'วีจีไอ' รุกข้ามแพลตฟอร์ม! ปั้นรายได้ 3 ปี หมื่นล้าน

16 ก.ค. 2561 | 06:29 น.
160761-1258

'วีจีไอ' ปรับองค์กรจากผู้ให้บริการเช่าพื้นที่โฆษณาสู่แพลตฟอร์ม ทั้งออนไลน์-ออฟไลน์โซลูชัน มุ่ง 3 ขาธุรกิจหลัก สื่อโฆษณา, รับชำระเงิน และโลจิสติกส์ วางเป้าปั้นรายได้ 1 หมื่นล้าน ใน 3 ปี

นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
 ว่า ภายหลังบริษัทปรับโพสิชันองค์กรจากผู้ให้บริการเช่าพื้นที่สื่อโฆษณามาเป็นผู้ให้บริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์โซลูชัน (Offline-to-Online (O2O) Solutions) หรือ การทำให้โฆษณาเชื่อมออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน ผ่านการดำเนินงานใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสื่อโฆษณา (สื่อเคลื่อนที่ ป้ายโฆษณา สื่อในอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และสื่อในสนามบิน) , ธุรกิจให้บริการชำระเงินของ Rabbit Group (PAYMENT) และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ครบวงจร ซึ่งทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ยังคงเน้นการลงทุนในส่วนของดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำดิจิตอลเทคโนโลยี ที่มีความสามารถเข้ามาใช้ในธุรกิจเพิ่มเติม

 

[caption id="attachment_298257" align="aligncenter" width="503"] เนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ เนลสัน เหลียง
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ[/caption]

สำหรับแผนการลงทุนในส่วนของดิจิตอลปีนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การลงทุนในสื่อดั้งเดิม อย่าง สื่อนอกบ้านที่ปัจจุบัน 90% เป็นสื่อภาพนิ่ง โดยจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มดิจิตอลบิลบอร์ด หรือ VP BOARD ที่มีแผนเข้าไปติดตั้งสื่อโฆษณาดังกล่าวบนสถานีรถไฟฟ้าอีก 10 สถานี และวางเป้าหมายในช่วง 1-2 ปีที่จะถึงนี้ จะได้เห็นการเพิ่มสื่อโฆษณาดิจิตอลบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2.ลงทุนในช่วงของการบริการทางดิจิตอล ที่มีอยู่แล้วภายใต้ 'แรบบิท กรุ๊ป' ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนเพิ่มฟังก์ชันการบริการดีขึ้นให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บัตรแรบบิทมากขึ้น และ 3.การจับมือกับผู้ให้บริการออนไลน์ อย่าง เฟซบุ๊กและกูเกิล ในการให้แพลตฟอร์มโฆษณาของบริษัทที่มีอยู่ในส่วนของออฟไลน์ สามารถเชื่อมโยงกับออนไลน์ได้ เพื่อสร้างการเข้าถึงไปยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม


index1

นายเนลสัน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สิ่งที่วีจีไอสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ คือ การมองเห็นสื่อ ป้ายต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่มีธุรกิจเพย์เมนต์และโลจิสติกส์แล้ว จะทำให้สื่อโฆษณาของบริษัทมีความเป็นโซลูชันมากขึ้น ดังนั้น ระยะทางการโฆษณาจะไม่ใช่เพียงการรับรู้อย่างเดียว หากแต่ยังเป็นการเข้าถึง (เอ็นเกจ) ไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มีส่วนร่วม และท้ายที่สุด ก็เกิดการกระตุ้นให้คนไปใช้ซื้อสินค้าบริการจริง ๆ หรือ การเอาไปใช้นั้น คือ อีโคซิสเต็มที่บริษัทได้สร้างไว้กับการผสานทั้ง 3 ขาธุรกิจ ไว้ด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็น การสร้างการเข้าถึงลูกค้าจากข้อมูลของบัตรแรบบิท กรุ๊ป ทั้งแรบบิทไลน์เพย์, แรบบิท การ์ด, แรบบิท ไฟแนนซ์ มีการใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคว่า เหมาะสมกับการบริการประเภทไหนอย่างไร อาทิ หากอยากเปิดตัวแคมเปญสักแคมเปญที่ต้องการ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงที่เดินทางจากสถานีหมอชิตไปยังสถานีสยาม อายุ 20-25 ปี ก็จะมีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการเข้าถึง จนเกิดการนำบัตรแรบบิทไปซื้อของ นั่นคือ เป้าหมายของบริษัท


1212

ขณะที่ การเพิ่มสายการเดินรถไฟฟ้าในช่วง 5 ปีนับจากนี้ เป็นระยะทางกว่า 113 กิโลเมตรนั้น มองเป็นส่วนสำคัญในการขยายตลาดสื่อโฆษณา (OUT-OF-HOME) ของบริษัทในเครือที่มีอยู่ให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ที่จะมีโอกาสในการผลิตสื่อโฆษณาในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว พร้อมกับปรับเปลี่ยนป้ายจากโฆษณาธรรมดาเป็นดิจิตอลบิลบอร์ด 20% จากปัจจุบันที่มีสื่อนอกบ้าน (OUT-OF-HOME) อยู่ 2,000 จุดทั่วไทย ขณะที่ ในส่วนของบริษัทในเครือ AERO ก็จะมีพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น พันธมิตรจากย่างกุ้ง เมียนมา และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในช่วง 3 ปีนับจากนี้ โดยในปี 2563 มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ 1 หมื่นล้านบาท จาก 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจให้บริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ โดยวางเป้าหมายได้จากสื่อโฆษณา 60% รับชำระเงิน 20% และโลจิสติกส์ 20% จากปัจจุบัน ที่บริษัทมีรายได้จากธุรกิจโฆษณา 90% และรับชำระเงินกับโลจิสติกส์ 10%


GP-3383_180716_0015

……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,383 วันที่ 15-18 ก.ค. 2561 หน้า 15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วีจีไอ ยัน 30 สถาบันลงทุนยาว
วีจีไอ เท 412 ล้านซื้อหุ้นเดโมฯ 41%


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว