ก้าวต่อไปของTMBAM ผนึกอีสท์สปริงเสริมแกร่ง

04 ส.ค. 2561 | 08:19 น.
จากกรณีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ได้เข้าทำสัญญากับทาง พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย (PCAL) ในการขายหุ้นใน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด (TMBAM) ในสัดส่วนเริ่มต้นที่ 65% และจะขายหุ้นที่เหลืออีก 35% ในอนาคต

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทยฯ ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การที่บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก คือ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (อีสท์สปริง) ซึ่งเป็น investment arm ของกลุ่มพรูเด็นเชียลไลฟ์ บริษัทติดอันดับ Fortune 100 อันดับต้นๆ ให้ความไว้วางใจ มาร่วมเป็นพันธมิตรกับทีเอ็มบีกรุ๊ป สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทระดับสากลเห็นศักยภาพของทีเอ็มบีกรุ๊ป และยินดีที่จะมาร่วมทำงานกับธนาคาร

[caption id="attachment_302312" align="aligncenter" width="481"] สมจินต์ ศรไพศาล สมจินต์ ศรไพศาล[/caption]

บลจ.ทหารไทยฯ  เป็นบลจ.ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย  การมี strategic  investor ที่มีความรู้ความชำนาญ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาร่วมทำงานด้วย จะทำให้บลจ.ทหารไทยฯ เติบโตอย่างรวดเร็วขึ้น โอกาสที่จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดจะมีเพิ่มเติมขึ้น เป็นการ  win-win ด้วยกันทั้งหมด ต่อยอดการให้บริการด้านกองทุนรวมแบบ “Open Architecture” ซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่จะเลือกหากองทุนดีๆ ได้จากบลจ.หลากหลาย เพราะทั้งอีสท์สปริง เป็นผู้นำด้านการลงทุนระดับโลก และเป็นผู้นำในเอเชีย บวกกับมาตรฐานการทำงานของทีมในชุดปัจจุบัน โดยโครงสร้างการบริหารหลังจากนี้ยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร

ต่อข้อถามที่ว่าการร่วมเป็นพันธมิตรกับอีสท์สปริง  ส่งผลต่อทิศทาง -ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) จากนี้อย่างไร (ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ 3.98 แสนล้านบาท ไม่รวมกองทุน ETF) กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทยฯ กล่าวว่า เราโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลักว่าสิ่งที่สำคัญจะทำให้เราสามารถบริการลูกค้าได้อย่างดียิ่งขึ้นครอบคลุมความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นวัตถุประสงค์หลัก เราเชื่อมั่นว่าเมื่อเราได้ต่อยอดความสำเร็จเดิมที่มีอยู่แล้ว เมื่อลูกค้าพอใจขึ้น โอกาสของการเติบโตทางธุรกิจจะเป็นสิ่งที่ตามมาเอง

ส่วนเรื่องการเติบโตธุรกิจจะมาจาก 2 ปัจจัยคือ 1. จากการเติบโตของนักลงทุนไทยที่มีการขยายในวงกว้างตามขนาดของชนชั้นกลางที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น และมีการเรียนรู้จากการใช้เครื่องมือตลาดการเงินมาสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองเพิ่มเติมขึ้นจากที่ใช้แต่เฉพาะระบบธนาคาร เทรนด์นี้สำหรับประ เทศไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

2. นอกเหนือจากสภาพตลาด ยังขึ้นกับบลจ.แต่ละแห่งสามารถจะเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่มีความครอบคลุมในลักษณะผลตอบแทน และความเสี่ยงที่หลากหลาย สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกเครื่องมือที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จของ “ความมั่นคงทางการเงิน”

ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางอย่างที่อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนตามตลาดโลก ตนมองว่าเป็นธรรมชาติของตลาดการเงินและลูกค้าที่เมื่อมีโอกาสลงทุนในประเทศแล้ว ถัดจากนั้นก็ควรจะได้ประโยชน์จากการขยายการลงทุนไปสู่ต่างประเทศเพื่อให้เกิดการกระจายความเสี่ยง เกิดการได้ประโยชน์จากผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป e-book-1-503x62 หน้าที่ของเราคือ การพยายามบริหารจัดการกองทุนต่างๆ ให้ดี และเมื่อเวลาและโอกาสเหมาะสม จึงค่อย ๆเพิ่มเติมทางการเงินให้กับลูกค้า  แต่สิ่งที่สำคัญคือการที่สื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจว่า เครื่องมือทางการเงินแต่ละตัว มีลักษณะของผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นอย่างไร และในช่วงเวลาของการถือครองที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ความเข้าใจเรื่องความผันผวนระหว่างทาง  เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เราสามารถก้าวพาลูกค้าผ่านช่วงเวลาที่ราบรื่นและบางช่วงเวลาผันผวนไปได้

“ปีที่แล้วเรามาจากฐานที่สูง เป็นปีที่มีการลงทุนมากเป็นพิเศษ แต่ปีนี้ปัจจัยทางมหภาคที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้มีการปรับเปลี่ยนการลงทุนของลูกค้าบ้างก็เป็นธรรมดา”

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,388 วันที่ 2-4 สิงหาคม 2561

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6