กอช.ปลอบสมาชิกอย่าหวั่นไหวแจงออมครบ60ปีรับประกันผลตอบแทน
กอช.แนะสมาชิกอย่าหวั่นผลตอบแทนผันผวน เพราะปรับลงตามภาวะหุ้น ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้ แจ้งสมาชิก รักษาสิทธิออมให้ครบ 60 ปี จะได้รับค้ำประกันผลตอบแทน ยํ้านโยบายลงทุนเน้นหลักทรัพย์เสี่ยงตํ่าและรักษาเสถียรภาพเติบโตผลตอบแทนสมาชิก
สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกที่อยู่ในช่วงขาลง จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาจากมาตรการการค้าระหว่างประเทศของผู้นำเศรษฐกิจคือสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสภาพตลาดทุนของประเทศคู่ค้าทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบันมีหน้าที่บริหารจัดการเงินลงทุนของสมาชิก ต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนลงทุนให้เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจการลงทุนโลกที่เปลี่ยนไป
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกอช. ปัจจุบัน มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 80% เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อรักษาเสถียรภาพของผลตอบแทนเงินออมของสมาชิก และมีการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่น เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมดัชนีหุ้นไทย SET50 ไม่เกิน 20% เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งเป็นไปตามกรอบนโยบายการลงทุนภายใต้การควบคุมดูแลของอนุกรรมการการลงทุน กอช.
“คณะกรรมการกอช.เองดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนของกอช. มีความรอบคอบภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่กำหนดให้การลงทุนของกอช. มีความเสี่ยงตํ่า เน้นความปลอดภัยของเงินต้นที่เป็นเงินออม เพื่อการเกษียณของผู้เป็นสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ไม่แน่นอน”
ทั้งนี้ กอช.เป็นกองทุนเดียวที่รัฐบาลคํ้าประกันผลตอบแทนให้กับสมาชิกจนอายุครบ 60 ปี โดยจะได้รับผลตอบแทนตามจริงและคํ้าประกันไม่ตํ่ากว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของ 7 ธนาคารใหญ่ของประเทศ แต่จะไม่คํ้าประกันสำหรับสมาชิกที่ลาออก เพื่อขอรับเงินออมคืนก่อนอายุครบ 60 ปี ซึ่งการออมกับกอช. เป็นการลงทุนระยะยาวที่สมาชิกจะได้รับประโยชน์เต็มสิทธิตามกฎหมายเมื่ออายุครบ 60 ปี แต่ระหว่างทาง ผลตอบแทนการลงทุนผันผวนได้ตามมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่ลงทุน หากผู้ออมมีสถานะเป็นสมาชิกกอช.จนครบ 60 ปี ก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะได้รับคํ้าประกันผลตอบแทนตามกฎหมาย
ส่วนสมาชิกกลุ่มพิเศษ ซึ่งเป็นผู้สมัครช่วง 1 ปีแรกของการเปิดกองทุน ซึ่งกอช.ปลดล็อกให้ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีสามารถสมัครได้ ซึ่งถ้าผู้สมัครในช่วงนั้นมีอายุ 50 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลเป็นเวลา 10 ปี จึงไม่จำเป็นต้องลาออกเมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ เพราะจะเป็นการตัดสิทธิในการรับเงินสมทบจากรัฐ ควรใช้สิทธิส่งเงินออมอย่างน้อย 1,200 บาทต่อปี เพื่อรับเงินสมทบเต็มอัตรา 1,200 บาทต่อปี เมื่อครบ 10 ปี จะได้รับเงินดำรงชีพเดือนละ 600 บาท จนครบยอดเงินทั้งหมดในบัญชี แต่ถ้าออมเต็มจำนวนปีละ 13,200 บาท ตลอด 10 ปี จะได้รับเงินบำนาญ ที่กอช.จะจ่ายให้เป็นประจำทุกเดือนไปตลอดชีวิต
หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,384 วันที่ 19-21 ก.ค. 2561
สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกที่อยู่ในช่วงขาลง จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาจากมาตรการการค้าระหว่างประเทศของผู้นำเศรษฐกิจคือสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสภาพตลาดทุนของประเทศคู่ค้าทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบันมีหน้าที่บริหารจัดการเงินลงทุนของสมาชิก ต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนลงทุนให้เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจการลงทุนโลกที่เปลี่ยนไป
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกอช. ปัจจุบัน มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 80% เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อรักษาเสถียรภาพของผลตอบแทนเงินออมของสมาชิก และมีการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่น เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมดัชนีหุ้นไทย SET50 ไม่เกิน 20% เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งเป็นไปตามกรอบนโยบายการลงทุนภายใต้การควบคุมดูแลของอนุกรรมการการลงทุน กอช.
“คณะกรรมการกอช.เองดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนของกอช. มีความรอบคอบภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่กำหนดให้การลงทุนของกอช. มีความเสี่ยงตํ่า เน้นความปลอดภัยของเงินต้นที่เป็นเงินออม เพื่อการเกษียณของผู้เป็นสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ไม่แน่นอน”
ทั้งนี้ กอช.เป็นกองทุนเดียวที่รัฐบาลคํ้าประกันผลตอบแทนให้กับสมาชิกจนอายุครบ 60 ปี โดยจะได้รับผลตอบแทนตามจริงและคํ้าประกันไม่ตํ่ากว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของ 7 ธนาคารใหญ่ของประเทศ แต่จะไม่คํ้าประกันสำหรับสมาชิกที่ลาออก เพื่อขอรับเงินออมคืนก่อนอายุครบ 60 ปี ซึ่งการออมกับกอช. เป็นการลงทุนระยะยาวที่สมาชิกจะได้รับประโยชน์เต็มสิทธิตามกฎหมายเมื่ออายุครบ 60 ปี แต่ระหว่างทาง ผลตอบแทนการลงทุนผันผวนได้ตามมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่ลงทุน หากผู้ออมมีสถานะเป็นสมาชิกกอช.จนครบ 60 ปี ก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะได้รับคํ้าประกันผลตอบแทนตามกฎหมาย
ส่วนสมาชิกกลุ่มพิเศษ ซึ่งเป็นผู้สมัครช่วง 1 ปีแรกของการเปิดกองทุน ซึ่งกอช.ปลดล็อกให้ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีสามารถสมัครได้ ซึ่งถ้าผู้สมัครในช่วงนั้นมีอายุ 50 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลเป็นเวลา 10 ปี จึงไม่จำเป็นต้องลาออกเมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ เพราะจะเป็นการตัดสิทธิในการรับเงินสมทบจากรัฐ ควรใช้สิทธิส่งเงินออมอย่างน้อย 1,200 บาทต่อปี เพื่อรับเงินสมทบเต็มอัตรา 1,200 บาทต่อปี เมื่อครบ 10 ปี จะได้รับเงินดำรงชีพเดือนละ 600 บาท จนครบยอดเงินทั้งหมดในบัญชี แต่ถ้าออมเต็มจำนวนปีละ 13,200 บาท ตลอด 10 ปี จะได้รับเงินบำนาญ ที่กอช.จะจ่ายให้เป็นประจำทุกเดือนไปตลอดชีวิต
หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,384 วันที่ 19-21 ก.ค. 2561
