เจน2‘ซุปเปอร์เชียร์’ตรัง เตรียมผุดห้างค้าส่งขนาดใหญ่
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดตรัง ที่มีผู้เล่นรายใหญ่ระดับประเทศและของท้องถิ่นอยู่ในสนามการค้ามากมาย
ในจำนวนนี้มีชื่อของ “ห้างซุปเปอร์เชียร์” ห้างท้องถิ่นที่ก่อตั้งโดยนายกิตติ พิทยาพิศาล หรือโกฮั้ว อดีตรองนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครตรังหลายสมัย และภรรยา คือ เจ๊หงษ์ หรือนางหงษ์ พิทยาพิศาล ที่สามารถยืนหยัดแข่งขันและประสบความสำเร็จ จน ส่งไม้ต่อให้รุ่นลูกๆ เข้ามารับช่วงบริหารต่อ นายบัณฑิต พิทยาพิศาล ทายาทคนโตที่เข้ามาบริหารธุรกิจให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงทิศทางธุรกิจ
พ่อค้าน้ำมันก๊าดสู่ห้างค้าปลีก
จุดแข็งของห้างซุปเปอร์เชียร์ คือ ครั้งที่นายกิตติ และนางหงษ์ พิทยาพิศาล 2 สามีภรรยา ทำการค้าปลีกค้าส่งให้กับบรรดาร้านค้าในชุมชนชายขอบเมืองตรัง พื้นที่ชนบทต่างจังหวัด เช่น กระบี่ สตูล และพัทลุงบางส่วน จะมีลูกค้าในมือจำนวนมาก จากการสั่งสมมากว่า 40 ปี โดยครั้งนั้นโกฮั้ว หรือนายกิตติ เป็นพ่อค้าขายส่งนํ้ามันก๊าดรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง เพราะ นํ้ามันก๊าดเป็นสินค้าที่มีความสำคัญ ที่สมัยนั้นทุกบ้านต้องใช้ตะเกียงนํ้ามันเพื่อส่องสว่าง ก็ต้องใช้นํ้ามันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง ในขณะที่โกฮั้วขายนํ้ามันก๊าดและสินค้าอุปโภคบริโภค แบบไม่ต้องใช้หน้าร้าน แต่มีขบวนการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ว่องไว ครบถ้วน ทำให้ชื่อเสียงของนายกิตติ หรือโกฮั้ว โด่งดัง เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มเปลี่ยนไป ไฟฟ้าส่องสว่าง เข้าไปถึงทุกครัวเรือน ตะเกียงส่องสว่างนํ้ามันก๊าดเริ่มหมดความสำคัญ ธุรกิจขายส่งนํ้ามันก๊าดเริ่มซบเซา โกฮั้วและเจ๊หงษ์ 2 สามีภรรยาก็ทบทวนบทบาทการค้า ที่ยังมีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากเราจำนวนมาก จึงคิดสร้างห้างซุปเปอร์เชียร์ขึ้นมาในปี 2550
นายบัณฑิต กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันห้างซูเปอร์เชียร์ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ ในการวางระบบต่างๆ ในการบริหาร โดยเฉพาะการขาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้ามาก ต้องขอชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ แต่การค้าขายในปัจจุบันเป็นที่ทราบว่า ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องแข่งกับผู้ค้าขนาดใหญ่ อาทิ ห้างเทสโก้ โลตัส เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ห้างบิ๊กซี ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างโรบินสัน ห้างท้องถิ่นด้วยกันเช่นซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ และห้างลีมาร์ซุปเปอร์มาร์เก็ต
“กลยุทธ์ของเรา คือ ความจริงใจ เช่น สินค้าตัวไหนที่ทางบริษัทแม่ที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าให้เรามาเพื่อแจก เราก็นำมาจัดรายการแจกกันจริงๆ ไม่นำสินค้าเหล่านี้ไปขายเพื่อทำกำไร อันนี้ห้างเราไม่ทำโดยเด็ดขาด รักษาความซื่อสัตย์ ห้างของเรามีพอยต์ มีแต้มสะสมคะแนน สมนาคุณกันจริงๆ ใช้ได้เหมือนห้างใหญ่ๆ ที่สำคัญลูกค้าคนตรังเชื่อถือผู้บริหาร คือ รุ่นคุณพ่อ โกฮั้ว ที่ปัจจุบันอายุย่าง 70 ปี คุณแม่ คุณหงษ์ ก็ย่าง 72 ปีแล้ว เมื่อผมซึ่งเป็นรุ่นลูกเข้ามารับช่วงดำเนินธุรกิจต่อ ก็สร้างความเชื่อถือจนมาถึงปัจจุบัน เราเน้นความซื่อสัตย์กับลูกค้า กลยุทธ์ลดราคาใช้บ้าง บางสถานการณ์”
เตรียมผุดห้างค้าส่งขนาดใหญ่
ในอนาคตอันใกล้ เตรียมสร้างห้างค้าส่งขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนวงแหวนรอบนอกเมืองตรัง ขณะนี้กำลังศึกษาโซนนิ่งและผังเมืองว่า สามารถสร้างห้างค้าส่ง บริเวณไหนได้บ้าง มองไว้หลายจุด นอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่เราชำนาญมากว่า 40 ปีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราทำแล้วประสบความสำเร็จอีกอย่าง คือ โรงแรมเมซองเดอเชียร์ ซึ่งตั้งบนถนนหนองยวน ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นโรงแรมขนาดเล็ก 59 ห้อง
“ในฐานะคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามา บริหารธุรกิจในครอบครัว มองว่าในจังหวัดตรังบ้านเรา ยังเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ มีทรัพยากรธรรมชาติ อาหาร การกินอุดมสมบูรณ์ ภัยธรรมชาติก็ไม่มีรุนแรง มีเฉพาะฝนตกนํ้าท่วม ซึ่งไม่กระทบ อนาคตเมืองตรังยังต้องทำอาชีพการเกษตร ท่องเที่ยว สุขภาพ และการศึกษา
ดังนั้นทุกๆ ฝ่ายจะต้องร่วมมือพัฒนารับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวบ้านเราแบบตลอดทั้งปี คนจะได้ไม่แย่งกินแย่งเที่ยวในเมืองตรัง ส่วนธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ครอบครัวเราทำมา กว่า 40 ปี เรามีความชำนาญแล้ว ยังไม่หันไปทำธุรกิจอื่น มีแต่จะขยายห้างค้าส่งอีกใน 2 ปีข้างหน้า โรงแรมทำเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองตรังบ้านเรา” นายบัณฑิต กล่าวในที่สุด
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,388 วันที่ 2-4 สิงหาคม 2561
ในจำนวนนี้มีชื่อของ “ห้างซุปเปอร์เชียร์” ห้างท้องถิ่นที่ก่อตั้งโดยนายกิตติ พิทยาพิศาล หรือโกฮั้ว อดีตรองนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครตรังหลายสมัย และภรรยา คือ เจ๊หงษ์ หรือนางหงษ์ พิทยาพิศาล ที่สามารถยืนหยัดแข่งขันและประสบความสำเร็จ จน ส่งไม้ต่อให้รุ่นลูกๆ เข้ามารับช่วงบริหารต่อ นายบัณฑิต พิทยาพิศาล ทายาทคนโตที่เข้ามาบริหารธุรกิจให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงทิศทางธุรกิจ
พ่อค้าน้ำมันก๊าดสู่ห้างค้าปลีก
จุดแข็งของห้างซุปเปอร์เชียร์ คือ ครั้งที่นายกิตติ และนางหงษ์ พิทยาพิศาล 2 สามีภรรยา ทำการค้าปลีกค้าส่งให้กับบรรดาร้านค้าในชุมชนชายขอบเมืองตรัง พื้นที่ชนบทต่างจังหวัด เช่น กระบี่ สตูล และพัทลุงบางส่วน จะมีลูกค้าในมือจำนวนมาก จากการสั่งสมมากว่า 40 ปี โดยครั้งนั้นโกฮั้ว หรือนายกิตติ เป็นพ่อค้าขายส่งนํ้ามันก๊าดรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง เพราะ นํ้ามันก๊าดเป็นสินค้าที่มีความสำคัญ ที่สมัยนั้นทุกบ้านต้องใช้ตะเกียงนํ้ามันเพื่อส่องสว่าง ก็ต้องใช้นํ้ามันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง ในขณะที่โกฮั้วขายนํ้ามันก๊าดและสินค้าอุปโภคบริโภค แบบไม่ต้องใช้หน้าร้าน แต่มีขบวนการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ว่องไว ครบถ้วน ทำให้ชื่อเสียงของนายกิตติ หรือโกฮั้ว โด่งดัง เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มเปลี่ยนไป ไฟฟ้าส่องสว่าง เข้าไปถึงทุกครัวเรือน ตะเกียงส่องสว่างนํ้ามันก๊าดเริ่มหมดความสำคัญ ธุรกิจขายส่งนํ้ามันก๊าดเริ่มซบเซา โกฮั้วและเจ๊หงษ์ 2 สามีภรรยาก็ทบทวนบทบาทการค้า ที่ยังมีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากเราจำนวนมาก จึงคิดสร้างห้างซุปเปอร์เชียร์ขึ้นมาในปี 2550
นายบัณฑิต กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันห้างซูเปอร์เชียร์ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ ในการวางระบบต่างๆ ในการบริหาร โดยเฉพาะการขาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้ามาก ต้องขอชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ แต่การค้าขายในปัจจุบันเป็นที่ทราบว่า ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องแข่งกับผู้ค้าขนาดใหญ่ อาทิ ห้างเทสโก้ โลตัส เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ห้างบิ๊กซี ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างโรบินสัน ห้างท้องถิ่นด้วยกันเช่นซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ และห้างลีมาร์ซุปเปอร์มาร์เก็ต
“กลยุทธ์ของเรา คือ ความจริงใจ เช่น สินค้าตัวไหนที่ทางบริษัทแม่ที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าให้เรามาเพื่อแจก เราก็นำมาจัดรายการแจกกันจริงๆ ไม่นำสินค้าเหล่านี้ไปขายเพื่อทำกำไร อันนี้ห้างเราไม่ทำโดยเด็ดขาด รักษาความซื่อสัตย์ ห้างของเรามีพอยต์ มีแต้มสะสมคะแนน สมนาคุณกันจริงๆ ใช้ได้เหมือนห้างใหญ่ๆ ที่สำคัญลูกค้าคนตรังเชื่อถือผู้บริหาร คือ รุ่นคุณพ่อ โกฮั้ว ที่ปัจจุบันอายุย่าง 70 ปี คุณแม่ คุณหงษ์ ก็ย่าง 72 ปีแล้ว เมื่อผมซึ่งเป็นรุ่นลูกเข้ามารับช่วงดำเนินธุรกิจต่อ ก็สร้างความเชื่อถือจนมาถึงปัจจุบัน เราเน้นความซื่อสัตย์กับลูกค้า กลยุทธ์ลดราคาใช้บ้าง บางสถานการณ์”
เตรียมผุดห้างค้าส่งขนาดใหญ่
ในอนาคตอันใกล้ เตรียมสร้างห้างค้าส่งขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนวงแหวนรอบนอกเมืองตรัง ขณะนี้กำลังศึกษาโซนนิ่งและผังเมืองว่า สามารถสร้างห้างค้าส่ง บริเวณไหนได้บ้าง มองไว้หลายจุด นอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่เราชำนาญมากว่า 40 ปีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราทำแล้วประสบความสำเร็จอีกอย่าง คือ โรงแรมเมซองเดอเชียร์ ซึ่งตั้งบนถนนหนองยวน ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นโรงแรมขนาดเล็ก 59 ห้อง
“ในฐานะคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามา บริหารธุรกิจในครอบครัว มองว่าในจังหวัดตรังบ้านเรา ยังเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ มีทรัพยากรธรรมชาติ อาหาร การกินอุดมสมบูรณ์ ภัยธรรมชาติก็ไม่มีรุนแรง มีเฉพาะฝนตกนํ้าท่วม ซึ่งไม่กระทบ อนาคตเมืองตรังยังต้องทำอาชีพการเกษตร ท่องเที่ยว สุขภาพ และการศึกษา
ดังนั้นทุกๆ ฝ่ายจะต้องร่วมมือพัฒนารับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวบ้านเราแบบตลอดทั้งปี คนจะได้ไม่แย่งกินแย่งเที่ยวในเมืองตรัง ส่วนธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ครอบครัวเราทำมา กว่า 40 ปี เรามีความชำนาญแล้ว ยังไม่หันไปทำธุรกิจอื่น มีแต่จะขยายห้างค้าส่งอีกใน 2 ปีข้างหน้า โรงแรมทำเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองตรังบ้านเรา” นายบัณฑิต กล่าวในที่สุด
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,388 วันที่ 2-4 สิงหาคม 2561
