ศูนย์เพื่อจัดทำประเด็นการติดตามและกำหนดแผนการลง พื้นที่ติดตามโครงการในพื้นที่จังหวัดในเขตรับผิดชอบเพื่อติดตามความก้าวหน้า และรายงานผล ข้อเสนอในการดำเนินงานตามโครงการ และจัดตั้งศูนย์ประสานงานของจังหวัดเพื่อสรุปผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำทุกสัปดาห์ และรายเดือน
โอนเงินถึงชุมชนหมดก.ย.นี้
3. โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท มีสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพและยก ระดับรายได้ของประชาชนผ่านกองทุนหมู่บ้านฯ 65,670 กองทุน สนับสนุนให้กองทุนละไม่เกิน 3 แสนบาท
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารโครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนฯ เพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการที่กองทุนหมู่บ้านฯขอรับการสนับสนุน งบประมาณ ที่มี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ พร้อมแจ้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเสนอโครงการในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา และจัดสรรโอนเข้าบัญชีประชารัฐของกองทุนระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน สำหรับขั้นตอนการดำเนินโครงการนั้น จะมีมหาวิทยาลัยราชภัฏในพื้นที่และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามสนับสนุนโครงการในทุกขั้นตอน
บูม 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
โครงการด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ 4 โครงการ คืบหน้าเป็นลำดับ โดยโครงการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชน 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง กรมการท่องเที่ยวได้จัดอบรมพัฒนาทักษะด้านภาษา และการจัดการด้านการท่องเที่ยวให้แก่ชุมชนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 2 รุ่น รวมถึงได้จัดอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนเป็นเวลา 3 วันด้วย
โครงการเที่ยวงานวัด 55 เมืองรองและชุมชน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เดินหน้าจัดประชุมปฏิบัติการชี้แจงแนวทางดำเนินโครงการและวิธีการจัดงานวัฒนธรรมให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 55 จังหวัดรับทราบแนวทางและวิธีการดำเนินโครงการ และสนับ สนุนการจัดกิจกรรมงานวัด 55 จังหวัดเมืองรองเป้าหมายโดยโอนงบประมาณสนับสนุนให้พื้นที่ดำเนินการแล้ว
สำหรับโครงการส่งเสริมชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดประชุมผู้นำชุมชนคุณธรรมฯ เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 701 ชุมชนและจัดกิจกรรมอบรมการเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้กับประชาชนรวม 1.4 แสนคน จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชน ซึ่งมีแผนเบิกจ่ายค่ากิจกรรมอบรม ภายในวันที่ 15 สิงหาคม และให้จังหวัดรายงานผลดำเนินงานจัดกิจกรรม ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
สุดท้าย คือ โครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่รอบอุทยาน โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หาผู้รับจ้างรับดำเนินการก่อสร้างร้านจำหน่ายสินค้าชุมชนรอบอุทยานแห่งชาติ 20 แห่ง ใน 14 จังหวัดรอง ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ
|เซกชั่น : การเมือง
| โดย : โดยโต๊ะข่าวการเมือง
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3390 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 9-11 ส.ค.2561
