บิ๊กป้อมเเจงเเก้หนี้นอกระบบช่วยปชช.กว่า1.6เเสนรายจี้ทุกหน่วยเร่งปราบนายทุนโหด

24 ก.ค. 2561 | 12:41 น.
บิ๊กป้อมเเจงเเก้หนี้นอกระบบช่วยปชช.กว่า1.6เเสนรายเเล้วจี้ทุกหน่วยเร่งปราบนายทุนโหด

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.สัญจร(24ก.ค.61) ว่า การประชุมครม.ในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง2 ในชื่อว่า “ราชธานีเจริญศรีโสธร” มีที่มาจากคำสวยของแต่ละจังหวัดในชื่อของกลุ่มจังหวัด โดยในที่ประชุมครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานให้ทราบถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เคยมอบหมายภารกิจเป็นพิเศษให้คสช.

carbinet

“รองนายกฯจึงไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและรายงานให้ครม.ทราบว่า ขณะนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าทั่วประเทศไทยมีเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบอยู่ 12,000 กว่าราย และมีบัญชีแล้วเรียบร้อย ใน12,000กว่ารายนี้คิดเป็นวงเงินที่ปล่อยกู้นอกระบบ 52,200 กว่าล้านบาท”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า รองนายกฯกล่าวด้วยว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ จากเดิมที่ส่วนกลางเคยมีระบบของเราอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานในการแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ในระดับพื้นที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการแก้ปัญหา และมีทหารลงไปช่วยในระดับพื้นที่ เพื่อให้การแก้ปัญหานั้นมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น

“พล.อ.ประวิตรย้ำว่าการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบนี้ทำจากเบาไปหาหนัก คือ ประชาชนที่มีหนี้สินนอกระบบจะต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นลำดับแรก ด้วยการแจ้งว่ามีหนี้สินนอกระบบ ต้องการให้ราชการช่วยแก้ไขปัญหาที่ธนาคารออมสิน กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อให้ทั้งสองธนาคารนั้นรวบรวมข้อมูล ส่งไปยังคณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกับทหาร และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. และศูนย์ดำรงธรรม เป็นกรรมการรูปแบบองค์คณะ เพื่อให้เกิดการประสาน ทำงาน สอดคล้องแบบบูรณาการ

ประวิตร

ซึ่งจะเชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเจอกัน มีการเจรจาไกล่เกลี่ยตามมูลหนี้จริง ดังนั้นประชาชนที่มีหนี้สินจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริง ว่ามีเจ้าหนี้อยู่กี่รายแล้วกู้มารายละกี่บาท เขาคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่และเมื่อเจ้าหนี้สอบถามต้องให้ข้อมูลมาทั้งหมด และในการพูดคุยเจรจาขององค์คณะก็จะสอบถามเจ้าหนี้ว่า ลดต้นได้หรือไม่ ลดดอกได้หรือไม่ ต้องคิดไม่เกินที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า รองนายกฯกล่าวอีกว่า ขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้เสียหายได้แล้ว 166,238 ราย และถ้ากรณีใดก็ตามถ้าแก้ไขปัญหาจากเบาไม่สำเร็จคือไม่ยอมมา ไม่รายงาน ไม่ยอมลดดอกเบี้ยให้ก็ต้องดำเนินการในการบังคับใช้กฎหมาย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีตำรวจ ป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) ป.ป.ง. กรมสรรพากร กรมที่ดิน สำนักงานอัยการจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรม เข้ามาร่วม ทั้งนี้ที่ต้องให้กรมที่ดินเข้าร่วมเนื่องจากบางรายมีการนำที่ดินไปจำนองไว้ และสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับตามความผิดพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ฉ้อโกงประชาชน หรือใช้เอกสารสิทธิปลอม นอกจากนั้นยังมีมาตรการดำเนินการทางภาษี ยึดทรัพย์จากนายทุนที่เอาเปรียบประชาชนด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว