ก.ล.ต.ฟัน24ราย ปั่นหุ้นMILL ปรับ172ล้าน
ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด 24 ราย กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) (MILL) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 172.14 ล้านบาท
ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21 มีนาคม-3 มิถุนายน 2557 มีบุคคลรวม 24 ราย สร้างราคาหุ้น MILL จนทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล และนางสาวธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ เป็นตัวการหลักในการสร้างราคาหุ้น ได้รู้เห็นหรือตกลงกับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 5 ราย ได้แก่ (3) นางสาวพรวดี สมพงษ์ชัยกุล (4) นายเกียรติเกษม นันทพิบูลย์ (5) นายวรพจน์ อำนวยพล (6) นายอมฤต นันทนาวุฒิและ (7) นายพงษ์พัฒน์ รุ่งวานนท์ชัย และมีผู้สนับสนุนการกระทำผิดอีก 17 ราย
การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2)คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 24 ราย ชำระค่าปรับ โดยนายสิทธิชัยและนางสาวธนิกาชำระค่าปรับรายละ 81.98 ล้านบาท ผู้ร่วมกระทำความผิด 5 ราย ชำระค่าปรับรายละ 500,000 บาท และผู้สนับสนุนการกระทำความผิด 17 ราย ชำระค่าปรับรายละ 333,333.33 บาท รวมเป็นเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวน 172.14 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งเป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. จะส่งกระทรวงการคลัง
นอกจากการลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ก.ล.ต. สั่งห้ามนายสิทธิชัยเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 3 ปี และมีผลทำให้ผู้กระทำผิดทั้ง 23 ราย ที่เหลือเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนด้วย
ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21 มีนาคม-3 มิถุนายน 2557 มีบุคคลรวม 24 ราย สร้างราคาหุ้น MILL จนทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล และนางสาวธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ เป็นตัวการหลักในการสร้างราคาหุ้น ได้รู้เห็นหรือตกลงกับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 5 ราย ได้แก่ (3) นางสาวพรวดี สมพงษ์ชัยกุล (4) นายเกียรติเกษม นันทพิบูลย์ (5) นายวรพจน์ อำนวยพล (6) นายอมฤต นันทนาวุฒิและ (7) นายพงษ์พัฒน์ รุ่งวานนท์ชัย และมีผู้สนับสนุนการกระทำผิดอีก 17 ราย
การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2)คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 24 ราย ชำระค่าปรับ โดยนายสิทธิชัยและนางสาวธนิกาชำระค่าปรับรายละ 81.98 ล้านบาท ผู้ร่วมกระทำความผิด 5 ราย ชำระค่าปรับรายละ 500,000 บาท และผู้สนับสนุนการกระทำความผิด 17 ราย ชำระค่าปรับรายละ 333,333.33 บาท รวมเป็นเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวน 172.14 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งเป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. จะส่งกระทรวงการคลัง
นอกจากการลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ก.ล.ต. สั่งห้ามนายสิทธิชัยเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 3 ปี และมีผลทำให้ผู้กระทำผิดทั้ง 23 ราย ที่เหลือเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนด้วย