อเมซอนบุกตลาดโลก ปูพรมท้าชน ‘สตาร์บัคส์’
“อเมซอน” เปิดแผนท้าชน “สตาร์บัคส์” เตรียมปั้นแบรนด์สู่ตลาดโลกใน 5-10 ปี ปูพรม 2 หมื่นแห่งทั่วโลกสู่ความเป็นป๊อปปูลาร์ แบรนด์ ในราคาที่เข้าถึงได้ เปิดสเต็ปแรกกรุยทางเอเชียทั้งจีน ญี่ปุ่น และโอมาน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายช่วง 5-10 ปีนับจากนี้ด้วยการปั้นร้าน กาแฟอเมซอนสู่ความเป็นโกลบัลแบรนด์ และมีจำนวนสาขาทั่วโลกราว 2 หมื่นแห่ง หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนร้านกาแฟระดับโลกอย่าง สตาร์บัคส์ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ราว 2 หมื่นแห่งทั่วโลก หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขยายตลาดเข้าไปในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีและอาเซียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีจำนวนสาขาทั้งในและต่างประเทศในปัจจุบัน 2,300-2,400 แห่ง
สำหรับสเต็ปแรกของการทำตลาดจะเป็นการสร้างแบรนด์โดยการขยายตลาดเข้าไปในภูมิภาคเอเชีย ในช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ โดยล่าสุดได้เตรียมเข้าไปขยายสาขาในจีน ญี่ปุ่น และโอมาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบของแฟรนไชส์ การร่วมทุนและบริษัทเข้าไปลงทุนเอง ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับบริษัท โอมาน ออยล์ จำกัด ในการขยายสาขาร้านกาแฟอเมซอน (มาสเตอร์แฟรนไชส์) ไปยังประเทศโอมานภายในเดือนนี้
ทั้งนี้การขยายสาขาเข้าไปในโอมานถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้ประเทศดังกล่าวเป็นฮับขยายร้าน กาแฟอเมซอนไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นรีจินัลแบรนด์ช่วง 3-5 ปีก่อนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในแถบยุโรปตามแผนงานในอนาคต
“การขยายตลาดเข้าไปยังโอมานถือว่าเป็นสปริงบอร์ดสำคัญในการรุกเข้าไปในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เนื่องจากมองว่าโอมานเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิด ขณะที่ดูไบกลายเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมตะวันตกไปแล้ว กอปรกับบริษัทได้มีการพูดคุยกับบริษัท โอมาน ออยล์ จำกัด และชอบในแนวคิดธุรกิจของกาแฟอเมซอน ที่มีการขยายร้านกาแฟในปั๊มและนอกปั๊ม จึงได้เข้ามากลายเป็นแฟรนไชส์ของบริษัทในการขยายตลาด”
ขณะที่แผนการปั้นแบรนด์ในตลาดระดับโลกคือการเน้นปรับโมเดลธุรกิจให้สอดรับของพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละประเทศให้มากที่สุด โดยวางโพสิชันของแบรนด์สู่ความเป็นป๊อปปูลาร์ แบรนด์ ที่เน้นเจาะผู้บริโภคในตลาดกลางที่อยากดื่มกาแฟสดในราคาที่เข้าถึงได้หรือ Value For money ผ่านเอกลักษณ์ในการสร้างความแตกต่างคือการเป็นร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมภายใต้คอนเซ็ปต์กรีนโอเอซิส (Green OASIS) ภายในร้านทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และสภาพแวดล้อมการตกแต่ง (Value Chain)
ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อดูงานในส่วนของโกลบัลแบรนด์โดยเฉพาะ และมีการนำที่ปรึกษาเข้ามาช่วยดูแลและศึกษาอย่างดีก่อนที่จะขยายตลาดออกไป ซึ่งเป็นการขยายตลาดเพื่อออกจากคอมฟอร์ตโซนของบริษัท โดยในช่วงนี้ถือว่าเป็นการทดลองตลาดก่อนที่จะกรุยทางอย่างจริงจังต่อไปตามแผนที่วางไว้
“แน่นอนว่าอเมซอนอาจจะไม่ใช่ป๊อปปูลาร์ แบรนด์ในทุกประเทศที่เรามีแผนเข้าไปทำตลาด เนื่องจากมีเจ้าตลาดหรือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ยึดฐานแฟนในประเทศนั้นๆ แล้ว และนั่นคือโจทย์ใหญ่ของเราที่ต้องมีการเซอร์เวย์ สำรวจพฤติกรรมของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักและมีฐานแฟนให้มากที่สุด”
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีแผนในการนำบริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด ซึ่งบริหารธุรกิจค้าปลีกและอาหาร เช่น ร้านกาแฟอเมซอน ฮั่วเซ่งเฮง เป็นต้น เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2562 นี้หลังจากเมื่อเม.ย. 2561 ที่ผ่านมาทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทยถึงการจัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อผลักดันธุรกิจกาแฟ “คาเฟ่ อเมซอน” สู่การ เป็น Global Brand ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 6.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีบริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR เป็นผู้ถือหุ้น 100%
............................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,389 ระหว่างวันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายช่วง 5-10 ปีนับจากนี้ด้วยการปั้นร้าน กาแฟอเมซอนสู่ความเป็นโกลบัลแบรนด์ และมีจำนวนสาขาทั่วโลกราว 2 หมื่นแห่ง หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนร้านกาแฟระดับโลกอย่าง สตาร์บัคส์ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ราว 2 หมื่นแห่งทั่วโลก หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขยายตลาดเข้าไปในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีและอาเซียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีจำนวนสาขาทั้งในและต่างประเทศในปัจจุบัน 2,300-2,400 แห่ง
สำหรับสเต็ปแรกของการทำตลาดจะเป็นการสร้างแบรนด์โดยการขยายตลาดเข้าไปในภูมิภาคเอเชีย ในช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ โดยล่าสุดได้เตรียมเข้าไปขยายสาขาในจีน ญี่ปุ่น และโอมาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบของแฟรนไชส์ การร่วมทุนและบริษัทเข้าไปลงทุนเอง ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับบริษัท โอมาน ออยล์ จำกัด ในการขยายสาขาร้านกาแฟอเมซอน (มาสเตอร์แฟรนไชส์) ไปยังประเทศโอมานภายในเดือนนี้
ทั้งนี้การขยายสาขาเข้าไปในโอมานถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้ประเทศดังกล่าวเป็นฮับขยายร้าน กาแฟอเมซอนไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นรีจินัลแบรนด์ช่วง 3-5 ปีก่อนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในแถบยุโรปตามแผนงานในอนาคต
ขณะที่แผนการปั้นแบรนด์ในตลาดระดับโลกคือการเน้นปรับโมเดลธุรกิจให้สอดรับของพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละประเทศให้มากที่สุด โดยวางโพสิชันของแบรนด์สู่ความเป็นป๊อปปูลาร์ แบรนด์ ที่เน้นเจาะผู้บริโภคในตลาดกลางที่อยากดื่มกาแฟสดในราคาที่เข้าถึงได้หรือ Value For money ผ่านเอกลักษณ์ในการสร้างความแตกต่างคือการเป็นร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมภายใต้คอนเซ็ปต์กรีนโอเอซิส (Green OASIS) ภายในร้านทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และสภาพแวดล้อมการตกแต่ง (Value Chain)
ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อดูงานในส่วนของโกลบัลแบรนด์โดยเฉพาะ และมีการนำที่ปรึกษาเข้ามาช่วยดูแลและศึกษาอย่างดีก่อนที่จะขยายตลาดออกไป ซึ่งเป็นการขยายตลาดเพื่อออกจากคอมฟอร์ตโซนของบริษัท โดยในช่วงนี้ถือว่าเป็นการทดลองตลาดก่อนที่จะกรุยทางอย่างจริงจังต่อไปตามแผนที่วางไว้
“แน่นอนว่าอเมซอนอาจจะไม่ใช่ป๊อปปูลาร์ แบรนด์ในทุกประเทศที่เรามีแผนเข้าไปทำตลาด เนื่องจากมีเจ้าตลาดหรือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ยึดฐานแฟนในประเทศนั้นๆ แล้ว และนั่นคือโจทย์ใหญ่ของเราที่ต้องมีการเซอร์เวย์ สำรวจพฤติกรรมของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักและมีฐานแฟนให้มากที่สุด”
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีแผนในการนำบริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด ซึ่งบริหารธุรกิจค้าปลีกและอาหาร เช่น ร้านกาแฟอเมซอน ฮั่วเซ่งเฮง เป็นต้น เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2562 นี้หลังจากเมื่อเม.ย. 2561 ที่ผ่านมาทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทยถึงการจัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อผลักดันธุรกิจกาแฟ “คาเฟ่ อเมซอน” สู่การ เป็น Global Brand ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 6.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีบริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR เป็นผู้ถือหุ้น 100%
............................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,389 ระหว่างวันที่ 5-8 สิงหาคม 2561