กรมชลฯพร้อมรับมือฝนตกหนัก 11 – 15 ก.ค.นี้

11 ก.ค. 2561 | 12:49 น.
9-30 กรมชลประทาน ให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนประเทศไทยฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 11 – 15 กรกฎาคม 2561 นี้

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนฝนตกหนักบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 11 - 15 กรกฎาคม 2561 โดยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ นั้นกรมชลประทาน จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังและติดตามสภาพฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ต่างๆ

[caption id="attachment_297195" align="aligncenter" width="503"] ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล[/caption]

โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเดิม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่ หากเกิดฝนตกหนักสามารถเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งได้กำชับให้ตรวจสอบอาคารและระบบชลประทาน ให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัด สำหรับพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำนั้น ให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องมืออื่นเตรียมพร้อมไว้ด้วยแล้ว

สำหรับการเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ กรมชลประทาน ได้มีการเตรียมพร้อม เครื่องสูบน้ำ 1,851 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 317 ชุด เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 82 เครื่อง เรือขุด 32 ลำ รถขุด 161 คัน รถแทรกเตอร์ 35 คัน รถบรรทุก/ยานพาหนะ 324 คัน และสะพานเหล็กแบบถอดประกอบได้ 1 ชุด(สำรองไว้ที่ภาคใต้) กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,803 หน่วย ที่จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมได้อย่างทั่วถึงและ ทันต่อเหตุการณ์

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทาน บูรณาการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์น้ำหลากขึ้นในพื้นที่ จึงขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิดด้วย