“อินโดฯ”งดนำเข้าลำไยรัฐเร่งจับมือเอกชนดึงอาลีบาบาซื้อแทน
“อินโดฯ”งดนำเข้าลำไยรัฐเร่งจับมือเอกชนป้องล้น ดึงอาลีบาบา –ตลาดใหม่ซื้อแทน
กรมส่งเสริมการเกษตร เผย “ลำไย” ไม่น่าห่วง อินโดฯ งดนำเข้า เกษตรจับมือพาณิชย์ ผนึกเอกชน เร่งหาตลาดใหม่ รัสเซีย-ตะวันออกกลางซื้อทดแทน ดึงอาลีบาบา รับซื้อ 1 หมื่นตันผ่านสหกรณ์ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อวงเงินกู้ 600 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% เสริมสภาพคล่องแปรรูปลำไยอบแห้ง คาดว่าจะดึงออกจากตลาดได้ 2.5 แสนตัน “ลักษณ์” ไม่วางใจ วันที่ 1 ส.ค. ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหา
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่อินโดนีเซีย ระงับนำเข้าลำไยในช่วงเดือนสิงหาคมและกรกฎาคมนี้ ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ ได้หาตลาดใหม่มาซื้อแทน ได้แก่ รัสเซีย และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะมีการทำสัญญาซื้อขายลำไย กับเครืออาลีบาบา 1 หมื่นตันในเร็วๆ นี้ โดยบริษัทในเครือจะมีการนำไปโปรโมทผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวจีนรู้จักผลไม้ของไทยมากขึ้น นอกจากนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่ระบบตลาดออนไลน์ โดยผลผลิตลำไยแปลงใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และน่าน จะเป็นจังหวัดนำร่องในการค้าขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ด้วยระบบ E-Market ผ่าน Thailandpostmart.com โดยแบ่งลักษณะสินค้าออกเป็น 2 กลุ่มคือ Business to Business หรือ B2B คือ การขายส่งสินค้าในปริมาณมาก ให้ทั้งตลาด Modern trade โรงแรมห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิต เป็นต้น และ Business to Customer หรือ B2C จะเป็นการขายส่งตรงถึงมือผู้บริโภค อันเป็นสินค้าคุณภาพ เกรดพรีเมี่ยม ส่งผลให้สินค้าจะขายได้ในราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง
ลำไย เป็นไม้ผลเศรษฐกิจ มีแหล่งผลิตสำคัญทั้งในภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยภาคเหนือ ปลูกกันมากใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน ตาก แพร่ และน่าน คาดการณ์ว่าผลผลิตลำไยภาคเหนือ ปี 2561 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดรวม 654,329 ตัน และจะออกมากในเดือนสิงหาคม ร้อยละ 36.40 เป็นผลผลิตในฤดูกาล 381,498 ตัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 1.08 และเป็นผลผลิตนอกฤดูกาล 272,831 ตัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 15.74 เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูกาลเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วน นอกฤดู 60 ต่อในฤดู 40 ทำให้ผลผลิตในฤดูลดลง
ส่วนด้านการบริหารจัดการลำไยภาคเหนือ ในฤดู ปี 2561 ตามที่คาดการณ์นั้นจะมีปริมาณ 381,498 ตัน โดยจะส่งเสริมการบริโภคผลสดภายในประเทศ ประมาณ 28,084 ตัน คิดเป็นร้อยละ 7.36 ด้วยวิธีกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตผ่านช่องทางต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ย 4% ให้กับผู้ประกอบการแปรรูปลำไยอบแห้ง 600 ล้านบาทคาดว่าจะเก็บลำไยได้ประมาณ 2.5 แสนตันที่จะดึงลำไยออกสู่ตลาด ดังนั้นสถานการณ์ปีนี้ไม่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ดี ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผลผลิตจะเริ่มออกมามากในช่วงเดือนนี้
กรมส่งเสริมการเกษตร เผย “ลำไย” ไม่น่าห่วง อินโดฯ งดนำเข้า เกษตรจับมือพาณิชย์ ผนึกเอกชน เร่งหาตลาดใหม่ รัสเซีย-ตะวันออกกลางซื้อทดแทน ดึงอาลีบาบา รับซื้อ 1 หมื่นตันผ่านสหกรณ์ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อวงเงินกู้ 600 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% เสริมสภาพคล่องแปรรูปลำไยอบแห้ง คาดว่าจะดึงออกจากตลาดได้ 2.5 แสนตัน “ลักษณ์” ไม่วางใจ วันที่ 1 ส.ค. ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหา
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่อินโดนีเซีย ระงับนำเข้าลำไยในช่วงเดือนสิงหาคมและกรกฎาคมนี้ ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ ได้หาตลาดใหม่มาซื้อแทน ได้แก่ รัสเซีย และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะมีการทำสัญญาซื้อขายลำไย กับเครืออาลีบาบา 1 หมื่นตันในเร็วๆ นี้ โดยบริษัทในเครือจะมีการนำไปโปรโมทผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวจีนรู้จักผลไม้ของไทยมากขึ้น นอกจากนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่ระบบตลาดออนไลน์ โดยผลผลิตลำไยแปลงใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และน่าน จะเป็นจังหวัดนำร่องในการค้าขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ด้วยระบบ E-Market ผ่าน Thailandpostmart.com โดยแบ่งลักษณะสินค้าออกเป็น 2 กลุ่มคือ Business to Business หรือ B2B คือ การขายส่งสินค้าในปริมาณมาก ให้ทั้งตลาด Modern trade โรงแรมห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิต เป็นต้น และ Business to Customer หรือ B2C จะเป็นการขายส่งตรงถึงมือผู้บริโภค อันเป็นสินค้าคุณภาพ เกรดพรีเมี่ยม ส่งผลให้สินค้าจะขายได้ในราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง
ลำไย เป็นไม้ผลเศรษฐกิจ มีแหล่งผลิตสำคัญทั้งในภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยภาคเหนือ ปลูกกันมากใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน ตาก แพร่ และน่าน คาดการณ์ว่าผลผลิตลำไยภาคเหนือ ปี 2561 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดรวม 654,329 ตัน และจะออกมากในเดือนสิงหาคม ร้อยละ 36.40 เป็นผลผลิตในฤดูกาล 381,498 ตัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 1.08 และเป็นผลผลิตนอกฤดูกาล 272,831 ตัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 15.74 เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูกาลเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วน นอกฤดู 60 ต่อในฤดู 40 ทำให้ผลผลิตในฤดูลดลง
ส่วนด้านการบริหารจัดการลำไยภาคเหนือ ในฤดู ปี 2561 ตามที่คาดการณ์นั้นจะมีปริมาณ 381,498 ตัน โดยจะส่งเสริมการบริโภคผลสดภายในประเทศ ประมาณ 28,084 ตัน คิดเป็นร้อยละ 7.36 ด้วยวิธีกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตผ่านช่องทางต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ย 4% ให้กับผู้ประกอบการแปรรูปลำไยอบแห้ง 600 ล้านบาทคาดว่าจะเก็บลำไยได้ประมาณ 2.5 แสนตันที่จะดึงลำไยออกสู่ตลาด ดังนั้นสถานการณ์ปีนี้ไม่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ดี ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผลผลิตจะเริ่มออกมามากในช่วงเดือนนี้
