เอ็นไอเอ เร่งติดเครื่อง “เมืองนวัตกรรม”

07 ส.ค. 2561 | 06:52 น.
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ริเริ่มโครงการนวัตกรรมสำหรั บเมืองและชุมชน หรือ City & Community Innovation Challenge ภายใต้ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม เพื่อมุ่งบ่มเพาะนักนวัตกรรม สร้างสรรค์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่เพื่ อตอบสนองความต้องการของสังคมและชุมชน โดยยังได้เปิดโอกาสให้กับภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้มี โอกาสนำเสนอแพลทฟอร์มการพั ฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่ที่ สอดคล้องกับเมือง 3 รูปแบบ ได้แก่ เมืองแห่งนวัตกรรมสีเขียว เมืองแห่งความเท่าเทียม เมืองนวัตกรรมที่มีการใช้ ประโยชน์จากพื้นที่  พร้อมมอบทุนสนับสนุนให้กั บโครงการที่มีความเป็นไปได้  โดยในการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกทั้ งสิ้น 8 โครงการ อาทิ โครงการนครแห่งการแปลง เศษอาหาร ให้กลายเป็นสวนผักกกลางเมือง Genius Eye: แอปพลิเคชั่นช่วยผู้พิ การทางสายตา นวัตกรรมสวนสาธารณะลอยน้ำ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต่อยอดโครงการที่ ผ่านการคัดเลือกเหล่านี้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในช่ วงกลางปี 2562

นายคุณาวุฒิ บุญญานพคุณ นายคุณาวุฒิ บุญญานพคุณ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า NIA ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวั ตกรรมในเชิงพื้นที่ตั้งแต่ระดั บเมืองไปจนถึงระดับท้องถิ่น ซึ่งได้มุ่งสร้างความเท่าเทียม การลดช่องว่างทางสังคม พร้อมสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้ นอย่างเป็นรูปธรรมในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติทางเศรษฐกิจ มิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต ฯลฯ  โดยในการสนับสนุนโยบายดังกล่าวได้เน้นให้เกิดการนำองค์ ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิ ตของคนในเมืองและชุมชน ซึ่งในปี 2561 นี้ โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน หรือ City & Community Innovation Challenge 2018 จะมุ่งแก้ไขปัญหาสังคมเมืองและชุมชน ใน 3 รูปแบบ ได้แก่ เมืองแห่งนวัตกรรมสีเขียว (Greenovative City) เมืองแห่งความเท่าเทียม (Inclusive City) และเมืองนวัตกรรมที่มีการใช้ ประโยชน์จากพื้นที่ (Innovative Square meter)

นายคุณาวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA ได้เปิดรับข้อเสนอโครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน ให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่ น ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา มูลนิธิ สมาคม วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ ได้มีโอกาสนำเสนอแพลทฟอร์มการพั ฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่ ที่ส่งผลกระทบอันเป็นประโยชน์ต่ อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเมือง 3 รูปแบบข้างต้น โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการดั งกล่าวจะได้รับทุนสนับสนุน พร้อมนำแพลทฟอร์มที่นำเสนอไปต่ อยอดให้เป็นกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่สามารถใช้ประโยชน์ ได้จริง ทั้งนี้ มีโครงการทั้งหมด 8 โครงการที่ผ่านการคัดเลือกใน 3 หัวข้อ ดังนี้

ภาพโครงการ 1. เมืองแห่งนวัตกรรมสีเขียว ได้แก่ โครงการนครแห่ งการแปลงเศษอาหารให้กลายเป็ นสวนผักกกลางเมือง ซึ่งเป็นนวัตกรรมการจัดการขยะอินทรีย์มาใช้เป็นวัสดุปลูกพืชบนตึก หรือพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ ประโยชน์ ซึ่งจะขยายผลไปสู่กลุ่มพื้นที่ โรงแรมและอาคารรอบอนุสาวรีย์ โรงเรียน และสำนักงานบริษัท ส่วนอีกหนึ่งโครงการคือ ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ PGS แบบออนไลน์ เพื่อรับประกันคุณภาพเกษตรในระดับท้องถิ่น ที่เตรียมขยายผลในจังหวัดสกลนคร และอีก 30 จังหวัดที่เป็นเมืองเกษตรทั่วประเทศ

เมืองสีเขียว 2. เมืองแห่งความเท่าเทียม มีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกคือ Genius Eye: แอปพลิเคชั่นช่วยผู้พิ การทางสายตา สร้างคำอธิบายภาพที่อยู่เบื้องหน้าอย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยแพลทฟอร์มนี้จะนำไปช่วยเหลื อผู้พิการทางสายตาในเครือข่ายสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้ านสายตา และอีกหนึ่งโครงการคือ TRAWELL PASS : แพลตฟอร์มนำเที่ยววิถีชุมชนที่ สามารถดึงนักท่องเที่ยวจากสถานที่ท่องเที่ยวหลั กมากระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้ นที่เขตพระนคร ซึ่งอนาคตจะนำมาใช้ขยายผลในฝั่งธนบุรี ชุมชนกุฎีจีนเขตคลองสาน และชุมชนบางกระเจ้า

3. เมืองนวัตกรรมที่มีการใช้ ประโยชน์จากพื้นที่ โครงการที่ผ่านการคัดเลือก ได้แก่ “ปันจอด” ระบบการแบ่งปันที่จอดรถผ่าน IoT ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการค้นหาที่ จอดรถ โดยมีวัด โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม และห้างสรรพสินค้าในการเป็นพื้นที่แบ่งปันการจอดรถรวม 4,320 คัน จะเริ่มนำร่องที่วัด โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ตามด้วยนวัตกรรมสวนสาธารณะลอยน้ำ ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้ นที่บนเรือขนทรายมาพัฒนาให้เป็ นสวนสาธารณะ และลานกิจกรรมลอยน้ำ โดยมีพื้นที่ตัวอย่าง อาทิ หน่วยงานราชการริมน้ำ เอเชียทีค ท่าเรือต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ ยังมี โครงการโพธิเธียเตอร์ : โรงมหรสพสร้างสรรค์เพื่อการตื่นรู้ ที่จะใช้พื้นที่ของวัดสุทธิวราราม และนำ Digital Art มาสร้างรูปแบบการถ่ ายทอดพระธรรมคำสอนในพื้นที่วัดช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำกิ จกรรมและจะขยายผลสู่วัดและโบสถ์ ทั่วประเทศในอนาคต และโครงการธนบุรี คลองสร้างสรรค์ที่จะนำ BIG DATA มาใช้พัฒนาและฟื้นฟูคลองและชุ มชนริมน้ำธนบุรี พร้อมขยายผลให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อไป

นายคุณาวุฒิ กล่าวปิดท้ายว่า NIA มีความมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชนจะเป็นส่วนช่วยให้ คนในสังคมมีคุณภาพที่ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมเป็นแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและบริบทต่างๆ ที่หลายภาคส่วนกำลังเผชิญให้เป็นไปในทิศทางที่มุ่งหวังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยบ่มเพาะนักคิดและนักพัฒนา ซึ่งถือป็นโจทย์ที่สำคัญสำหรับประเทศไทยและโลกที่จำเป็นต้องเร่งให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังเพื่อความยั่งยืนของสังคมเมื องในระยะยาว