นายกฯระบุขับเคลื่อน”ไทย”ต้องทำงาน”บูรณาการกัน”

04 ส.ค. 2561 | 07:38 น.
นายกฯระบุขับเคลื่อน”ไทย”ต้องทำงาน”บูรณาการกัน”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า” ในการขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย ทุกภาคส่วน ต่างก็มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบของตนนะครับ แต่การจะแก้ปัญหาให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น ต้องอาศัยการทำงาน "บูรณาการกัน" นะครับ ให้กลมเกลียวอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเน้นย้ำอยู่เสมอ และพยายามปรับวัฒนธรรมการทำงานของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้ทุกฝ่ายพร้อมที่จะร่วมกันทำงาน เพื่อจะวางรากฐานและขับเคลื่อน "อนาคตของประเทศ" ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ในการสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจ เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายนั้น จำเป็นต้องมี "หลักคิด" ที่ตรงกัน ในการตอบคำถาม 3 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

ประเด็นแรก ก็คือว่า ทำไมเราต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีแผนพัฒนาอยู่แล้ว เป็นของ สภาพัฒน์ฯ นะครับ แต่ละกระทรวง ก็มีแผนการทำงานที่กำหนดไว้แล้ว ก่อนอื่นผมขอให้ลองมองปัญหาที่ประเทศเผชิญอยู่ในปัจจุบันนะครับ ทั้งการเปลี่ยนแปลงภายนอกประเทศ ที่เราจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้อง เช่น การปรับเปลี่ยนนโยบายต่าง ประเทศของประเทศมหาอำนาจ ความขัดแย้งทางการเมืองที่ลุกลามไปสู่การค้าและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงนะครับ กับเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา ประเทศขนาดเล็ก ที่จำเป็นต้องพึ่งพาการค้า และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไทยนั้น เราได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของเทคโนโลยี ที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก

tuking

นอกจากนี้ เรายังมีปัญหา เรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศเองนะครับ ที่หยั่งรากลึกมาเป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้ที่เรายังไม่สามารถแก้ไขเยียวยาได้อย่างยั่งยืน ภาคธุรกิจยังมีข้อจำกัด ในการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก เราขาดการลงทุนขนาดใหญ่เพื่ออนาคตในโครงสร้างพื้นฐาน ที่สำคัญของประเทศ รวมไปถึง เตรียมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านะครับซึ่งเรายังคงขาดการเตรียมการเพื่อรองรับสภาพสังคมดังกล่าว

เราอาจจะเตรียมการยังไม่ได้ดีนักนะครับ แต่เราต้องเร่งดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ทั้งในด้านแรงงาน การออม และระบบสาธารณสุข เป็นต้น ปัญหาต่าง ๆ ที่ผมกล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งนะครับ ที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ ซึ่งการจะนำพาประเทศให้ผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้ ทุกฝ่ายจะต้องมีเป้าหมายเดียวกันนะครับ ต้องมองภาพเดียวกัน ให้เกิดขึ้น โดยภาพนั้น ก็หมายถึง "ภาพอนาคตประเทศไทย" นะครับ ที่พวกเราอยากเห็น อยากจะสร้างไว้ให้กับลูกหลานของเรานั่นเอง

เมื่อพูดถึงอนาคตของประเทศไทย หลายท่านอาจจินตนาการนะครับ นึกถึงภาพของประเทศไทยที่แตกต่างกันออกไป เช่น เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน มีโอกาส มีความเสมอภาคในการพัฒนาตนเอง มีระบบสวัสดิการของรัฐที่จำเป็นในการดำรงชีพ อย่างพอเพียงและเหมาะสม เช่น การศึกษา สาธารณสุข การบริการพื้นฐานต่างๆ

บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม ปลอดภัยนะครับ มีสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต รวมถึงการคมนาคม มีระบบขนส่งมวลชน มีรถไฟฟ้า รถไฟ ที่มากขึ้นและเพียงพอ ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ที่สามารถใช้บริการเหล่านี้ได้นะครับ แล้วประชาชนต้องเคารพกฎหมาย อยู่ในศีลธรรม และ จริยธรรมอันดีงาม ตามแบบแผนวัฒนธรรมไทยที่มีมาอย่างยาวนาน

ซึ่งการจะเดินไปสู่อนาคตที่ดีของประเทศไทยนั้น ที่จะให้เป็นประเทศที่ดีของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้นะครับ โดยประชาชน 70 ล้านคน จะต้องมีความรับรู้ ความเข้าใจที่ตรงกัน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงเป็นสิ่งที่จะมาช่วยตอบโจทย์ดังกล่าว ด้วยการกำหนดเป้าหมาย และภาพอนาคตที่เราต้องการเห็น ในอีก 20 ปีข้างหน้า เด็กที่เกิดในวันนี้นะครับ จะก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในภาวะแวดล้อมของประเทศ ที่จะเอื้อให้พวกเขาสามารถมีความเป็นอยู่และรายได้ที่มั่นคง มีเครื่องมือที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเลือกประกอบอาชีพใด เพื่อจะสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิตได้อย่างยั่งยืน และต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของการพัฒนาประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์นี้ ซึ่งก็คือ "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเสมอภาคและเป็นธรรม บนฐานทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน

โดยได้ออกแบบเป้าหมายที่ต้องบรรลุเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ที่ประกอบกันออกมานะครับ ให้เป็น "อนาคตของประเทศ" 6 ด้านที่สอดรับกัน เริ่มจาก (1) คนไทยอยู่ดีมีสุขและสังคมไทยสงบ มั่นคง ปลอดภัย (2) ประเทศมีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ที่เหมาะสมนะครับ (3) ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมและทั่วถึง (4) สังคมไทยมีความเท่าเทียมและความเสมอภาค (5) ประเทศมีความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และ (6) การบริหารจัดการของภาครัฐมีประสิทธิภาพ และประชาชนเข้าถึงสะดวก

ซึ่งเหล่านี้ เป็นเป้าหมายที่จะถูกนำไปใช้ เป็น "กรอบความคิด" ในการจัดทำแผนงานของภาครัฐ แผนปฏิรูปประเทศ รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสภาพัฒน์ฯ ในการขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ไปสู่ภาพอนาคตของประเทศ "ระยะยาว" แล้วก็ถือเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันด้วย

ผมขอเรียนว่าการมียุทธศาสตร์ประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายประเทศมีและได้ใช้ยุทธศาสตร์เป็นเป้าหมายในการกำหนดแนวทางการบริหารประเทศมานานแล้ว อาทิเช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยนะครับ ที่เราจะมีแผนในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ใน
ระยะยาว

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ซึ่งผมและรัฐบาลนี้ มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเร่งดำเนินการตามแผนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศมีรากฐาน และเป้าหมายในการทำงาน ให้สามารถเดินหน้าและต่อยอดในระยะต่อไปได้ การที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีกฎหมายรองรับ ก็เป็นอีกความตั้งใจที่จะสะท้อนความสำคัญและความมุ่งมั่นของภาครัฐ ที่จะทำให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ได้เป็นการล็อค หรือบังคับให้ใครต้องทำอะไร อย่างที่หลายฝ่ายนำมาบิดเบือน โจมตี ในขณะนี้นะครับ เพราะกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้วว่า เมื่อสถานการณ์หรือปัจจัยแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งต้องเปลี่ยนไป ยุทธศาสตร์ชาติก็สามารถจะได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ได้

แต่สิ่งที่เป็นความท้าทายและน่ากังวลมากกว่า ก็คือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้สำเร็จผลตามที่กำหนดไว้ เพราะไม่ว่ายุทธศาสตร์ชาติจะเขียนดีแค่ไหน มีการปรับให้ทันสมัยเพียงใด แต่หากทุกคนไม่ยอมรับ ไม่ช่วยกันนำไปขับเคลื่อน ตามภาระหน้าที่ของตน เป้าหมายหรือ "ภาพอนาคต" ที่วาดหวังไว้นั้น ก็คงเป็นได้แค่เพียง "ความฝัน" “

e-book-1-503x62