‘เอสซีจี’ มั่นใจยอดขายปีนี้โต 5-10%

25 ก.ค. 2561 | 12:58 น.
- 25 ก.ค. 61 - นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่บริษัทมียอดขายเติบโต 6% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ประกอบกับโครงการของภาครัฐมีการก่อสร้างมากขึ้นด้วย ดีงนั้นมั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะยังคงเป็นไปตามเป้าที่คาดว่าตะเติบโต 5-10% จากปีก่อน blogmedia-61724

สำหรับงบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจีในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2561 มีรายได้จากการขาย 120,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่มีปริมาณขายและราคาขายเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 12,402 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ และรายได้เงินปันผลรับจากเงินลงทุน ในธุรกิจอื่นลดลง แต่ยังคงใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เพราะแม้ว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากช่วงฤดูกาลซบเซาของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง แต่ยังมีรายได้เงินปันผลรับจากเงินลงทุนในธุรกิจอื่นช่วยสนับสนุน

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2561 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 238,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 24,808 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีที่ผ่านมามีกำไรจากการขายเงินลงทุน รวมถึงราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีที่สูงขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการส่งออกครึ่งปีแรก 64,993 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของยอดขายรวม โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานของเอสซีจี นอกเหนือจากประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 เอสซีจีมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียน เท่ากับ 57,044 ล้านบาท คิดเป็น 24% จากยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอื่นๆ 43,019 ล้านบาท คิดเป็น 18% จากยอดขายรวมสินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2561 มีมูลค่า 590,719 ล้านบาท โดย 25% เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน S__5783600

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า “เอสซีจีเดินหน้าขยายธุรกิจหลักสู่ภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ซึ่งเป็นโครงการปิโตรเคมีครบวงจรรายแรกในเวียดนามที่คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากนายกรัฐมนตรีของเวียดนามพร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงได้ร่วมวางศิลาฤกษ์โครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดเอสซีจีได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 71% เป็น 100% เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมีแผนจะลงนามสัญญาเงินกู้มูลค่าประมาณ 3,200 ล้านดอล์ลาร์สหรัฐกับสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศในเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะเริ่มดำเนินการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงาน (Engineering, Procurement and Construction หรือ EPC) ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 เพื่อเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ สนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามต่อไป”