น้ำท่วมคลี่คลาย! แต่ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง รับมือฝนตกหนัก

นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ถึงสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุโซนร้อน "เซินติญ" ตั้งแต่วันที่ 17-22 ก.ค. 2561 ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี ตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พิจิตร นครสวรรค์ ตราด แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และเพชรบุรี ได้รับผลกระทบ 23 อำเภอ 34 ตำบล 106 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,369 ครัวเรือน 6,935 คน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ได้แก่  ตราด แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ระนอง เพชรบุรี พิจิตร นครสวรรค์ เชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน ปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก และประจวบคีรีขันธ์ มี  6 อำเภอ 9 ตำบล 29 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 560 ครัวเรือน 1,561 คน

"ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง จะต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ได้แก่ ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม และมุกดาหาร ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และระนอง"

นายกอบชัย กล่าวว่า วันที่ 23-25 ก.ค. 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และอาจมีฝนตกหนัก ได้แก่ บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และปฎิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และมีอุปกรณ์ชูชีพให้พอเพียง ให้ถือปฎิบัติอย่างเข้มงวดในการตรวจตราสภาพความพร้อมก่อนออกเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● 'ทีมบึงกาฬ' เดินหน้าป้องกันน้ำท่วมจากพายุฝน
● ปภ.สั่งรับมือ“เซินติญ”ถล่ม 34 จ.เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก