“อลงกรณ์” แนะ “นคร มาฉิม” อย่าเข้าเพื่อไทย ไม่ขัดหากประชาธิปัตย์จะฟ้องศาล

02 ส.ค. 2561 | 09:43 น.
- 2 ส.ค. 61 - นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะฟ้อง นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส. ว่า เป็นสิทธิโดยชอบของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะฟ้องร้องต่อศาล หรือแจ้งความดำเนินคดีเพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติภูมิ เพราะข้อกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดดำเนินการอย่างเป็นขบวนการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยวิธีการนอกแนวทางระบอบประชาธิปไตยนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและมีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค a1(25)

อีกทั้ง นายนคร เองก็ยืนยันว่าพร้อมจะนำพยานหลักฐานเข้าพิสูจน์ในชั้นศาลซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ของสาธารณชนถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาการเมือง เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงและหาทางแก้ไขปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นต่อไปเนื่องจาก 10 ปี ที่ผ่านมา ระบบการเมืองแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้นมีการทุจริตคอรัปชั่นกันมากมาย ในระยะหลังทำให้การต่อสู้ทางการเมืองเริ่มใช้วิธีการนอกลู่นอกรอย สร้างความแตกแยกแบ่งประชาชนเป็นฝักฝ่าย ใช้ความรุนแรงประหัตประหารกัน จนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง ในที่สุดก็รักษาประชาธิปไตยไว้ไม่ได้เกิดการรัฐประหารในที่สุด เหมือนวงจรอุบาทก์เป็นเช่นนี้ 13 ครั้งตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา

ส่วนการขอโทษอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของนายนคร มาฉิมเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลแต่เหตุผลที่ นายนคร ยกขึ้นมานั้นเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว ที่เรียกว่า Half Truth เหมือนด้านเดียวของเหรียญ ซึ่งควรที่จะมีการพิสูจน์ความจริงในข้อกล่าวอ้างดังกล่าว จะในทางศาลหรือการชี้แจงข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ นายนคร ไม่กล่าวถึงคือปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลรวมทั้งการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอย เพื่อตนเองและพวกพ้องจนถูกสื่อมวลชนขนานนามว่าเป็นยุคโคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร และเป็นสาเหตุข้ออ้างหนึ่งของการรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 และ นายนคร เองก็เคยร่วมคณะตรวจสอบการทุจริตที่ตนเป็นประธานในช่วงปี 2545-2549 ย่อมทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร logo

สำหรับ นายนคร นั้นโดยส่วนตัวรู้จักและเคยทำงานร่วมกันในพรรคประชาธิปัตย์ และในสภาผู้แทนกว่า 10 ปี ถือว่าเป็นนักการเมืองที่ดีมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภาและต่อต้านเผด็จการชัดเจน ตนไม่รู้เหตุผลหรือเหตุจูงใจในการแสดงออกล่าสุดในครั้งนี้ แต่ในฐานะพี่อยากแนะนำน้องว่าอย่าเข้าพรรคเพื่อไทย มิฉะนั้นจะถูกมองว่าการแสดงออกล่าสุดเป็นเพียงใบเบิกทางตีตั๋วเข้าพรรคเพื่อไทย โดยเผาบ้านเก่าทิ้งเท่านั้น  นายนคร ควรเข้าพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์ตรงกันจะดีต่ออนาคตทางการเมืองในวันข้างหน้า