เมย์ วังพัฒนมงคล เจเนอเรชันที่ 3 ผู้สานต่อธุรกิจโรซ่า

10 ก.พ. 2559 | 09:00 น.

การเป็นผู้บริหารเจเนอเรชันที่ 3 ของ "เมย์ วังพัฒนมงคล" ผู้ช่วยรองประธานกรรมการ บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารโรซ่า ถือเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ

ผู้บริหารหญิงคนนี้ จะสามารถสานต่อธุรกิจของครอบครัวให้เติบโตต่อเนื่องได้อย่างไร ท่ามกลางสภาพการแข่งขันและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ วัย 31 ปีคนนี้ บอกเลยว่าเธอมั่นใจ และพร้อมจะผนึกกำลังกับพี่อีก 2 คน ช่วยกันพัฒนาธุรกิจให้เดินหน้าไปได้ด้วยดี


"ที่มีการพูดกันว่า เจน 3 จะเจ๊ง อันนั้นอาจจะเกิดเพราะคนรุ่นที่ 3 เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง บางคนอาจจะไม่มีความอดทน แต่เรื่องนี้มันอยู่ที่การเลี้ยงดู และทัศนคติ สำหรับเมย์ มั่นใจ เรามีคุณพ่อเป็นตัวอย่าง ท่านรู้และลุยทุกอย่างด้วยตัวเอง ท่านมีความอดทน เราเห็นการทำงานของท่านมาตั้งแต่เด็ก และท่านก็เป็นต้นแบบให้กับพวกเรา"

 

"เมย์" เป็นลูกสาวคนเล็ก จากพี่น้อง 3 คนของ พี่ชาย "สุวิทย์ วังพัฒนมงคล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวฯ เธอจบการศึกษาปริญญาตรี ด้านบัญชี จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และไปต่อโทเศรษฐศาสตร์การเมืองที่ประเทศจีน การเข้ามาทำงานในธุรกิจของครอบครัว เธอบอกว่าถือเป็นความโชคดี เพราะเธอมีทั้งคนรุ่นคุณพ่อ คุณอา และยังมีพี่อีก 2 คน ที่ช่วยให้คำปรึกษา และแนะนำการทำงาน ประกอบการเลี้ยงดูที่ดีที่ได้รับมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เป็นคนที่เปิดรับ พร้อมที่จะเรียนรู้ และรู้จักการวางตัวที่ดี



เธอพูดอย่างฉะฉานแบบคนรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเอง และกล้าแสดงออกว่า การเรียนปริญญาโทที่ประเทศจีน ทำให้เธอได้สร้างคอนเนกชันที่ดีกับเพื่อนๆ ซึ่งมีหลากชาติ หลายวัฒนธรรม และอายุ จากการเรียนตรงนั้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เธอทั้งการสื่อสาร การอยู่ร่วมกับคนที่มีความแตกต่างกัน ทำให้เธอสามารถปรับตัวเข้ากับคนได้ง่าย ยิ่งกับการทำงาน ที่ต้องเจอผู้คนมากมาย ทำงานร่วมกันคนต่างเพศต่างวัย

ถ้าย้อนกลับไปดูก่อนที่ "เมย์" จะเข้ามาทำงานกับธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง เธอบอกว่า ตอนเรียนจบกลับมา ได้ทดลองทำงานที่บ้านมาก่อน 1 ปี เพื่อเรียนรู้ว่าตัวเองยังมีข้อบกพร่องอะไร หลังจากนั้นก็ออกไปทำงานข้างนอก เพื่อไปเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และเรียนรู้การเป็นลูกน้องที่ดี เธอใช้เวลากับการทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่งถึง 3 ปี ก่อนที่จะกลับเข้ามาทำกับธุรกิจของครอบครัวอีกครั้ง
 

ประสบการณ์ตอนนั้น ทำให้เธอได้เรียนรู้ทั้งระบบการทำงาน การฝึกทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การได้พูดคุยกับลูกค้า สัมภาษณ์ลูกค้าที่มีหลากหลายธุรกิจ และเธอยังมีหัวหน้าที่ดี ซึ่งเป็นผู้นำที่สอนให้เธอได้เรียนรู้ว่าผู้นำที่ดีควรเป็นอย่างไร
 

"สิ่งที่เราได้เรียนรู้มา คือ การเป็นลูกน้องที่ดี เพื่อที่จะเข้ามาเป็นเจ้านายที่ดี ในอายุที่ยังน้อย คุณควรจะตามคนที่เก่ง ต้องเรียนรู้จากเจ้านายที่เป็นผู้นำคุณได้ ไม่ใช่เจ้านายที่ทำตัวเป็นบอส แต่ต้องเป็นเจ้านายที่เป็นลีดเดอร์เพราะคนที่เป็นบอส เขาจะชี้นิ้วสั่ง คนที่เป็นลีดเดอร์ เขาจะทำให้เราดู"
 

"เมย์" เล่าว่า เจ้านายของเธอคนนี้ ถือเป็นต้นแบบที่สำคัญอีกคนหนึ่งในเรื่องของการใช้กุศโลบายในการสอนงานลูกน้อง รวมไปถึงความอดทน แม้ผู้บริหารข้างบนจะกดดันลงมาเรื่องตัวเลข ทำไมทำไม่ได้แบบนั้นแบบนี้เจ้านายคนนี้ก็ไม่เคยนำอารมณ์ตรงนั้นมากดดันลูกน้องต่อ เขาใช้วิธีการพูดคุยที่ดี คุยถามถึงต้นตอของปัญหา แล้วสอนระบบการทำงาน สอนวิธีคิด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่เธอนำกลับมาใช้กับการทำงานของธุรกิจครอบครัว การทำงานทำให้ต้องติดต่อสื่อสารกับคนหลากหลายรูปแบบ ถ้าขาดความอดทน ก็คงทำงานต่อไปไม่ได้
 

หน้าที่ที่ทายาทเจน 3 คนนี้กลับมารับผิดชอบ คือ ฝ่ายการเงิน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ เธอบอกว่า ไม่ได้ชอบอะไรมากมายกับการทำงานด้านการเงิน แต่เธอเรียนรู้ที่จะรักการทำงาน และทำงานให้ได้ดีอย่างไร รวมทั้งเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา ซึ่งต้องพบเจอทุกวัน ณ ตอนนี้ Priority ของ"เมย์" ก็คือ สานต่อธุรกิจของครอบครัว ให้เดินหน้าไปตามเป้า ถ้าเจอปัญหา ก็พร้อมจะเรียนรู้และแก้ไข ปรับมุมมอง ปรับทัศนคติ
 

และขณะนี้เธอก็กำลังสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ให้กับองค์กร นำความเป็นคนเจเนอเรชันใหม่ที่กล้าคิดกล้าทำเข้ามาผสมผสานในเรื่องของการสร้างแบรนด์ และการสื่อสารแบรนด์ไปสู่คนรุ่นใหม่ ด้วยการใช้โลกโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ จัดทำคอนเทนต์แล้วสื่อสารผ่าน Youtube, Facebook โดยใช้ตัวเองเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ จัดรายการในช่อง "โรซ่า ฟู้ดส์แชนแนล" ให้ความรู้เกี่ยวกับอาหาร และเมนูอาหารรูปแบบใหม่ๆ อัพโหลดลงในโลกออนไลน์
 

"ความตั้งใจของเรา กับการทำธุรกิจ คือ เรามาถึงตอนที่มันโตเป็นวัยกลางคนแล้ว เราก็พยายามที่จะสานต่อไป เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่ผู้บริหารโรซ่าทุกคนตั้งไว้เหมือนกัน คือ การสร้างให้โรซ่าเป็นอาหารของคนไทยจริงๆ" และผู้บริหารหญิงคนนี้ก็บอกว่า เธอจะพยายามเรียนรู้งานในทุกส่วน และจะทำให้ดีที่สุด เพราะเธอเชื่อว่าด้วยทัศนคติดีที่พร้อมเรียนรู้ ไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้ หากมีความพยายามและตั้งใจจริงที่จะทำ
 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,130 วันที่ 11 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559