BMWขันนอต‘มินิ’ส่งคันทรีแมนประกอบมาเลเซีย-จัดอีเวนต์ดันยอด

-3  ส.ค. 61- มินิ ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ใส่เกียร์เดินหน้าช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยโปรดักต์รุ่นปรับโฉมครบทุกตัวถังหลัก และตัวถังเอสยูวีคันทรีแมน ที่ย้ายการผลิตจากโรงงานไทยไปมาเลเซียเริ่มทำตลาดเดือนสิงหาคมนี้  พร้อมจัดงานใหญ่ MINI Expo 2018 ที่เซ็นทรัลเวิลด์

ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มินิ ประเทศไทย มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวรถใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ หรือที่ค่ายนี้เรียกว่า LCI-Life Cycle Impulse โดยมาครบทั้งตัวถังแฮตช์แบ็ก 3 ประตู และ5 ประตู ตัวถังเปิดประทุน (Convertible) นอกจากนี้ยังมีตัวแรง JCW “จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์”ในรุ่นตัวถังแฮตช์แบ็ก 3 ประตู และเปิดประทุน เป็นทางเลือกให้เศรษฐีเท้าหนักเหมือนเดิม

[caption id="attachment_303109" align="aligncenter" width="503"] มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 (สีฟ้า) นำเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017[/caption]

ส่วนการเปลี่ยนแปลง จะเห็นชัดกับไฟหน้าแบบวงแหวนที่ปรับรายละเอียดภายในโคมใหม่ รุ่นคูเปอร์ เอส ใช้หลอด LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชันไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มขณะที่ทำการเปิดไฟเลี้ยว

ตลอดจน Adaptive LED Headlights ในรุ่น จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮตช์ ช่วยปรับความสว่างของไฟหน้าแบบอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง และปรับองศาไฟขณะเข้าโค้ง มาพร้อมกับเทคโนโลยี Matrix light ที่ยกระดับทัศนวิสัยในการขับขี่ด้วยการเปิด-ปิดระบบไฟส่องสว่างโดยอัตโนมัติเมื่อกล้องในรถยนต์ตรวจจับได้ว่ามีรถยนต์คันอื่นสวนมา

โคมไฟท้ายเพิ่มลูกเล่นด้วยเส้นไฟ LED ลายธงยูเนียนแจ๊กแห่งสหราชอาณาจักร(รุ่นคูเปอร์ เอส และจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮตช์) โดยไฟเบรกจะใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง และไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทแยง เมื่อไฟหน้าเปิดอยู่

ส่วนล้ออัลลอยลายใหม่มี 4 แบบ คือ ลาย Victory Spoke Black ขนาด 16 นิ้ว ลาย Roulette Spoke 2-tone ขนาด 17 นิ้ว ลาย Rail Spoke 2-tone ขนาด 17 นิ้ว และ ลาย MINI Yours Vanity Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมฝาครอบล้อใหม่ลาย MINI Yours

ส่วนขุมพลังในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นจะมีการเพิ่มแรงดันสูงสุดในการฉีดนํ้ามันจาก 200 เป็น 350 บาร์ ควบคู่ไปกับใบพัดเทอร์โบชาร์เจอร์ที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูง ขณะที่ฝาครอบเครื่องยนต์นำวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) มาใช้เป็นครั้งแรกจึงทำให้มีนํ้าหนักเบาลง

โดยมินิ แฮตช์ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร(รุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี) และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 192 แรงม้าในรุ่นคูเปอร์ เอส ส่วนระบบส่งกำลัง ในรุ่นคูเปอร์และคูเปอร์ เอส จะมาพร้อมกับเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีดใหม่ ส่วนตัวแรงจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮตช์ จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด



ด้านความคืบหน้าในตัวถังเอสยูวี “คันทรีแมน” ที่เปิดตัวโฉมใหม่ (F60)ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการนำเข้าทั้งคันจากยุโรป ราคา 2.339-2.999 ล้านบาท และเหมือนรุ่นประกอบในประเทศจะล่าช้าออกไป

ล่าสุดชัดเจนแล้วว่า “คันทรีแมน” เจเนอเรชันที่ 2 จะย้ายการประกอบจากโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูจังหวัดระยอง ไปยังโรงงานประเทศมาเลเซียและนำเข้ามาขายในไทยภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งไม่เสียภาษีนำเข้า ด้วยทางเลือกขุมพลังเบนซิน (คูเปอร์เอส) ส่วนขุมพลังปลั๊ก-ไฮบริด ยังต้องลุ้นต่อไปว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะพร้อมทำตลาดในไทยเมื่อไหร่

อย่างไรก็ตาม ด้วยการเป็นรุ่นประกอบ SKD จากประเทศมาเลเซีย ย่อมส่งผลให้ราคาขายคันทรีแมนถูกลง โดยรุ่น คูเปอร์ เอส เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 192 แรงม้า ประกบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ราคาขายลงมาอยู่ 2.29 ล้านบาท (จาก 2.659 ล้านบาท) พร้อมทำตลาดปลายเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งสอดคล้องกับอีเวนต์ใหญ่ของตนเองที่กำลังจะเกิดขึ้น

[caption id="attachment_304214" align="aligncenter" width="503"] มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ราคา 2.499 ล้านบาท[/caption]

โดย “คันทรีแมน” SKD มาเลเซีย จะเป็นไฮไลต์สำคัญในงาน MINI Expo 2018  ที่เตรียมจัดระหว่าง วันที่16-19 สิงหาคม นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

MINI Expo ถูกแยกออกมาจัดอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นิยมจัดงาน BMW Expo มาแล้วหลายครั้งที่ศูนย์การค้าเดียวกัน โดยเตรียมอวดโฉม มินิทุกรุ่นที่ทำตลาดในไทย และแคมเปญส่งเสริมการขายสุดพิเศษ ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาสที่ 3 ได้เป็นอย่างดี

สำหรับยอดขายมินิ ประเทศไทยปีที่แล้วทำได้ 1,010 คัน โต 11% เมื่อเทียบกับปี 2559 และคาดว่าปีนี้จะทำยอดขายได้ใกล้เคียงเดิม

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,389 วันที่ 5 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561