ชง ม.44 แก้ปมภูเก็ต! ททท. เร่งฟื้นเชื่อมั่น

ภูเก็ตตั้งงบ 427 ล้านบาท ยกเครื่องความปลอดภัยทางเรืออันดามัน ด้าน ททท. บินด่วนพบทัวร์รายใหญ่จีนฟื้นความเชื่อมั่น ตั้งงบ 10 ล้านบาท จ้างเอเยนซีทำแผนพีอาร์ สทท. หนุนใช้ ม.44 แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำแพ็กเกจเสนอรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางเรือ โดย 1.จะจัดระบบการลงเรือ เน้นการบริหารจัดการท่าเรือให้มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รองรับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

2.จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและผู้ประสบภัยทางทะเล โดยในส่วนของท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต ที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน ขณะนี้ ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เน้นแก้ไขการบริหารจัดการเป็นส่วนใหญ่ โดยไปปรับให้มีมาตรฐานมากขึ้น มีเรือประจำการรออย่างน้อย 2 ลำแล้ว และจะเพิ่มอีก 1 ลำ พร้อมเชื่อมโครงข่ายข้อมูลต่าง ๆ เข้ากับเรือประมงกับเรือท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงตำแหน่งเรือและอีกศูนย์หนึ่งที่จะจัดตั้งใหม่ คือ ศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล บริเวณเกาะยาวใหญ่ จ.พังงา จะดูแลครอบคลุม 3 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ พังงา ภูเก็ต และกระบี่ เบื้องต้นจะของบประมาณ 427 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_299917" align="aligncenter" width="503"] บรรยากาศการลงเรือเที่ยวทะเล ของนักท่องเที่ยวจีน บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต ณ วันที่ 17 ก.ค. 61[/caption]

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ช่วงวันที่ 28-20 ก.ค. ททท. จะเดินทางไปทำเซลล์คอลล์พบปะกับบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เพื่อสื่อสารให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนรับทราบถึงมาตรการและภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวทางทะเล ที่กำลังเร่งดำเนินการตามแผนของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเชื่อว่าผลกระทบน่าจะเป็นช่วงสั้น

ซึ่ง ททท. กำลังรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน โดยมองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเอง หรือ เอฟไอที ยังเดินทางมาไทย แต่ที่มีปัญหา คือ กลุ่มทัวร์ ที่มีการยกเลิกแต่ก็เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ทางการจีนมีนโยบายให้บริษัทนำเที่ยวในจีนตัดแพ็กเกจโปรแกรมนำเที่ยวที่มีความเสี่ยงออกจากโปรแกรมทัวร์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ไทยประเทศเดียวที่ได้รับผลกระทบ ทั้งฟิลิปปินส์ หรือ เกาะมัลดีฟส์ ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

[caption id="attachment_299919" align="aligncenter" width="503"] ©Mariamichelle[/caption]

"ผลกระทบจริง ๆ ททท. ต้องประเมินจากยอดบุ๊กกิ้ง และจากข้อมูลของสมาคมโรงแรม ภาคใต้ (ภูเก็ต) ระบุว่า มีการยกเลิกการจองห้องพักไป 7,000 ห้อง แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 5,000 ห้อง ส.ค. 2,000 ห้อง จากโรงแรม 19 แห่ง แต่ใน จ.ภูเก็ต มีห้องพักถึง 92,000 ห้อง มีโรงแรม 1.7 พันแห่ง ซึ่งกระทบแค่ส่วนหนึ่ง เดือน ต.ค. ก็จะเข้าช่วงโกลเดนท์วีก เป็นวันหยุดยาวของจีนอีกด้วย"

นายธเนศว์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวเสริมว่า ไปจีนครั้งนี้ ททท. ยังมีแผนจะไปหารือกับ 3 บริษัทพีอาร์เอเยนซีของจีน เพื่อเชิญให้เข้ามานำเสนอแผนทำ Social Engagement Marketing เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวตลาดจีน ที่ขณะนี้ มีปัญหาอยู่ที่การสื่อสารมากกว่า โดยจะตั้งงบประมาณไว้ราว 10 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นแผนระยะสั้น ส่วนเทศกาลกินเจภูเก็ตที่จะมาถึงในช่วงเดือน ต.ค. จะมีการเชิญบล็อกเกอร์จีนและเซเลบริตีมาร่วมงานด้วย

 

[caption id="attachment_299920" align="aligncenter" width="503"] สรายุทธ มัลลัม ผู้ช่วยประธาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)
©phuket7days.com[/caption]

อย่างไรก็ดี นายสรายุทธ มัลลัม ผู้ช่วยประธาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ต้องการเสนอให้ประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทางทะเล เนื่องจากกฎหมายของกรมเจ้าท่าไม่สามารถบังคับไม่ให้เรือออกจากท่าได้ เพราะมีบางคนไม่เชื่อ และการแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลาและผ่านอีกหลายขั้นตอน ซึ่งช้ามาก จึงอยากสนับสนุนผลักดันให้ใช้มาตรา 44 เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมเจ้าท่ามีอำนาจในการสั่งการ เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนการยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีน 25 เที่ยวบินนั้น ต้องดูให้ชัดว่า มาจากการปิดซ่อมปรับปรุงรันเวย์สนามบินภูเก็ตหลังเที่ยงคืน จึงทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินตั้งแต่วันที่ 2-14 ก.ค. ไม่ใช่ปัจจัยเรือล่มอย่างเดียว

……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,384 วันที่ 19-21 ก.ค. 2561 หน้า 02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● Take a Break ไฮแอท รีเจนซี่ ภูเก็ต
● ถอดบทเรียนเรือล่มภูเก็ต ยกระดับท่องเที่ยวทางทะเล ‘อันดามัน’