โบรกแนะเก็บDTAC ราคาเป้าหมาย49-58

19 ก.ค. 2561 | 02:49 น.
โบรกแนะซื้อหุ้นDTAC  แต่เตือนนักลงทุนต้องรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น จากประเด็นความเสี่ยง การไม่ได้คลื่นความถี่ใหม่ภายหลังหมดสัมปทานปี 2018 จำนวนลูกค้าที่ยังลดลง  ตลอดจนการปรับเทคโนโลยีที่ไปเร็ว

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  DTAC รายงานผลประกอบการไตรมาส2/2561 ที่ 179 ล้านบาท ลดลง 76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 86.4% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส โดยผลประกอบการตํ่ากว่าที่ตลาดคาดที่ 191 ล้านบาท แต่ประกาศจ่ายเงินปันผล 1.01 บาท/หุ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้   1. ผู้ใช้งานลดลง โดยผู้บริหาร DTAC รายงานลูกค้า Prepaid เพิ่มขึ้น 1.54 แสนราย แต่ลูกค้า Postpaid ลดลง 3.54 แสนรายในไตรมาส 2/2561 แต่ดีขึ้นจากในไตรมาส 1/2561 ที่ Prepaid เพิ่มขึ้น 9.3 หมื่นราย แต่ Postpaid ลดลง 9.33 แสนรายจากแผนในการเจาะจงลูกค้าของ DTAC ที่ทำให้ ARPU เพิ่มขึ้น แต่ด้านรายได้รวมยังคงลดลง 2.3% เทียบปีต่อปี และคงที่เทียบไตรมาสก่อน logo dtac

2. OPEX เพิ่มขึ้น : การใช้คลื่น 2300 MHz ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของ DTAC เพิ่มขึ้น (11% เทียบปีต่อปี และ 4% เทียบไตรมาส) โดยบริษัทมีแผนจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จากการย้ายลูกค้า แต่การอุดหนุนค่าเครื่อง กดดันผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม สัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในเดือนกันยายน และการย้ายลูกค้าจะช่วยลดผลกระทบจากเงินที่จ่ายให้ TOT ในไตรมาส 3 ปีนี้

ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผล 160% ของผลประกอบการมากกว่าที่คาด แต่มาจาก CAPEX ที่จำกัดที่ 5.5 พันล้านบาท โดย DTAC ยังมีความสนใจที่จะประมูลคลื่น แต่ยังมีความกังวลในด้านช่วงการเยียวยาของคลื่น 900 MHz และหากบริษัทประมูลคลื่น 900 MHz ได้จะทำให้ต้นทุนการเปลี่ยนแปลงเสา 3G 850 MHz จำนวน 9 พันสถานีมีจำกัดในช่วง 2 ปีแรก

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ฯ เแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 58 บาท (DCF)

บล. ทรีนีตี้ จก. แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว คงราคาเป้าหมายที่ 50 บาท สะท้อนผลกระทบหากวันที่ 15 กันยายน 2561 ดีแทคไม่เข้าประมูลคลื่นในเดือนสิงหาคม  เนื่องจากดีแทคสามารถลงนามร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในสัญญาคลื่น 2300 MHz ขนาด 60 MHz กับ TOT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีความเสี่ยงจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดความไม่แน่นอนของการประมูลคลื่นความถี่ และการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่รวดเร็ว

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

บล.ฟินันเซีย ไซรัสฯ  แนะ “ซื้อ” คงราคาเหมาะสมที่ 52 บาท อย่างไรก็ตาม แนะนักลงทุนต้องรับความเสี่ยงได้สูงขึ้นจากประเด็นความเสี่ยง การไม่ได้คลื่นความถี่ใหม่ภายหลังหมดสัมปทานปีนี้ จำนวนลูกค้าที่ยังลดลงต่อเนื่องซึ่งทำให้การเติบโตของรายได้ไม่ยั่งยืน

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จก.(มหาชน) แนะซื้อ โดยคงราคาเป้าหมายที่ 49 บาท เนื่องจากคาดกำไรจะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ และยังมีอัพไซด์สูงถึง 28.9% โดยราคาหุ้น DTAC ปิดเมื่อวันที่  16 กรกฎาคม 2561 ที่ 38 บาท จากที่ปรับขึ้นสูงสุดที่ 39.75 บาท และตํ่าสุดที่ 37.25 บาท

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,384 วันที่ 19-21 กรกฎาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว