ธอส. เตรียมคัดบ้านต่ำกว่า 1 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อย ประเดิมเฟสแรก 1 แสนหน่วย เป็นของขวัญปีใหม่ เผย มีสินค้าในมือแล้ว 3 หมื่นหน่วย ... ค่ายพฤกษาขนพลัมคอนโดฯรังสิตร่วม 4 พันหน่วย
หลังจากกระทรวงการคลัง โดย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า กำลังศึกษารูปแบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะกรณีเติมเงินเพื่อใช้จ่ายในสิ่งของจำเป็น เช่น เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ เพื่อบรรเทาภาระให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยจะเริ่มใช้ระหว่างเดือน ต.ค. ถึง ธ.ค. เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน แทนโครงการช็อปช่วยชาติ
[caption id="attachment_299079" align="aligncenter" width="503"]
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[/caption]
ทั้งนี้ เพราะโครงการช็อปช่วยชาติถือเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนที่เป็นคนชั้นกลางของประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในวงเงินไม่เกินคนละ 15,000 บาท ให้นำมาหักค่าลดหย่อนภาษีได้
แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงเห็นว่าควรเพิ่มความช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยแทน
ธอส. ปล่อยกู้บ้านไม่ถึงล้าน
ล่าสุด นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้รับมอบนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชนสิ้นปีนี้ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการในการรวบรวมบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มาปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเฟสแรกจำนวน 1 แสนหน่วย ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาได้ในเดือน ส.ค. เพื่อให้เริ่มอนุมัติสินเชื่อได้ในปลายปีนี้ถึงต้นปี 2562
[caption id="attachment_299080" align="aligncenter" width="503"]
ฉัตรชัย ศิริไล
กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)[/caption]
ทั้งนี้ ธอส. ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
โดยจะช่วยเหลือใน 3 กลุ่ม คือ ผู้มีรายได้น้อย ผู้เริ่มต้นครอบครัว และผู้สูงอายุ ซึ่งกำลังศึกษาอัตราดอกเบี้ยและรวบรวมบ้าน เบื้องต้น หารือกับผู้ประกอบการ 2-3 ราย มีที่อยู่อาศัยราว 3 หมื่นยูนิต โดย 1 หมื่นยูนิต พร้อมอยู่อาศัยในปีนี้แล้ว ที่เหลือจะก่อสร้างเพิ่มในปี 2562
เริ่มเดินบัญชีปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม
กรณีผู้มีรายได้น้อย ธอส. จะเปิดให้ฝากเงินเพื่อเดินบัญชีก่อน ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ใช้เป็นเอกสารเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อการมีบ้านในอนาคต ด้วยเครื่องรับเงินฝากประชารัฐ หรือ Mobile Deposit Machine ซึ่งเป็นการรับฝากเงินนอกสถานที่ ซึ่งจะติดตั้งครบ 200 เครื่อง ภายในเดือน ก.ค. นี้
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อกลุ่ม Social Solution หรือ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย อย่าง โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน บุคลากรภาครัฐและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มียอดปล่อยรวมจำนวน 22,150 ล้านบาท , โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2561 ให้กู้ต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ปล่อยได้จำนวน 8,270 ล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Business Solution หรือ สำหรับกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางขึ้น อย่าง สินเชื่อบ้านมั่งมีศรีสุข , สินเชื่อ For Home และสินเชื่อบ้าน Home for All มียอดปล่อยสินเชื่อรวมกันกว่า 36,000 ล้านบาท
[caption id="attachment_299078" align="aligncenter" width="503"]
ปิยะ ประยงค์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)[/caption]
พลัมคอนโดฯ ร่วม 4 พันหน่วย
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถือเป็นโครงการที่ดี ทำให้ลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อ
ทั้งนี้ พฤกษาฯ มีสินค้าที่สอดคล้องกับโครงการของ ธอส. โดยจะนำคอนโดมิเนียมแบรนด์พลัม เฉพาะโครงการพหลโยธิน 89 ปากซอยเมืองเอก มีราคาเริ่มต้น 0.78 ล้านบาท ซึ่งเตรียมไว้ 3,000-4,000 หน่วย ส่วนโครงการอื่น ๆ ราคาค่อนข้างสูงกว่า สำหรับโครงการแนวราบทั้งปริมณฑลและต่างจังหวัด ไม่มีสินค้าราคาดังกล่าวแล้ว เนื่องจากราคาที่ดินแพง
"ต่อไปบ้านแนวราบกลุ่มราคาไม่เกินล้านบาทคงไม่มีทั้งในปริมณฑลและต่างจังหวัด ถ้าจะมีก็คงเป็นคอนโดมิเนียมเท่านั้น"
[caption id="attachment_299082" align="aligncenter" width="327"]
พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์
นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย[/caption]
สอดคล้องกับ นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งให้ความเห็นว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยเฉพาะบ้านจัดสรรไม่มีแล้ว ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด เว้นแต่คอนโดมิเนียมที่อาจจะพอหาได้ แต่อยู่ในทำเลที่เข้าซอยลึก หรือ นอกเมืองออกไป
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ฯ หรือ LPN โดย นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ กล่าวว่า มีความสนใจจะเข้าร่วม ทั้งนี้ มีโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต โดยถึงสิ้นปีจะมีอย่างน้อยประมาณ 1,500 หน่วย
[caption id="attachment_299083" align="aligncenter" width="503"]
©www.lpn.co.th[/caption]
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติจะได้รับอานิสงส์มาก ส่วนโครงการของเอกชนต้องเป็นคอนโดมิเนียมชายขอบ ไม่ติดแนวรถไฟฟ้า เช่น ถนนรัตนาธิเบศร์ โครงการในซอย มีจำนวนไม่มาก ไม่เป็นกอบเป็นกำ หรือ โครงการของ แอล.พี.เอ็น. ที่รังสิต
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,384 วันที่ 19-21 ก.ค. 2561 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
ป้องฟองสบู่อสังหาฯ ธอส.จับมือ 14 สมาคมลุยเก็บข้อมูลทั่วประเทศ
●
"ธอส.-ออมสิน" เอาใจผู้สูงอายุ