ลุ้นCPALLปลดล็อกปมผู้บริหาร สมาคมบลจ.กดดันหนัก โบรกฯมองไม่กระทบการดำเนินงาน

นายกสมาคมบลจ. เผยกองทุนรวมเตรียมหยุดลงทุนหุ้นซีพีออลล์ และกลุ่มซีพี หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องธรรมาภิบาล นักวิเคราะห์ตั้งสมมติฐาน 2 กรณี หากลาออกไม่กระทบผลประกอบการ เหตุมีทีมผู้บริหารเก่ง อีกเพียบ คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวก ตรงกันห้ามหากไม่ลาออกหุ้นจะถูกกดดันต่อ ประมาณการไตรมาส 4/58 โชว์กำไร 3.14 พันล้านบาท โต 25 %

[caption id="attachment_30565" align="aligncenter" width="503"] ราคาหุ้น CPALL[/caption]

จากกรณีผู้บริหารบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน)(บมจ.)( CPALL) ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปรียบเทียบปรับกรณีการใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหุ้น(อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง) และถูกกระแสสังคมกดดันให้แสดงความรับผิดชอบนั้น

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)บัวหลวง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมบลจ. กล่าวว่า หากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องธรรมาภิบาลจาก CPALL เชื่อว่า บลจ.ทุกแห่งจะหยุดการลงทุนในหุ้น CPALL รวมไปถึงหุ้นอื่นในกลุ่มซีพีด้วย โดยมองว่าการออกหุ้นกู้ของ CPALL และการเพิ่มทุนของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ( TRUE) จะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากนักลงทุนสถาบัน รวมถึงนักลงทุนอื่นๆขาดความเชื่อมั่นในตัวบริษัท

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสมาคมบลจ.ได้ส่งหนังสือสอบถาม CPALL เกี่ยวกับเรื่องธรรมมาภิบาลหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ทราบเพียงว่าในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ CPALL จะประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) ซึ่งจะต้องติดตามผลการประชุมว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ซึ่งหาก CPALL ยังให้นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร CPALL ต่อไป เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อ CPALL และหุ้นในกลุ่มซีพีแน่นอน

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า กองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทได้หยุดลงทุนหุ้นใน CPALL ไปแล้วตั้งแต่มีประเด็นความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับธรรมาภิบาล

บทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ฯ ระบุว่า ภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ CPALL จะจัดประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงินสำหรับปี 2558 ซึ่งคาดว่าจะมีการนำกรณีที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบมจ.แม็คโคร (MAKRO) เข้าที่ประชุมว่าจะมีแนวทางอย่างไร

ขณะที่ฝ่ายวิจัยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ประเมินเป็น 2 กรณี คือ หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร คาดว่าไม่กระทบต่อผลประกอบการ เนื่องจากบริษัทมีทีมผู้บริหารซึ่งยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และเชื่อว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก

และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาหุ้นซีพีออล์ ยังคงถูกกดดันต่อไป เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาล อาจมีการลดสัดส่วนการถือหุ้น

ฝ่ายวิจัยฯบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ฯ ปรับลดมูลค่าพื้นฐานหุ้นCPALL เพื่อสะท้อนถึงยอดขายต่อสาขาเดิมที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในระยะยาวโดยเพิ่มค่าความเสี่ยงเป็น 8.75% จากเดิมที่ 7.75% ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปรับลดลงเป็น 48 บาท จากเดิมที่ 54 บาท ประเมินกำไรไตรมาส 4 ปี 2558 ที่ 3.14 พันล้านบาท เติบโต 25% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,129 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559