เกษตรฯ ร่วมใจ 11 หน่วยงาน ชวนปลูกต้นไม้ สืบสาน “ศาสตร์พระราชา”

13 ก.ค. 2561 | 08:24 น.
- 13 ก.ค. 61 - เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จัดทำโครงการปลูกป่าและไม้ยืนต้นสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง สืบสาน “ศาสตร์พระราชา” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งถือเป็นโครงการที่สร้างความสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรป่าไม้ ที่ทุกฝ่ายตระหนักในคุณค่าของป่าต้นน้ำ พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริไปเป็นแนวทางในการสร้างความเข้าใจ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อรักษาระบบนิเวศป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ทำให้ป่าต้นน้ำได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพื้นที่ชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นการเร่งขยายพันธุ์กล้าไม้ให้กลายเป็นสภาพป่าธรรมชาติ S__4292629

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดโครงการปลูกป่าและไม้ยืนต้นสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง สืบสาน “ศาสตร์พระราชา” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห้อง 115 พร้อมกล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติวันพระราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 10 และเป็นการน้อมนำแนวคิด “สร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสืบสานศาสตร์พระราชา” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศให้มากขึ้น เพื่อช่วยในการเพิ่มโอกาสให้เกิดฝน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการปฏิบัติการฝนหลวงให้ประสบผลสำเร็จเพิ่มขึ้น และมีการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมให้สามารถกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมกับการสร้างผืนป่าให้เกิดความชุ่มชื้นเพื่อเป็นการเพิ่มป่าต้นน้ำ เพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน ตลอดจนการปลูกป่าไม้ ป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชน และไม้ยืนต้น บริเวณหัวไร่ปลายนา และยังเป็นแหล่งอาหารสัตว์ป่าในการดำรงชีวิต การใช้ประโยชน์สำหรับชุมชน ที่สำคัญโครงการนี้เป็นการฟื้นฟูทำให้ทรัพยากรป่าไม้ในประเทศได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม S__4292630

สำหรับการดำเนินการในโครงการฯ แบ่งเป็น 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย กิจกรรมพิธีเปิด ในวันที่ 19 ก.ค. 2561 ซึ่งมีกิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้น ณ บริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และกิจกรรมการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ทั้ง 5 ภูมิภาค กิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้น ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. ถึง 30 ก.ย. 2561 โดยเป็นการปลูกป่าไม้ ป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชน และการปลูกไม้โตเร็วตามหัวไร่ปลายนาร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน เช่น ศูนย์ปฏิบัติงานฝนหลวง โรงเรียน อาสาสมัครฝนหลวง เป็นต้น

กิจกรรมการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ระหว่างวันที่ 19 ก.ค. ถึง 30 ก.ย. 2561 ซึ่งดำเนินการไปพร้อมกับการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวัน โดยเลือกพื้นที่การโปรยเมล็ดพันธุ์ในบริเวณป่าเสื่อมโทรมและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

สำหรับพื้นที่ดำเนินงานกิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้น และกิจกรรมการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร แบ่งความรับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงแต่ละภูมิภาค ดังนี้ ภาคเหนือ รับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ปลูกป่าและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 5 ไร่ ชนิดกล้าไม้ ได้แก่ ประดู่, ตะเคียน, ยางนา, มะขามป้อม, ขนุน, ชมพู่, มะม่วง ซึ่งได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และดำเนินกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ดำเนินการบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 900 ไร่ โดยใช้ชนิดเมล็ดพันธุ์ มะค่าโมง, มะขามป้อม, สมอพิเภกและสัก S__4292628

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกป่าและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ สระโศกเดือนห้า อบต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขนาดพื้นที่ 80 ไร่ ชนิดกล้าไม้ ได้แก่ พะยูง, เต็ง, รัง, แดงและประดู่ และได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากศูนย์เพาะชำกล้าไม้ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ดำเนินการบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขนาดพื้นที่ 3,100 ไร่ โดยใช้ชนิดเมล็ดพันธุ์ มะค่าแต้และมะขามป้อม

ภาคตะวันออก รับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกปลูกป่าและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่ชุมชนนาหลวง ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขนาดพื้นที่ 10 ไร่ ชนิดกล้าไม้ ได้แก่ ประดู่, ยางนา, และตะแบก โดยได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากสำนักจัดการทรัพยากรที่ 9 สาขาปราจีนบุรี และกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ดำเนินการบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว ขนาดพื้นที่ 6,900 ไร่ โดยใช้ชนิดเมล็ดพันธุ์ มะค่าโมง ประดู่ และแดง

ภาคกลาง รับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ปลูกป่าและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ขนาดพื้นที่ 7 ไร่ ชนิดกล้าไม้ ได้แก่ มะค่า โดยได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ และกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ดำเนินการบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวและอุทยานแห่งชาติคลองลำงู ขนาดพื้นที่ 3,500 ไร่ ชนิด เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ แบ่งออกเป็น ดำเนินการ ณ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ได้แก่ สาธร สีเสียด พฤกษ์ แดง และดำเนินการ ณ อุทยานแห่งชาติคลองลำงู ได้แก่ มะค่า ประดู่ ไผ่รวก S__4292631

ภาคใต้ รับผิดชอบโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ปลูกป่าและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่สำนักเขื่อนไม้เต็ง อ.เมือง จ.ราชบุรี ขนาดพื้นที่ 30 ไร่ ชนิดกล้าไม้ ได้แก่ ประดู่, ยางนา, พะยูง, มะค่าโมง, แดง และรวงผึ้ง โดยได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากสถานีเพาะพันธุ์กล้าไม้ราชบุรี และกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ ดำเนินการบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติไทยประจันต์ จ.ราชบุรี ขนาดพื้นที่ 600 ไร่ โดยใช้ชนิดเมล็ดพันธุ์ มะค่าโมง, ประดู่ และมะขามป้อมป่า

ทั้งนี้ กิจกรรมการปลูกป่าและไม้ยืนต้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดทำ Application ระบบติดตามการปลูกต้นไม้ “Collector for ArcGIS” เพื่อเป็นเครื่องมือในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าว อีกทั้งเพิ่มความสะดวกในการติดตามข้อมูลการปลูกต้นไม้ และพื้นที่ปลูกต้นไม้ อาทิ พื้นที่ปลูก ชื่อผู้ปลูก ชื่อต้นไม้ และการดูแลรักษา ซึ่งจะทำให้สามารถติดตามการปลูกต้นไม้ได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิผลในการปลูกต้นไม้ภายใต้โครงการอย่างยั่งยืนต่อไป โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ IOS และ Android เพื่อร่วมกิจกรรมและติดตามดูผลการปลูกไม้ของตนเอง