หลักการทำธุรกิจ...ต้องมีสเกลการเติบโต

'การบริหารกีฬากับธุรกิจ ก็คล้ายๆ กัน ผมดูหลายอย่างทั้ง 3BB โมโน และบาสเก็ตบอล ซึ่งเริ่มจากงานอดิเรกมาเป็นธุรกิจ เราต้องดูวิธีโต หลักของธุรกิจมันต้องมีสเกล ถ้าทำเล็กๆ มันก็แค่นั้นแหละ'

"ช่องโมโน29" อินเตอร์เน็ต "3BB" และธุรกิจโทรคมนาคมของ "กลุ่มจัสมิน" ล้วนเป็นแบรนด์ธุรกิจที่คนไทยคุ้นหู โดยเฉพาะช่องทีวีดิจิทัลโมโน 29 ที่ถือเป็นน้องใหม่ในธุรกิจทีวี ที่สามารถเติบโตขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ในวงการดิจิทัลทีวีได้ ด้วยเวลาเพียง 4-5 ปี ซึ่งทั้งหมดเกิดจากฝีมือการบริหารของ "พิชญ์ โพธารามิก" ประธานกรรมการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล นักธุรกิจหนุ่มทายาทคนเดียวของ อดิศัย โพธารามิก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มจัสมิน

ชื่อเสียงของซีอีโอคนนี้ เป็นที่รู้จักมากว่า 10 ปี หลังจากผู้เป็นพ่อมอบหมายให้เข้ามาดูแลกิจการของกลุ่มจัสมิน เขาสร้างธุรกิจของเขาแบบค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่ค่อยเปิดตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อซักเท่าไร ยกเว้นจะออกมาแถลงข่าว ธุรกิจหลักๆ ที่ซีอีโอผู้นี้ดูแล ล้วนอยู่ในแวดวงการสื่อสารและความบันเทิง และอีกหนึ่งธุรกิจที่เขากำลังผลักดันมากๆ คือ กีฬาบาสเก็ตบอล หรือสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่เกิดขึ้นจากความชอบส่วนตัว

"พิชญ์" มีหลักคิดและแนวทางการบริหารที่ชัดเจน นั่นคือ การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ...ทุกธุรกิจที่เขาเลือกเข้าไปบริหาร นั่นคือธุรกิจที่มีโอกาสและมีช่องทางในการเติบโต หรืออย่างน้อย ก็ต้องเห็นช่องทางคร่าวๆ ว่ามันจะโตได้ และโตได้อย่างไร เขาจึงจะเข้าไปลุย

"หลักของธุรกิจมันต้องมีสเกล ถ้าทำเล็กๆ มันก็แค่นั้นแหละ 3BB ช่องแรกๆ ก้อกระป๋องกระแป๋ง แต่พอมีสเกล มันก็เริ่มดีขึ้น ธุรกิจสปอร์ต ถ้าทำทีมอย่างเดียวก็ไม่มีสเกล แต่ถ้าเป็นเจ้าของลีก มันก็มีโอกาสในการเติบโต ผมก็ไปติดต่อทาง ABL ขอไปถือหุ้น หรืออาจจะไปถือหุ้นในลีกระดับอาเซียน เพราะเราหวังจะขยายผล"

หลายธุรกิจที่ผู้บริหารคนนี้เริ่มทำ ไม่ได้เริ่มต้นสวยหรู แต่เขาพร้อมที่จะลุย และพัฒนาธุรกิจนั้นๆ ตามโอกาสที่เขามองเห็น เขายกตัวอย่างจากธุรกิจภาพยนตร์ ที่ทำมา 13 ปี เจ๊งทุกเรื่อง แน่นอนในช่วงนั้นย่อมมีความรู้สึกท้อ แต่เขาไม่ยอมแพ้ จนได้มือดีอย่าง วิสูตร พูลวรลักษณ์ เข้ามาช่วย แล้วดันคอนเทนต์ภาพยนตร์เหล่านี้ลงช่องโมโน 29 ตอนนี้เขาบอกว่า คืนทุนหมดแล้ว สาเหตุที่ทุกอย่างสามารถเดินหน้าต่อได้ เพราะเขาไม่ยอมแพ้ และพร้อมที่จะปรับตัว แล้วรอเวลาจนถึงจุดหนึ่ง เมื่อทุกอย่างเดินถูกทาง รายได้ก็จะกลับเข้ามาเอง

"เราเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมแพ้ แต่ก็ไม่ได้ดื้อ ถ้าไม่ไหว ก็ไม่ฝืน แต่ถ้าเรายังเห็นโอกาสมันอยู่ เราก็จะทำไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ถ้ามันเพลย์เอ้าท์มันก็ได้กลับมาเยอะ"

อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ การทำช่องทีวีดิจิทัล โมโน 29 ที่เขาเลือกแพลตฟอร์มเป็นช่องหนังฮอลีวู้ดส์ แรกๆ เขาได้รับคำถามมาตลอดว่าช่องแบบนี้จะมีคนดูเยอะหรือ แต่มาจนวันนี้เข้าปีที่ 4-5 พาร์ทเนอร์หลาย คนพูดกับเขาว่า ไม่คิดว่ายูจะมาไกลได้ขนาดนี้ และนี่คือต้นแบบ (success model) ที่ฮอลีวู้ดส์มองเห็น จากบิซิเนสโมเดลง่ายๆ ที่ "พิชญ์" บอกว่า มันเป็นโมเดลคอนเซ็ปท์แบบง่ายๆ ลอจิกมันคือ เอาของดีให้คนดู แล้วทำไมคนจะไม่ดู ซึ่งเขาก็พิสูจน์ให้เห็นจากเรตติ้งช่องทีวีดิจิทัลยอดนิยม ที่โมโน 29 สามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลาเพียง 4 ปี เท่านั้น

ความท้าทายใหม่ๆ ของนักธุรกิจคนนี้ คือ การตอบรับกับ Digital Disruption ที่คนหันมาให้ความสนใจกับการดูลคอนเทนต์ผ่านมือถือ ไตรมาส 3 ของปีนี้ เขาจึงปรับโมเดลสื่อใหม่ ด้วยการผลักดันโมโนแมกซ์ ซึ่งให้บริการดูหนังออนไลน์ ด้วยการนำคอนเทนต์จากช่องโมโน 29 ใส่ลงไปให้มากที่สุด ให้คนดูได้เลือกเองว่าอยากรับชมผ่านช่องทางไหน พร้อมปรับเพิ่มค่าบริการ จากเดือนละ 129 บาท ขึ้นเป็น 250 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการเปลี่ยน FTTx (เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง/ ไฟเบอร์ออฟติก) มาเป็น Fiber Optic Internet พร้อมทั้งขยายฐานผู้ใช้จาก 2.6 ล้านราย มาเป็น 5 ล้านราย มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ภายในอีก 2-3 ปี รวมทั้งการผลักดันให้กีฬาบาสเก็ตบอลได้รับความนืยมเพิ่มขึ้น ด้วยการสร้างลีก พร้อมทั้งนำทีมโมโน แวมไพร์ไปคว้าที่ 1 ใน ASEAN Basketball League (ABL) และขยับอันดับจาก 6 เป็น 4 ใน International Basketball Federation (FIBA) ให้ได้

ทั้งหมดนั่นคือ โอกาสที่ "พิชญ์ โพธารามิก" มองเห็น และมุ่งมั่นว่า จะต้องไปให้ถึงในที่สุด