ททท.จ้างเอเยนซีเซี่ยงไฮ้
กู้ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยปลุกเชื่อมั่นทัวริสต์จีน
ททท.จ้างพีอาร์ เอเยนซีของเซี่ยงไฮ้ เร่งสื่อสารการตลาด สร้างความเชื่อมั่น ลดผลกระทบจากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯคาดครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทัวร์จีนลดลงจากปกติกว่า 6.69 แสนคน ทั้งรับลูกรองนายกฯสมคิด ศึกษาตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เป็นวันสต็อปเซอร์วิสสำหรับตลาดจีน
จากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนนับจากเดือนกรกฎาคมจากเหตุเรือล่ม ในจ.ภูเก็ตที่เกิดขึ้น ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลงไปจากแนวโน้มปกติราว 6.69 แสนคน กระทบต่อรายได้ที่ลดลงจากแนวโน้มปกติ 3.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ในขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนอกจาก อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาแล้ว ยังต้องกระตุ้นตลาด เพื่อลดผล กระทบที่เกิดขึ้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เผยว่า ในขณะนี้ททท.ได้ตัดสินใจเลือกบริษัทพีอาร์ เอเยนซี ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อมาดำเนินการด้านการสื่อสารการตลาด ในการสร้างความเชื่อมั่น ลดกระแสการต่อต้าน รวมถึงทำการตลาดในจีน เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงโกลเดนวีก
รวมถึงในเดือนกันยายนนี้ ททท.ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรดโชว์ ไปยังเมืองจีน เพื่อกระตุ้นตลาดอีกทาง หลังจากที่สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) รายงานว่ากรุ๊ปทัวร์ยกเลิกการเดินทางไป 20- 30% ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลอดทั้งเดือนอาจมีการติดลบเล็กน้อย ลดลงจากเดิมที่ตลาดจีนขยายตัวได้มาก กว่า 20% ต่อเดือน
นอกจากนี้ ททท.ยังจะ ต้องร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ในการจัดตั้งหน่วยงานบริการนักท่องเที่ยวจีน แบบวันสต็อปเซอร์วิส ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มองว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก ควรมีการดูแลแยกออกมา เหมือนกับธนาคาร ที่จะมีระบบการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ที่แยกออกมาต่างหาก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากการประชุมคณะ กรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ(ท.ท.ช.) ว่า การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน เชื่อว่าเป็นผลกระทบ ชั่วคราว เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการจัดระเบียบ ให้ถูกต้อง ในแง่มุมของกฎหมายนำโดยตำรวจท่องเที่ยว ทั้งจากกรณีดังกล่าวไทยควรจะมีมาตรการบริการดูแลที่ดีเป็นพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ที่เดินทางมาไทยจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความพึงพอใจในทุกสถานที่ทุกแห่งที่นักท่องเที่ยวเข้าถึง โดยเริ่มต้นที่ตลาดจีน เนื่องจากมีฐานนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคน
โดยมอบหมายให้ททท.ไปศึกษาการจัดตั้งโครงสร้างหน่วยงานที่จะทำให้เกิดการดูแลทั้งระบบ นับตั้งแต่การใช้เทคโน โลยี สื่อเป็นภาษาจีนแจ้งข้อมูลจำเป็นให้แก่นักท่องเที่ยว การเตือนภัย รวมถึงเป็นช่องทางให้ร้องเรียนโดยตรงเวลาที่เกิดปัญหา หรืออำนวยความสะดวกต่างๆตั้งแต่ขั้นตอนการทำวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองว่าจะช่วยให้เกิดความสามารถรองรับในปริมาณนักท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นหรือไม่ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ซึ่งภายใน 10 วันนี้จะต้องเห็นแผนการที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 23-25 สิงหาคมนี้
ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ททท. ได้หารือกับ 3 บริษัทพีอาร์เอเยนซีของจีน เพื่อเชิญให้เข้ามานำเสนอแผนทำ Social Engagement Marketing เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่อง เที่ยวตลาดจีน ที่ขณะนี้มีปัญหาอยู่ที่การสื่อสารมากกว่า โดยจะตั้งงบประมาณไว้ราว 10 ล้านบาท ในการคัดเลือก 1 บริษัท เพื่อ ดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นแผนระยะสั้น ส่วนเทศกาลกินเจภูเก็ตที่จะมาถึงในช่วงเดือนตุลาคม จะมีการเชิญบล็อกเกอร์จีนและเซเลบริตีมาร่วมงานด้วย
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3389 ระหว่างวันที่ 5 - 8 สิงหาคม 2561
ททท.จ้างพีอาร์ เอเยนซีของเซี่ยงไฮ้ เร่งสื่อสารการตลาด สร้างความเชื่อมั่น ลดผลกระทบจากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯคาดครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทัวร์จีนลดลงจากปกติกว่า 6.69 แสนคน ทั้งรับลูกรองนายกฯสมคิด ศึกษาตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เป็นวันสต็อปเซอร์วิสสำหรับตลาดจีน
จากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนนับจากเดือนกรกฎาคมจากเหตุเรือล่ม ในจ.ภูเก็ตที่เกิดขึ้น ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลงไปจากแนวโน้มปกติราว 6.69 แสนคน กระทบต่อรายได้ที่ลดลงจากแนวโน้มปกติ 3.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ในขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนอกจาก อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาแล้ว ยังต้องกระตุ้นตลาด เพื่อลดผล กระทบที่เกิดขึ้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เผยว่า ในขณะนี้ททท.ได้ตัดสินใจเลือกบริษัทพีอาร์ เอเยนซี ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อมาดำเนินการด้านการสื่อสารการตลาด ในการสร้างความเชื่อมั่น ลดกระแสการต่อต้าน รวมถึงทำการตลาดในจีน เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงโกลเดนวีก
รวมถึงในเดือนกันยายนนี้ ททท.ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรดโชว์ ไปยังเมืองจีน เพื่อกระตุ้นตลาดอีกทาง หลังจากที่สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) รายงานว่ากรุ๊ปทัวร์ยกเลิกการเดินทางไป 20- 30% ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลอดทั้งเดือนอาจมีการติดลบเล็กน้อย ลดลงจากเดิมที่ตลาดจีนขยายตัวได้มาก กว่า 20% ต่อเดือน
นอกจากนี้ ททท.ยังจะ ต้องร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ในการจัดตั้งหน่วยงานบริการนักท่องเที่ยวจีน แบบวันสต็อปเซอร์วิส ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มองว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก ควรมีการดูแลแยกออกมา เหมือนกับธนาคาร ที่จะมีระบบการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ที่แยกออกมาต่างหาก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากการประชุมคณะ กรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ(ท.ท.ช.) ว่า การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน เชื่อว่าเป็นผลกระทบ ชั่วคราว เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการจัดระเบียบ ให้ถูกต้อง ในแง่มุมของกฎหมายนำโดยตำรวจท่องเที่ยว ทั้งจากกรณีดังกล่าวไทยควรจะมีมาตรการบริการดูแลที่ดีเป็นพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ที่เดินทางมาไทยจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความพึงพอใจในทุกสถานที่ทุกแห่งที่นักท่องเที่ยวเข้าถึง โดยเริ่มต้นที่ตลาดจีน เนื่องจากมีฐานนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคน
โดยมอบหมายให้ททท.ไปศึกษาการจัดตั้งโครงสร้างหน่วยงานที่จะทำให้เกิดการดูแลทั้งระบบ นับตั้งแต่การใช้เทคโน โลยี สื่อเป็นภาษาจีนแจ้งข้อมูลจำเป็นให้แก่นักท่องเที่ยว การเตือนภัย รวมถึงเป็นช่องทางให้ร้องเรียนโดยตรงเวลาที่เกิดปัญหา หรืออำนวยความสะดวกต่างๆตั้งแต่ขั้นตอนการทำวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองว่าจะช่วยให้เกิดความสามารถรองรับในปริมาณนักท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นหรือไม่ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ซึ่งภายใน 10 วันนี้จะต้องเห็นแผนการที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 23-25 สิงหาคมนี้
ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ททท. ได้หารือกับ 3 บริษัทพีอาร์เอเยนซีของจีน เพื่อเชิญให้เข้ามานำเสนอแผนทำ Social Engagement Marketing เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่อง เที่ยวตลาดจีน ที่ขณะนี้มีปัญหาอยู่ที่การสื่อสารมากกว่า โดยจะตั้งงบประมาณไว้ราว 10 ล้านบาท ในการคัดเลือก 1 บริษัท เพื่อ ดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นแผนระยะสั้น ส่วนเทศกาลกินเจภูเก็ตที่จะมาถึงในช่วงเดือนตุลาคม จะมีการเชิญบล็อกเกอร์จีนและเซเลบริตีมาร่วมงานด้วย
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3389 ระหว่างวันที่ 5 - 8 สิงหาคม 2561
