วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำประจำวัน(1 ส.ค.61)
บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อในโซน 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ เพื่อทำการสร้างฐานราคาเหนือแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวรักษาระดับเหนือแนวรับดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้น เบื้องต้นประเมินแนวต้านในโซน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,211 1,200 1,193
แนวต้าน 1,237 1,248 1,259
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังการเปิดเผยดัชนี PCE ,การบริโภคและรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นตามคาด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนี PMI เขตชิคาโกเพิ่มขึ้นเกินคาด ก่อนที่ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,228.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกจีน กำลังเจรจากันอย่างลับๆเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน อย่างไรก็ดีแรงขายทำกำไรกดดันให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลง ประกอบกับนักลงทุนคาดว่าตัวเลขที่บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ จะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ส่งผลให้เกิดแรงขายในทองคำก่อนการประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ดัชนี PMI ภาคการผลิต อีกทั้งต้องจับตาผลการประชุมเฟดคาดเฟดคงดอกเบี้ย แต่อาจต้องรอดูว่า FOMC Statement จะมีการส่งสัญญาณที่กระทบกับการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหรือไม่
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ EU ได้ตกลงที่จะซื้อถั่วเหลืองและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกด้วย ความพยายามในการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันได้หนุนสกุลเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 5.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือนสู่ระดับ 631,000 ยูนิตซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแต่ความ ด้านกองทุน SPDR กลับมาลดการถือครองทองคำลงวานนี้ -2.35 ตัน สำหรับวันนี้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)คาด ECB จะคงนโยบายการเงินตามเดิมแต่อาจต้องติดตามแถลงการณ์ของนาย Mario Draghi ประธาน ECB เกี่ยวกับเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน และติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อในโซน 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ เพื่อทำการสร้างฐานราคาเหนือแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวรักษาระดับเหนือแนวรับดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้น เบื้องต้นประเมินแนวต้านในโซน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,211 1,200 1,193
แนวต้าน 1,237 1,248 1,259
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังการเปิดเผยดัชนี PCE ,การบริโภคและรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นตามคาด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนี PMI เขตชิคาโกเพิ่มขึ้นเกินคาด ก่อนที่ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,228.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกจีน กำลังเจรจากันอย่างลับๆเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน อย่างไรก็ดีแรงขายทำกำไรกดดันให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลง ประกอบกับนักลงทุนคาดว่าตัวเลขที่บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ จะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ส่งผลให้เกิดแรงขายในทองคำก่อนการประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ดัชนี PMI ภาคการผลิต อีกทั้งต้องจับตาผลการประชุมเฟดคาดเฟดคงดอกเบี้ย แต่อาจต้องรอดูว่า FOMC Statement จะมีการส่งสัญญาณที่กระทบกับการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหรือไม่
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ EU ได้ตกลงที่จะซื้อถั่วเหลืองและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกด้วย ความพยายามในการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันได้หนุนสกุลเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 5.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือนสู่ระดับ 631,000 ยูนิตซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแต่ความ ด้านกองทุน SPDR กลับมาลดการถือครองทองคำลงวานนี้ -2.35 ตัน สำหรับวันนี้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)คาด ECB จะคงนโยบายการเงินตามเดิมแต่อาจต้องติดตามแถลงการณ์ของนาย Mario Draghi ประธาน ECB เกี่ยวกับเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน และติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
