‘โคบอลท์’บุกสยาม รุกตลาดแว่นตาสุดชิก
สยามดิสคัฟเวอรี่เปิดตัวแม็กเน็ตใหม่ร้านแว่นตามัลติแบรนด์ “โคบอลท์” ชูจุดเด่นนำเข้า 4 แบรนด์ดังจากต่างแดน ทั้งอิตาลี, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส เจาะลูกค้าชาวไทย วางเป้าสิ้นปีโกยยอดโต 30%
นายไตรนุภาพ จิระไตรธาร ผู้ก่อตั้งบริษัท โคบอลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารร้านมัลติแบรนด์ กลาสเซสสโตร์ “โคบอลท์” (COBALT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเปิดตัวร้านโคบอลท์ ร้านแว่นตาในรูปแบบมัลติแบรนด์ นำเข้าจากแบรนด์ต่างประเทศ 4 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ Tavat จากอิตาลี, Blake Kuwahara จากญี่ปุ่น,Izipizi from จากฝรั่งเศส และ Boston Club จากญี่ปุ่น ที่เน้นการออกแบบ และคาแรกเตอร์ที่มีความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ให้เหมาะกับการใช้งาน มากกว่ากระแสหรือความโด่งดังของแบรนด์ โดยได้เปิดตัวไปแล้ว 2 แห่งได้แก่ สาขาสยามเซ็นเตอร์และสาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ไปเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับจาก กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 25-60 ปีได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานนับจากนี้บริษัทได้เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ เกาะสมุย และเชียงใหม่ เพื่อรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเน้นสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย การพรีเซนต์สินค้าให้ลูกค้ารู้จักและอยากลองใช้สินค้า โดยชูจุดเด่นที่ความชัดเจนของคาแรกเตอร์สินค้าแต่ละแบรนด์ ผ่านงบประมาณทางการตลาดในปีแรกทั้งสิ้น 10% ของยอดขาย
“ด้านปัญหาสินค้าพรีออร์เดอร์หรือสินค้าหิ้วจากต่างประเทศขณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าสินค้าหลายราย แต่ทางบริษัทไม่มีความกังวลเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากสินค้านำเข้าของบริษัทแต่ละแบรนด์มีการกำหนดราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศ (ในประเทศกลุ่มนำเข้า) ราว 10-20% อยู่แล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้มากขึ้น”
ขณะที่แผนงานระยะยาวนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายภายในร้าน ทั้งการนำเข้าแบรนด์สินค้าใหม่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน (ไลฟ์สไตล์โปรดักต์) ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า นํ้าหอม เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้จะมีสินค้าในกลุ่มดังกล่าวราว 2-3 รายการเข้ามาเปิดตัวในร้านเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีแผนในการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทขึ้นมาเอง เพื่อสร้างความหลากหลายภายในร้าน โดยวางเป้าหมายให้โคบอลท์กลายเป็น ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสำหรับลูกค้าชาวไทยในอนาคต โดยวางเป้าหมายว่าในช่วงปีแรกของการทำตลาดบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20-30%
“มองว่าการทำตลาดให้กับแบรนด์ของคนอื่นอาจจะไม่ได้ยั่งยืนมากนักในระยะยาว ดังนั้นแผนงานของเราต่อจากนี้คือการพัฒนาสินค้าของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างตลาด และตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยให้มากที่สุด ผ่านการนำเสนอสินค้าหน้าร้านที่แตกต่างและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38| ฉบับ 3,384 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2561
นายไตรนุภาพ จิระไตรธาร ผู้ก่อตั้งบริษัท โคบอลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารร้านมัลติแบรนด์ กลาสเซสสโตร์ “โคบอลท์” (COBALT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเปิดตัวร้านโคบอลท์ ร้านแว่นตาในรูปแบบมัลติแบรนด์ นำเข้าจากแบรนด์ต่างประเทศ 4 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ Tavat จากอิตาลี, Blake Kuwahara จากญี่ปุ่น,Izipizi from จากฝรั่งเศส และ Boston Club จากญี่ปุ่น ที่เน้นการออกแบบ และคาแรกเตอร์ที่มีความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ให้เหมาะกับการใช้งาน มากกว่ากระแสหรือความโด่งดังของแบรนด์ โดยได้เปิดตัวไปแล้ว 2 แห่งได้แก่ สาขาสยามเซ็นเตอร์และสาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ไปเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับจาก กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 25-60 ปีได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานนับจากนี้บริษัทได้เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ เกาะสมุย และเชียงใหม่ เพื่อรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเน้นสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย การพรีเซนต์สินค้าให้ลูกค้ารู้จักและอยากลองใช้สินค้า โดยชูจุดเด่นที่ความชัดเจนของคาแรกเตอร์สินค้าแต่ละแบรนด์ ผ่านงบประมาณทางการตลาดในปีแรกทั้งสิ้น 10% ของยอดขาย
“ด้านปัญหาสินค้าพรีออร์เดอร์หรือสินค้าหิ้วจากต่างประเทศขณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าสินค้าหลายราย แต่ทางบริษัทไม่มีความกังวลเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากสินค้านำเข้าของบริษัทแต่ละแบรนด์มีการกำหนดราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศ (ในประเทศกลุ่มนำเข้า) ราว 10-20% อยู่แล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้มากขึ้น”
ขณะที่แผนงานระยะยาวนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายภายในร้าน ทั้งการนำเข้าแบรนด์สินค้าใหม่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน (ไลฟ์สไตล์โปรดักต์) ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า นํ้าหอม เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้จะมีสินค้าในกลุ่มดังกล่าวราว 2-3 รายการเข้ามาเปิดตัวในร้านเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีแผนในการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทขึ้นมาเอง เพื่อสร้างความหลากหลายภายในร้าน โดยวางเป้าหมายให้โคบอลท์กลายเป็น ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสำหรับลูกค้าชาวไทยในอนาคต โดยวางเป้าหมายว่าในช่วงปีแรกของการทำตลาดบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20-30%
“มองว่าการทำตลาดให้กับแบรนด์ของคนอื่นอาจจะไม่ได้ยั่งยืนมากนักในระยะยาว ดังนั้นแผนงานของเราต่อจากนี้คือการพัฒนาสินค้าของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างตลาด และตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยให้มากที่สุด ผ่านการนำเสนอสินค้าหน้าร้านที่แตกต่างและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38| ฉบับ 3,384 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2561
