ราคาน้ำมันดิบตก หลังหลายฝ่ายกังวลอุปทานน้ำมันดิบมาเพิ่ม

24 ก.ค. 2561 | 02:55 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม 2561

- ราคาน้ำมันดิบลดหลังหลายฝ่ายกังวลอุปทานล้นตลาดมากขึ้น แม้ว่าอุปทานจะตึงตัวในช่วงที่ผ่านมาหลังอิหร่านโดนคว่ำบาตรและเวเนซูเอล่าประสบปัญหาทางการเงินทำให้การผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบส่วนใหญ่หยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบียและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดหายไป ทำให้หลายฝ่ายคาดถึงผลกระทบเชิงลบในระยะกลาง

+ ตัวแทนจากประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลกร่วมประชุม G20 ณ ประเทศ Argentina ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นเวลาสองวันเพื่อหารือแนวทางแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดจากการสงครามการค้าและภูมิรัฐศาสตร์จากการกระทำของสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซาและเปราะบางกว่าที่ควรจะเป็น โดยเป้าหมายสูงสุดคือการหยุดสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หากไม่เป็นผลจะต้องเพิ่มความร่วมมือทางด้านการค้าระหว่างประเทศอื่นโดยอาจเริ่มที่กลุ่ม G7 ก่อน

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไม่ได้ปรับลดลงไปมากเนื่องจากเกิดการประท้วงของคนงานราว 40 คนที่แท่นขุดเจาะของประเทศอังกฤษแถบทะเลเหนือส่งผลให้การผลิตก๊าซธรรมชาติราวร้อยละ 10 ของประเทศที่ส่งเข้าสู่ฝั่งและกำลังการผลิตน้ำมันดิบ Forties และ Brent ราว 45,000-50,000 บาร์เรลต่อวันต้องหยุดชะงัก

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อซื้อจากเกาหลี อย่างไรก็ตาม อุปทานในเอเชียโดยภาพรวมยังคงล้นตลาด และอุปสงค์เริ่มชะลอเนื่องจากไต้ฝุ่นและคลื่นความร้อนที่ปกคลุมเอเชีย ส่งผลให้การขับขี่ยานพาหนะลดลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังกังวลอุปทานน้ำมันดีเซลจากอินเดียและเอเชียเหนือที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 62-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga ซึ่งมีกำลังการขนส่งราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ รวมถึง แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel ที่มีกำลังการผลิตกว่า 75,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาทำการอีกครั้ง หลังปิดตัวลงในเดือน ก.พ. 61

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดจะส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน หลังจีนเตรียมประกาศมาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเร็วนี้ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. และมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่เตรียมจะประกาศภายในสิ้นเดือนนี้

จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังในสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบ โดยเฉพาะจากกลุ่มโอเปกปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว