Yamaha Grand Filano Hybrid ไฮบริดแบบ‘เบาเบา’ราคาเข้าถึงง่าย
แต่ถ้าพูดถึง “มอเตอร์ไซค์ ไฮบริด” แว้บแรกในหัวผมกลับคิดว่า มันมีความจำเป็นหรือไม่ เพราะไหนจะต้องใช้เครื่องยนต์ บวกมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มแบตเตอรี่เข้าไป ไม่รวมชุดกล่องสมองกลต่างๆ ซึ่งราคาขายมีโอกาสบวกขึ้นเป็นหลักหมื่นแน่นอน
แต่ที่สงสัยมากกว่านั้นคือ ปกติมอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์ 125-150 ซีซี มันก็ประหยัดนํ้ามันระดับหนึ่ง หรือเกิน 50-60 กม./ลิตรอยู่แล้ว ถ้าใส่ระบบไฮบริดเพิ่มเข้าไปมันจะช่วยให้รถประหยัดขนาดไหนกัน เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มทั้ง ตัวรถ และการบำรุงรักษาชิ้นส่วนต่างๆของระบบไฮบริดในระยะยาว
โมเดลธุรกิจในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีนี้ ยิ่งเห็นภาพชัดเมื่อ 2 ค่ายใหญ่ “ฮอนด้า” และ “ยามาฮ่า” เลือกเดินกันคนละแนวทาง
ฮอนด้าจัดไมลด์ไฮบริด ระบบไฟฟ้า 48โวลตมาในสกูตเตอร์ รุ่น “พีซีเอ็กซ์” พร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (ยังมีแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแยกอีก 1 ลูก) ส่วนหลักการทำงานที่ให้มอเตอร์ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ ใช้ได้บ่อยใช้ ได้จริงเมื่อออกตัวและบิดคันเร่ง
อย่างไรก็ตาม ฮอนด้า ยอมรับว่าแนวคิดนี้เน้นเพิ่มสมรรถนะมากกว่าการประหยัดนํ้ามัน กล่าวคือ “พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด” จะมีกำลังเทียบเท่า มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 180 ซีซี แต่จะประหยัดนํ้ามันกว่ารุ่น 150 ซีซีแค่ 2-3% เท่านั้น
แต่กระนั้น เมื่อโยนหินถามทางร่วมปี และดูกระแสต่างๆแล้ว “พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด” ไม่น่าจะเป็นโมเดลที่ตอบโจทย์อย่างยั่งยืน จึงตั้งยอดขายภายใน 12 เดือนไว้แค่ 2,000 คัน พร้อมกดราคาเหลือ 99,900 บาท (ตอนแรกคาดกันไว้ว่า 1.1-1.2 แสนบาท)
ส่วนแนวทางของ“ยามาฮ่า” ต่างออกไปครับ เพราะเน้นระบบไฮบริดที่ประหยัดต้นทุนกว่า พร้อมติดตั้งมาในรถรุ่นขายดีที่สุดของตนเองอย่าง “แกรนด์ ฟีลาโน่ 125 ซีซี”
โดย “แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด” เปิดราคารุ่น Standard ไว้ 55,500 บาท และรุ่นเบรก ABS 62,000 บาท หรือเพิ่มจากรุ่นเครื่องยนต์ 125 ซีซีประมาณ 4,000 บาท และปีหน้ารถรุ่นนี้จะขายเป็นแบบไฮบริดทั้งหมด วางเป้าหมายไว้ 7,000 คันต่อเดือน
แน่นอนว่าการเลือกรุ่นขายดีมาใส่ระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม คุ้มค่ากับต้นทุนต่อหน่วยการผลิต ขณะเดียวกันระบบไฮบริดของยามาฮ่า ไม่ได้จริงจังเท่ากับฮอนด้าราคาขายจึงขยับไปไม่มาก
ยามาฮ่าใช้ มอเตอร์/เจเนอเรเตอร์ที่พัฒนาใหม่ มาแทนมอเตอร์สตาร์ตตัวเดิม พร้อมแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแต่เพิ่มขนาดเป็น 5 แอมป์ (เดิม 3 แอมป์) เห็นว่าราคาต่อหน่วยของแบตเตอรี่เพิ่มจาก 500 บาท เป็น 900 บาท
ทั้งนี้ มอเตอร์ที่ยามาฮ่าเรียกว่า SMART MOTOR GENERATOR (SMG) จะเข้ามาช่วยหมุนเครื่องยนต์ให้ติดและเป็นต้นกำลังในการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง สนับสนุนการขับเคลื่อนประมาณ 3 วินาที จากนั้นเครื่องยนต์ 125 ซีซีจะเข้ามาทำงานปกติ
จากรูปแบบของระบบดังกล่าว ยามาฮ่าเคลมว่า “แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด” จะมีแรงบิดดีขึ้น 7% เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ แม้ตัวผมจะรู้สึกไม่ได้ว่ามอเตอร์ไฟฟ้า มีบทบาทช่วยเหลือในช่วงออกตัวจนทำให้รถแรงขึ้นหรือไม่? ทว่าการลองขี่“แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด” ในภาพรวมมีความคล่องตัวสูง จังหวะบิดคันเร่งสอดคล้องกับพละกำลังที่มาตามความต้องการ
การขี่บนถนนแถวปากช่อง ก่อนทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่ พบว่าตัวรถควบคุมง่าย และอาการสะท้านสะเทือนน้อย เช่นเดียวกับจังหวะเบรกที่นุ่มนวลพอสมควร
แม้ทริปนี้จะเป็นการลองขี่แบบระยะทางยาวต่อเนื่อง ไม่ได้ใช้ในเมืองตามสภาพการจราจรที่คุ้นเคย แต่มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ยามาฮ่า ยังปรับการทำงานของระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ STOP & START SYSTEM ให้ฉลาดมากขึ้น
โดยการขี่ปกติ(รถไม่ติดมาก)หลังรถหยุดนิ่งประมาณ 1.5 วินาทีเครื่องยนต์จะดับเพื่อประหยัดนํ้ามัน แต่ในสภาพการจราจรติดขัด เมื่อระบบตรวจจับได้ว่ารถหยุดถี่เกินไป ก็จะลากเวลาเป็น 5 วินาทีก่อนเครื่องยนต์จะดับให้ (ถ้าเครื่องติด-ดับบ่อยๆอาจจะใช้ไฟในแบตเตอรี่เยอะ)
ส่วนอัตราบริโภคนํ้ามัน ยามาฮ่าเคลมว่าดีขึ้น 9% เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์125 ซีซี ส่วนตัวเลขที่แผงหน้าปัดTFT ชัดแม้แดดจ้า แสดงให้เห็นว่าระยะทาง 34 กิโลเมตรบนถนน1016 (แดรี่โฮม)เขาใหญ่ใช้ความเร็ว 60-100 กม./ชม.มีเร่งมีผ่อนแล้วแต่จังหวะ สุดท้ายได้ตัวเลขประมาณ 71 กม./ลิตรครับ
รวบรัดตัดความ...เมื่อพิจารณาฮาร์ดแวร์และหลักการทำงานแล้ว ก็ไม่น่าตื่นเต้นกับคำว่า “ไฮบริด” มากนัก (Emblem หรือสัญลักษณ์คำว่า Hybrid ยังไม่มีแปะที่รถเลย) แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่ยังอิงกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก พร้อมราคาขายที่จับต้องได้ ก็ถือเป็นแนวทางการเริ่มต้นที่น่าชื่นชมครับ
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,390 วันที่ 9 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561
