ปล่อยบ้านไม่เกิน 1 ล้านบาท "ใครได้?"

ความต้องการที่จะให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำริมาหลายปีแล้ว และที่ผ่านมา กระทรวงการคลังผลักดันโครงการบ้านประชารัฐ คัดที่ดินของกรมธนารักษ์ให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประมูล เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในราคาต่ำกว่าตลาด ให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงได้ ที่กรุงเทพฯ จะทำย่านซอยวัดไผ่ตัน ประดิพัทธ์ และในจังหวัดหลัก ๆ เช่น เชียงใหม่ ใกล้โรงเรียน แต่ที่สุด ... โครงการบ้านประชารัฐก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากแปลงที่ดินที่จะพัฒนาโครงการถูกต่อต้านจากชุมชนที่อยู่ข้างเคียง

ในปี 2560 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันคิดร่วมกันหาทางปัดฝุ่นบ้านประชารัฐอีกรอบ ดึงเอกชนเข้ามาร่วมทุนไม่จำกัดว่าจะเป็นไทยหรือต่างชาติได้หมด แต่ก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จนต้องมาย้ำหมุดอีกรอบในปีนี้

 

[caption id="attachment_298974" align="aligncenter" width="503"] ©Monam[/caption]

ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมจัดของขวัญปีใหม่ให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้าน โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการในการรวบรวมบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มาปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเฟสแรกจำนวน 1 แสนหน่วย ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาได้ในเดือน ส.ค. เพื่อให้เริ่มอนุมัติสินเชื่อได้ในปลายปีนี้ถึงต้นปี 2562

ทั้งนี้ ธอส. จะช่วยเหลือใน 3 กลุ่ม คือ ผู้มีรายได้น้อย ผู้เริ่มต้นครอบครัว และผู้สูงอายุ ซึ่งกำลังศึกษาอัตราดอกเบี้ยและรวบรวมบ้าน เบื้องต้น ที่หารือกับผู้ประกอบการ 2-3 ราย มีที่อยู่อาศัยราว 3 หมื่นยูนิต โดย 1 หมื่นยูนิต พร้อมอยู่อาศัยในปีนี้แล้ว ที่เหลือจะก่อสร้างเพิ่มในปี 2562




ถ้าหากโครงการบ้านประชารัฐเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ "รัฐบาลนายกฯประยุทธ์" ก็จะได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลแรกที่ทำให้คนจนได้มีบ้าน และสามารถกวาดคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี "โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค" ถูกใจคนจนทั่วประเทศมาจนทุกวันนี้ ที่สำคัญทำให้พรรคได้รับเลือกตั้งถล่มทลาย

นอกจากนี้ ยังช่วยเอกชนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้ระบายสต๊อกบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาคุณสมบัติในการขอสินเชื่อบ้านจากหนี้ครัวเรือน

ด้าน ธอส. ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ ได้ตอบสนองนโยบายรัฐที่ต้องการให้คนจนมีบ้าน และยังได้ขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 1 แสนราย และเพิ่มยอดสินเชื่อบ้านประมาณ 1 แสนล้านบาท ตลอดแคมเปญ




ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่นำโครงการเข้าร่วม สามารถนำบ้าน (คอนโดมิเนียม) ราคาถูกที่ติดอยู่ในมือระบายออกมา ได้ลดภาระแถมได้เม็ดเงินไปพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ต่อไป ถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต

สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาการขอสินเชื่อบ้าน ก็จะได้รับการส่งเสริมให้มีการเดินบัญชีกับธนาคาร เพื่อเป็นเอกสารประกอบในการขอสินเชื่อ แสดงความสามารถในการผ่อนชำระ และสุดท้ายจะได้บ้านเป็นของตัวเอง


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● พร็อพเพอร์เพอร์เฟคร่วมทุนเซกิซุยญี่ปุ่นรุกบ้านโมดูลาร์
● เปิดเทรนด์ใหม่อสังหา! SCBชี้ตลาดบ้านอิ่มตัว เอกชนดิ้นหารายได้รูปแบบใหม่