เปิดจุดเวนคืน9.6พันไร่ รถไฟเด่นชัย-เชียงของ
ร.ฟ.ท.เดินหน้าออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ 9.6 พันไร่ วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ใน 4 จังหวัดภาคเหนือ สร้างรถไฟทางคู่สายใหม่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงของ
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงินงบประมาณ 85,345 ล้านบาท ระยะทางรวม 323 กิโลเมตร
แหล่งข่าวจากกร.ฟ.ท. ระบุว่า เร็วๆ นี้ร.ฟ.ท.จะออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินบริเวณก่อสร้างโครงการเพื่อ
สร้างทางรถไฟ และสะพานข้ามทางรถไฟ ประมาณ 9,661 ไร่ วงเงิน 10,660 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินของร.ฟ.ท. จึงต้องทำการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดแนวเส้นทาง
สำหรับพื้นที่ที่จะเวนคืนจะอยู่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ 1.อำเภอเด่นชัย ที่ ต.เด่นชัย ต.ป่าหวาย 2.อำเภอสูงเม่น ที่ ต.นํ้าซำ ต.สูงเม่น ต.พระหลวง ต.สบสาย ต.ดอนมูล ต.ร่องกาศ 3.อ.เมืองแพร่ ที่ ต.นาจักร ต.กาญจนา ต.เหมืองหม้อ ต.ทุ่งกวาว ต.ทุ่งโฮ้ง ต.แม่หล่าย ต.แม่คำมี 4. อ.สอง ที่ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ ต.หัวเมือง ต.แดนชุมพล ต.ทุ่งน้าว ต.ห้วยหม้าย ต. บ้านหนุน ต. บ้านกลาง
จังหวัดลำปาง ในพื้นที่อำเภอง้าว ได้แก่ ต.แม่ตีบ ต.หลวงใต้ ต.บ้านแหง ต.หลวงเหนือ ต.นาแก ต.ปงเตา ต.บ้านร้อง
จังหวัดพะเยา อำเภอเมืองพะเยา ในพื้นที่ ต.แม่กา ต.จำป่าหวาย ต.แม่ตํ๋า ต.ท่าวังทอง อำเภอดอกคำใต้ พื้นที่ ต.ดอกคำใต้ ต.ห้วยลาน อำเภอภูกามยาว ที่ต.แม่อิง ต.ดงเจน และต.ห้วยแก้ว
จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอป่าแดด พื้นที่ ต.สันมะค่า ต.ป่าแดด ต.โรงช้าง ต.ป่าแงะ อำเภอเทิง ที่ต.เชียงเคียน อำเภอเมืองเชียงราย ที่ ต.ดอยลาน ต.ห้วยสัก ต.ท่าสาย ต.รอบเวียง อำเภอเวียงชัย ที่ ต.เวียงชัย ต.เวียงเหนือ ต.เมืองชุม อำเภอเชียงรุ้ง ที่ ต.ทุ่งก่อ ต.ป่าซาง อำเภอดอยหลวง ที่ต.โชคชัย อำเภอเชียงของ ที่ต.ห้วยซ้อ ต.ศรีดอนชัย ต.สถาน ต.เวียง
สำหรับโครงการรถไฟ ทางคู่สายใหม่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะเริ่มประกวดราคาภายในปีนี้ เวนคืนที่ดิน ช่วง กรกฎาคม.-ธันวาคม 2562 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2562 ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565
สำหรับประมาณการรายจ่ายจากโครงการจากวงเงินงบประมาณรวม 85,345 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ 1,764 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 3 สัญญา รวม 72,921 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 เด่นชัย-งาว 26,704 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งาว-เชียงราย 28,735 ล้านบาท สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ 17,482 ล้านบาท
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ จุดเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ แนวเส้นทางมุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่านจังหวัดลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงราย จำนวน 26 สถานี ประกอบด้วย สถานีใหญ่ 4 สถานี คือ สถานีเด่นชัย แพร่ พะเยา และเชียงราย สถานีเล็ก 9 สถานี คือ สถานีสูงเม่น แม่คำมี สอง งาว มหาวิทยาลัยพะเยา ป่าแดด เวียงเชียงรุ้ง ชุมทางบ้านป่าซาง และเชียงของ และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง คือ สถานีหนองเสี้ยว แม่ตีบ ปงเตา บ้านโทกหวาก ดงเจน บ้านร้อง บ้านใหม่ ป่าแงะ บ้านโป่งเกลือ บ้านสันป่าเหียง ทุ่งก่อ บ้านเกี๋ยง และศรีดอนชัย โดยมีลานขนถ่ายสินค้าจำนวน 4 แห่ง ที่สถานีแพร่ พะเยา ป่าแดด และเชียงราย และมีลานกองเก็บตู้สินค้าจำนวน 1 แห่ง บริเวณสถานีเชียงของ
“ร.ฟ.ท.คาดการณ์ว่าหลังเปิดให้บริการในปี 2566 จะมีผู้โดยสาร 5,614 คนต่อวัน และเพิ่มเป็น 9,816 คนต่อวัน ในปี 2575 ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้า ปี 2566 ประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี และ 8.23 ล้านตันต่อปี”
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงินงบประมาณ 85,345 ล้านบาท ระยะทางรวม 323 กิโลเมตร
แหล่งข่าวจากกร.ฟ.ท. ระบุว่า เร็วๆ นี้ร.ฟ.ท.จะออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินบริเวณก่อสร้างโครงการเพื่อ
สร้างทางรถไฟ และสะพานข้ามทางรถไฟ ประมาณ 9,661 ไร่ วงเงิน 10,660 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินของร.ฟ.ท. จึงต้องทำการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดแนวเส้นทาง
สำหรับพื้นที่ที่จะเวนคืนจะอยู่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ 1.อำเภอเด่นชัย ที่ ต.เด่นชัย ต.ป่าหวาย 2.อำเภอสูงเม่น ที่ ต.นํ้าซำ ต.สูงเม่น ต.พระหลวง ต.สบสาย ต.ดอนมูล ต.ร่องกาศ 3.อ.เมืองแพร่ ที่ ต.นาจักร ต.กาญจนา ต.เหมืองหม้อ ต.ทุ่งกวาว ต.ทุ่งโฮ้ง ต.แม่หล่าย ต.แม่คำมี 4. อ.สอง ที่ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ ต.หัวเมือง ต.แดนชุมพล ต.ทุ่งน้าว ต.ห้วยหม้าย ต. บ้านหนุน ต. บ้านกลาง
จังหวัดลำปาง ในพื้นที่อำเภอง้าว ได้แก่ ต.แม่ตีบ ต.หลวงใต้ ต.บ้านแหง ต.หลวงเหนือ ต.นาแก ต.ปงเตา ต.บ้านร้อง
จังหวัดพะเยา อำเภอเมืองพะเยา ในพื้นที่ ต.แม่กา ต.จำป่าหวาย ต.แม่ตํ๋า ต.ท่าวังทอง อำเภอดอกคำใต้ พื้นที่ ต.ดอกคำใต้ ต.ห้วยลาน อำเภอภูกามยาว ที่ต.แม่อิง ต.ดงเจน และต.ห้วยแก้ว
จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอป่าแดด พื้นที่ ต.สันมะค่า ต.ป่าแดด ต.โรงช้าง ต.ป่าแงะ อำเภอเทิง ที่ต.เชียงเคียน อำเภอเมืองเชียงราย ที่ ต.ดอยลาน ต.ห้วยสัก ต.ท่าสาย ต.รอบเวียง อำเภอเวียงชัย ที่ ต.เวียงชัย ต.เวียงเหนือ ต.เมืองชุม อำเภอเชียงรุ้ง ที่ ต.ทุ่งก่อ ต.ป่าซาง อำเภอดอยหลวง ที่ต.โชคชัย อำเภอเชียงของ ที่ต.ห้วยซ้อ ต.ศรีดอนชัย ต.สถาน ต.เวียง
สำหรับโครงการรถไฟ ทางคู่สายใหม่เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะเริ่มประกวดราคาภายในปีนี้ เวนคืนที่ดิน ช่วง กรกฎาคม.-ธันวาคม 2562 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2562 ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565
สำหรับประมาณการรายจ่ายจากโครงการจากวงเงินงบประมาณรวม 85,345 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ 1,764 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 3 สัญญา รวม 72,921 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 เด่นชัย-งาว 26,704 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งาว-เชียงราย 28,735 ล้านบาท สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ 17,482 ล้านบาท
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ จุดเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ แนวเส้นทางมุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่านจังหวัดลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงราย จำนวน 26 สถานี ประกอบด้วย สถานีใหญ่ 4 สถานี คือ สถานีเด่นชัย แพร่ พะเยา และเชียงราย สถานีเล็ก 9 สถานี คือ สถานีสูงเม่น แม่คำมี สอง งาว มหาวิทยาลัยพะเยา ป่าแดด เวียงเชียงรุ้ง ชุมทางบ้านป่าซาง และเชียงของ และป้ายหยุดรถ 13 แห่ง คือ สถานีหนองเสี้ยว แม่ตีบ ปงเตา บ้านโทกหวาก ดงเจน บ้านร้อง บ้านใหม่ ป่าแงะ บ้านโป่งเกลือ บ้านสันป่าเหียง ทุ่งก่อ บ้านเกี๋ยง และศรีดอนชัย โดยมีลานขนถ่ายสินค้าจำนวน 4 แห่ง ที่สถานีแพร่ พะเยา ป่าแดด และเชียงราย และมีลานกองเก็บตู้สินค้าจำนวน 1 แห่ง บริเวณสถานีเชียงของ
“ร.ฟ.ท.คาดการณ์ว่าหลังเปิดให้บริการในปี 2566 จะมีผู้โดยสาร 5,614 คนต่อวัน และเพิ่มเป็น 9,816 คนต่อวัน ในปี 2575 ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้า ปี 2566 ประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี และ 8.23 ล้านตันต่อปี”
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
