ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯลดกว่าที่คาด

26 ก.ค. 2561 | 02:36 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2561

+ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ค. 61 ปรับลดลง 6.1 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 404.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ก.พ. 58 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮม่าปรับลดลง 1.1ล้านบาร์เรล

+ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล และ 0.1 ล้านบาร์เรลตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน

+ ภายหลังตลาดปิด ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะหยุดการส่งออกน้ำมันดิบผ่านทางช่องแคบ Bab El- Mandeb เป็นการชั่วคราว หลังกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบฮูตีในเยเมน เข้าโจมตีเรือขนส่งน้ำมันใน Bab El- Mandeb

- นักวิเคราะห์ยังคงกังวลต่อผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาคเศรษฐกิจรวมถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบที่ลดลง หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่จีนก็มีมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐฯ ในสัดส่วนที่ทัดเทียมกัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนปรับลดในเดือนมิ.ย.  ประกอบกับอุปสงค์จากญี่ปุ่นที่อยู่ในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในเอเชียที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังจากญี่ปุ่นที่ปรับลดลงจากอุปสงค์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคยังคงล้นตลาด

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga ซึ่งมีกำลังการขนส่งราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ รวมถึง แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel ที่มีกำลังการผลิตกว่า 75,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาทำการอีกครั้ง หลังปิดตัวลงในเดือน ก.พ. 61

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดจะส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน หลังจีนเตรียมประกาศมาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเร็วนี้ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. และมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่เตรียมจะประกาศภายในสิ้นเดือนนี้

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว