'สมคิด' เปิดงานบีโอไอที่นาโกย่า ชี้! ถึงเวลาทุนญี่ปุ่นลงทุนเพิ่มในไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Thailand as a key Driver of Region of Regional Economic Growing ระหว่างงานสัมนาการลงทุน Thailand taking of to New height ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในวันนี้ (20 ก.ค. 2561) โดยมีนักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าร่วมฟังกว่า 700 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยสรุปสาระสำคัญว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล เศรษฐกิจกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยในไตรมาส 1 ของปีนี้ ได้เติบโตถึง 4.8% และที่น่าสนใจ คือ ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 2 ดัชนีเศรษฐกิจทุกตัวขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ไม่ว่าการส่งออกที่สูงกว่า 13%
[caption id="attachment_299440" align="aligncenter" width="503"]
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี[/caption]
นายสมคิด กล่าวว่า ดัชนีการผลิตขยายตัว ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงถึง 35 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ในปีนี้นักท่องเที่ยวจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน ความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในภาคผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ทำให้การบริโภคและการลงทุนขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 300 โครงการ และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มจากปีที่แล้วถึง 34%
นอกจากนั้น รัฐบาลยังเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่กำลังเร่งรัดการประมูลโครงการสำคัญหลายโครงการ ทั้งโครงการระบบราง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือ และสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งอยากจะเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาประมูลด้วย
[caption id="attachment_299442" align="aligncenter" width="503"]
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี[/caption]
เช่นเดียวกับ การลงทุนโครงการส่งเสริมให้มีการลงทุนในอีอีซี ในด้านหนึ่งเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการผลิตและนวัตกรรมใหม่ของไทย และช่วยให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน รวมถึงนักลงทุนญี่ปุ่น สามารถใช้อีอีซีเป็นฐานเข้าสู่อนุภูมิภาคซีแอลเอ็มวีที หรือออกไปสู่ตลาดโลก
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ตนอยากเห็นการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน ที่ได้เข้ามาช่วยยกระดับการผลิตอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการอีอีซี
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “กฤษฎา”คิกออฟงานตามนโยบายรองนายกฯ สมคิด
● 'สมคิด' ตรวจการบ้านเกษตร 16 ก.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยสรุปสาระสำคัญว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล เศรษฐกิจกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยในไตรมาส 1 ของปีนี้ ได้เติบโตถึง 4.8% และที่น่าสนใจ คือ ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 2 ดัชนีเศรษฐกิจทุกตัวขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ไม่ว่าการส่งออกที่สูงกว่า 13%
[caption id="attachment_299440" align="aligncenter" width="503"]
รองนายกรัฐมนตรี[/caption]
นายสมคิด กล่าวว่า ดัชนีการผลิตขยายตัว ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงถึง 35 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ในปีนี้นักท่องเที่ยวจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน ความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในภาคผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ทำให้การบริโภคและการลงทุนขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 300 โครงการ และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มจากปีที่แล้วถึง 34%
นอกจากนั้น รัฐบาลยังเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่กำลังเร่งรัดการประมูลโครงการสำคัญหลายโครงการ ทั้งโครงการระบบราง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือ และสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งอยากจะเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาประมูลด้วย
[caption id="attachment_299442" align="aligncenter" width="503"]
รองนายกรัฐมนตรี[/caption]
เช่นเดียวกับ การลงทุนโครงการส่งเสริมให้มีการลงทุนในอีอีซี ในด้านหนึ่งเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการผลิตและนวัตกรรมใหม่ของไทย และช่วยให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน รวมถึงนักลงทุนญี่ปุ่น สามารถใช้อีอีซีเป็นฐานเข้าสู่อนุภูมิภาคซีแอลเอ็มวีที หรือออกไปสู่ตลาดโลก
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ตนอยากเห็นการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน ที่ได้เข้ามาช่วยยกระดับการผลิตอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการอีอีซี
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● “กฤษฎา”คิกออฟงานตามนโยบายรองนายกฯ สมคิด
● 'สมคิด' ตรวจการบ้านเกษตร 16 ก.ค. นี้
