ปภ. เตือน! 15 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม คลื่นลมแรง

นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า รายงานสถานการณ์อุทกภัย (ณ วันที่ 29 ก.ค. 61) จากอิทธิพลพายุโซนร้อน "เซินติญ" และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17-23 ก.ค. 2561 ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่ 20 จังหวัด (กาญจนบุรี ตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พิจิตร นครสวรรค์ ตราด แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง เพชรบุรี กาฬสินธุ์ ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ อำนาจเจริญ พะเยา ยโสธร) 32 อำเภอ 53 ตำบล 155 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,198 ครัวเรือน 11,160 คน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศเตือนวันที่ 30-31 ก.ค. 2561 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ยและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม คลื่นลมแรง สำหรับพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม รวม 15 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ พิษณุโลก และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด จ.มุกดาหาร อุดรธานี นครพนม สกลนคร ยโสธร ร้อยเอ็ด และอุบลธานี และภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี และตราด มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน คลื่นสูง 2-3 เมตร โดยพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนติดตามข้อมูล สภาพอากาศ สภาพน้ำท่า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง ชายฝั่งทะเล รวมทั้งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และปฎิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งให้ระวังคลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ส่วนวันที่ 1 ส.ค. 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนส่งผลให้ประเทศไทยฝนลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่และส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในบางพื้นที่ได้

นายกอบชัย กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศแจ้งเตือนของทางราชการอยู่ตลอดเวลา โดยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมพร้อมเครื่องจักรกล กำลังพล ให้พร้อมสนับสนุนจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง และในกรณีคลื่นลมแรงซัดชายฝั่ง หรือ มีคลื่นสูง ให้แจ้งหน่วยทางน้ำ เช่น กรมเจ้าท่า กรมประมง ตำรวจน้ำ ฯลฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือ เรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก หรือเรือเฟอรี่ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง