ที่นี่ไม่มีความลับ : “ด่วนท่าเรือ” รถติดเจ็ดชั่วโคตรปัญหาที่ไร้การเหลียวแล
แต่สภาพรถติดบริเวณทางขึ้น-ลงทางพิเศษเฉลิมมหานคร หรือทางด่วนขั้นที่ 1 จุดด่านท่าเรือ ทั้งขาเข้า-ขาออก จะเป็นภาพที่ชินตาว่ารถติดทุกวัน แทบทุกเวลา ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสภาพเศรษฐกิจ ทั้งส่วนรวมและนักเดินทาง ที่ไม่ได้รับการแก้ไขใดๆทั้งสิ้นจากหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
“นั่งฉีกปฏิทินทิ้ง” นี่หรือที่ 3 ผู้บริหารทั้ง 3 องค์กรกำลังทำ รอวันหมดวาระ และทิ้งปัญหาไว้คงเดิมเช่นนั้นหรือ ทั้ง 3 ผู้บริหาร ทั้งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ว่าฯ กทม. และผู้อำนวยการการท่าเรือฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเจียดเวลาในการมาถกหาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน อย่าทำตัวเป็นผู้ “ฉีกปฏิทิน” รอเวลาตัวเองหมดเวลาขณะที่นั่งกินเงินเดือนของรัฐอยู่เช่นนี้
ความจริง “การท่าเรือฯ” เคยมีโครงการทำทางด่วนช่องทางพิเศษลงในพื้นที่การท่าเรือฯ และทำทางขึ้นพิเศษของรถยนต์ทั่วไป แต่เหตุใดโครงการนั้นจึงไม่เร่งทำ ติดอุปสรรคที่เงินลงทุนหรือ? ซึ่งก็ไม่น่าใช่ เพราะการท่าเรือฯ เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรมิใช่น้อย กำลังใช้ลงทุนนับแสนล้านบาทในการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 เพื่อรองรับกับการลงทุนใน EEC กับการใช้เงินลงทุนอีกนิดในการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และแก้ไขปัญหาการจราจรโดยรวม ต้องเร่งเคาะเรื่องนี้ ฝาก สุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย “ขันนอต” เรื่องนี้ด้วย ส่วนการทางพิเศษฯ สุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รักษาการผู้ว่าการการทางพิเศษฯ ก็อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ต้องเร่งแก้ไขปัญหา
คนสุดท้าย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่รับส้มหล่นตาม ม.44 ถึงแม้จะมาจากอำนาจพิเศษ แต่เมื่อมาเป็นพ่อเมืองแล้ว ก็ต้องเข้ามาแก้ปัญหา และมีข่าวว่าติดใจในเก้าอี้นี้ อยากลงชิงชัยคว้าตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.จากการเลือกตั้ง ถ้าหากอยากเป็นต่อก็ต้องแสดงผลงานให้เห็นเป็นประจักษ์ว่า “สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนเมืองหลวงได้”
| คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ
| โดย : เอราวัณ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 16 ฉบับ 3384 ระหว่างวันที่ 19-21 ก.ค.2561
