กุมภาฯได้เวลาซื้อหุ้น2เด้ง นักวิเคราะห์เปิดโผปันผลเด่น-งบไตรมาส 4/58 สวย

10 ก.พ. 2559 | 03:00 น.
นักวิเคราะห์เคาะกระดาน ได้เวลาซื้อหุ้น 2 เด้ง ปันผลเด่น –กำไรจากส่วนต่างราคา เก็งงบไตรมาส 4 งบปี 2558 เปิดโผบจ.ปันผลเด่น SC , PS , MCS บจ.งบสวย EPG, QTC, FSMART, KCE, TVT, GL, BEAUTY, EA แนะกลยุทธ์ซื้อก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน สานเสียงตลอดเดือนกุมภาพันธ์ หุ้นไทยได้แรงหนุนจากเงินไหลเข้า ลุ้นดัชนีไปต่อ 1,343 จุด

ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนเป็นฤดูกาลบริษัทจดทะเบียนไทย(บจ.)ภาคการผลิตทะยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4 /2558 และงบปี 2558 ในขณะเดียวกันจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผล

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โกลเบล็ก จำกัด คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อดักงบและปันผลปี 2558 ที่จะทยอยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นคาดว่าจะช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีทรุดตัวแรงมากนัก

โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกุมภาพันธ์ จะแกว่งตัวในกรอบ 1,280-1,315 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่ปัจจัยบวกสนับสนุนได้แก่ กลุ่มที่คาดว่างบปี 2558 และ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 เติบโตขึ้น แนะนำ EPG, QTC, FSMART, KCE, TVT, GL, BEAUTY, EA, SYNEX, SMPC, SPALI, ORI, UBIS ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันปรับตัวลง แนะนำ AOT, BA, AAV และ กลุ่มจ่ายปันผลสูง แนะนำ INTUCH, ADVANC และ KTB

นอกจากนี้มองว่าแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการที่ ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคมมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบแล้วกว่า 2 ล้านล้านหยวน (10.84 ล้านล้านบาท) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในช่วงก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สรุปยอดค้างสินเชื่อในเดือนธันวาคมว่า ขยายตัว 5.6% จากการเพิ่มขึ้นของครัวเรือน ตอบรับมาตรการกระตุ้นรัฐบาล สินเชื่อรถมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากหดตัวลง 19 เดือนติดต่อกัน ส่วนภาคธุรกิจมีปริมาณสินเชื่อเพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและขนส่ง

นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยหนุนจากจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 เป็นงบประมาณขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ 2559 ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ในปี 2560 เติบโต 4% เงินเฟ้อที่ระดับ 2% อีกด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่าจะเห็นการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการลงทุนขนาดใหญ่

อย่างไรตามบล.โกลเบล็ก มองว่ายังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว และไม่มีความหวังว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตเกิดขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตนำมันของรัสเซียเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อํานวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ผันผวน และการประกาศงบการเงินงวดปี 2558 ใกล้สิ้นสุด ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลของการประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี ,ครึ่งปี หรือไตรมาส (ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในช่วงปลายเดือน มี.ค. – เม.ย. 2558) ซึ่งเป็นเหตุผลประการสำคัญทำให้หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงได้รับการตอบรับทางด้านบวก

จากการศึกษาของนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ โดยใช้ข้อมูล ย้อนหลัง 5 ปี หุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดี ราคาหุ้นมักจะเคลื่อนไหว หรือ ตอบสนองในด้านบวกก่อนล่วงหน้าประกาศจ่ายเงินปันผลเสมอ ซึ่งเท่ากับได้ผลตอบแทน 2 ต่อคือ เงินปันผลจ่าย และกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น(capital gain) แต่อย่างไรก็ตามผลตอบแทนจะมีแนวโน้มลดลง เมื่อใกล้วันขึ้นเครื่องหมาย XD รายละเอียดตารางและภาพด้านล่าง

กลยุทธ์การลงทุนในสถาการณ์ตลาดปัจจุบัน แนะนำให้มีหุ้นปันผลสูงติดพอร์ตไว้บ้าง โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสภาพคล่องในบางช่วงเวลา หรือ ในช่วงเกษียณ โดยแนะนำซื้อหุ้น ก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายทำกำไรในวันขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยในอดีตสูงถึง 10.57% ด้วยความน่าจะเป็นราว 79% อย่างเช่น SC , PS และ MCS เลือกเป็นหุ่นเด่นในกลุ่มเงินปันผล

บทวิเคราะห์บล.กสิกรไทย ประเมินว่าเงินทุนไหลเข้า จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นตลอดเดือนกุมภาพันธ์ โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯใกล้ที่จะกลับมาทดสอบ 1,308 จุดอีกครั้งแล้วในทางการวิเคราะห์เทคนิค หากผ่าน 1,308 จุดขึ้นไปได้ จะเป็นการกลับที่จุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน ภาพระยะกลางมีโอกาสที่ดัชนีจะไปต่อจนถึง 1,343 จุดจะมีสูงทันที

ดังนั้นกลุ่มหุ้น SET50 น่าจะเป็นเป้าหมายของกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยเฉพาะกลุ่มที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด เช่น CPALL, SCB, PTT ,SCC, AOT ,PTTEP, KTB, MINT, PTTGC, SAWAD และCPF มีโอกาสที่จะถูกซื้อกลับ และทำให้ราคาวิ่งชนะตลาดได้ โดยในกลุ่มดังกล่าว ฝ่ายวิจัยบล.กสิกรไทย มอง KTB PTTGC และ CPF เด่นสุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,129 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559