ททท. เปิด 5 สำนักงานใหม่! ดันไทยเที่ยวไทยปี 62 สร้างรายได้ 1.12 ล้านล้าน
ททท. ปักหมุดเมืองรอง เดินหน้าเปิดสำนักงานในประเทศ 5 แห่ง ปี 62 ครอบคลุมทุกภูมิภาค ดันเป้าขับเคลื่อนรายได้ไทยเที่ยวไทย 1.12 ล้านล้านบาท ภาคเหนือโฟกัส "เรื่องเล่าชาวเหนือ" เปิดมุมมองการเที่ยวอย่างลึกซึ้ง ด้าน ภาคใต้เจาะกลุ่มลักชัวรี ใส่กิจกรรมครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไป ด้าน อีสานโปรโมตทัวร์ริมโขง
การขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าเติบโต 11.5% หรือ 3.46 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการเดินทางเที่ยวในประเทศ 1.12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และรายได้ต่างประเทศ อยู่ที่ 2.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% โดยแผนส่งเสริมตลาดในประเทศยังคงเน้นสร้างค่านิยมท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ "ไทยเท่" แต่จะลงลึกถึงท้องถิ่นมากขึ้นและสัมพันธ์กับการสร้างเดสติเนชันแบรนดิ้ง ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปีหน้า ททท. เตรียมจะจัดตั้งสำนักงานภายในประเทศอีก 5 แห่ง ใน 5 ภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ได้แก่ น่าน บุรีรัมย์ ราชบุรี จันทบุรี และสตูล เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีสำนักงานในประเทศอยู่ที่ 40 แห่ง ซึ่ง ททท. จะผลักดันให้เกิดการกระจายตัวด้านการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ในระดับฐานราก และได้มอบนโยบายการทำงานของตลาดในประเทศ ว่า จะต้องมุ่งรักษาฐานสัดส่วนรายได้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของรายได้รวมให้ได้ ซึ่งจุดหลัก คือ การเพิ่มความถี่ในการเดินทาง ส่วนบางพื้นที่ต้องเพิ่มอัตราการเข้าพักเฉลี่ย และที่สำคัญ คือ การกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ทิศทางการทำงานของตลาดในประเทศจะเน้นใน 5 เรื่อง ได้แก่ 1.Go Creative ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงพื้นที่รองในเมืองหลัก ที่จะเน้นทำงานร่วมกับท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ กิจกรรมใหม่ เพื่อความยั่งยืน โดยสำนักงานในประเทศควรจะกำหนดตัวชี้วัดใหม่ของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ คือ การทำให้ท้องถิ่นมีรายได้เท่าไร ไม่ใช่แค่วัดจากจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม หรือ การรับรู้ เท่านั้น อะไรเป็น UNSEEN, Untold, Unseal (แกะกล่อง) ในพื้นที่สำนักงานต้องไปหามา และในปี 2562 สำนักงานแต่ละแห่งต้องมีอย่างน้อย 1 โครงการที่ทำเรื่องการสื่อสารสมัยใหม่ นำองค์ความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้
2.Go More Story ทำอย่างไรให้คนมาร่วมค้นหาท้องถิ่นมากขึ้น นำมิติในหลายเรื่องของท้องถิ่น เช่น เรื่องเล่า ตำนานท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ใช้เป็นวัตถุดิบสร้างสรรค์สินค้าท่องเที่ยว 3.Go Equity เร่งปรับสมดุลเวลาและพื้นที่ ซึ่งในปีหน้าต้องทำให้ได้ ทั้งการเดินทางเที่ยววันธรรมดา ปรับการกระจายตัวในเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว 4.Go Tourism For All หรือ การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ทำให้การอารยสถานปัตย์ที่สะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว
สุดท้ายในเรื่องที่ 5 คือ Go Together บูรณาการทำงานภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายตลาดกับฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว ตลาดในประเทศกับตลาดต่างประเทศ ตลาดในประเทศกับประชาสัมพันธ์ใน ททท. และหน่วยงานภาคนอก ทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันทั้งในองค์กรและนอกองค์กร เพราะนับวันการท่องเที่ยวจะมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มากขึ้น ททท. จะทำงานคนเดียวไม่ได้
น.ส.สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ด้วยฐานของนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มใหญ่ที่ไปเที่ยวภาคเหนือ จะเป็นกลุ่มที่เดินทางซ้ำ ทำให้แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคเหนือในปีหน้าจะเน้นนำเสนอเรื่องราว "Content Marketing" มากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Amazing Story of the North" หรือ "เรื่องเล่าชาวเหนือ" กระตุ้นให้คนเดินทางในมุมมองลึกซึ้งมากขึ้น ดึงการท่องเที่ยวในเมืองหลัก อย่าง เชียงใหม่ มายังเมืองรองอื่น ๆ ในภาคเหนือ รวมถึงการเลือกเมืองรอง อย่าง เชียงราย พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้โครงการเชียงรายแต้ ๆ เน้นการพัฒนาใน 3 มิติ คือ มิติเศรษฐกิจ (เน้นการเติบโตของรายได้ 10%) , มิติด้านสังคม (เน้นความสุขท้องถิ่น-การเป็นเจ้าบ้านที่ดี) และมิติสิ่งแวดล้อม
นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกระบี่ เผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน คลัสเตอร์ ในปีหน้าจะเน้นกลุ่มตลาดลักชัวรีมากขึ้น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะเน้นส่งมอบประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งนักท่องเที่ยวต้องไป หรือ One in a Life Time ดังนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยวของกระบี่ ก็จะเน้นการโปรโมตใน 5 เส้นทาง ครอบคลุม 5 ชุมชน ที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้โครงการกระบี่อีกครั้ง หรือ Krabi Once Again อาทิ เวลเนส แอนด์ สปา ที่ อ.คลองท่อม
นอกจากนี้ ในด้านการท่องเที่ยวของภาคอีสาน จุดหลัก คือ จะเน้นเรื่องของทัวร์ริมโขง เชื่อมโยงการท่องเที่ยวหลายจังหวัดในอีสานและเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,382 วันที่ 12-14 ก.ค. 2561 หน้า 22
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ชง ม.44 แก้ปมภูเก็ต! ททท. เร่งฟื้นเชื่อมั่น
● ททท.กวาด 3รางวัล PATA Gold Award
การขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าเติบโต 11.5% หรือ 3.46 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการเดินทางเที่ยวในประเทศ 1.12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และรายได้ต่างประเทศ อยู่ที่ 2.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% โดยแผนส่งเสริมตลาดในประเทศยังคงเน้นสร้างค่านิยมท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ "ไทยเท่" แต่จะลงลึกถึงท้องถิ่นมากขึ้นและสัมพันธ์กับการสร้างเดสติเนชันแบรนดิ้ง ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปีหน้า ททท. เตรียมจะจัดตั้งสำนักงานภายในประเทศอีก 5 แห่ง ใน 5 ภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ได้แก่ น่าน บุรีรัมย์ ราชบุรี จันทบุรี และสตูล เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีสำนักงานในประเทศอยู่ที่ 40 แห่ง ซึ่ง ททท. จะผลักดันให้เกิดการกระจายตัวด้านการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ในระดับฐานราก และได้มอบนโยบายการทำงานของตลาดในประเทศ ว่า จะต้องมุ่งรักษาฐานสัดส่วนรายได้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของรายได้รวมให้ได้ ซึ่งจุดหลัก คือ การเพิ่มความถี่ในการเดินทาง ส่วนบางพื้นที่ต้องเพิ่มอัตราการเข้าพักเฉลี่ย และที่สำคัญ คือ การกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ทิศทางการทำงานของตลาดในประเทศจะเน้นใน 5 เรื่อง ได้แก่ 1.Go Creative ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงพื้นที่รองในเมืองหลัก ที่จะเน้นทำงานร่วมกับท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ กิจกรรมใหม่ เพื่อความยั่งยืน โดยสำนักงานในประเทศควรจะกำหนดตัวชี้วัดใหม่ของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ คือ การทำให้ท้องถิ่นมีรายได้เท่าไร ไม่ใช่แค่วัดจากจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม หรือ การรับรู้ เท่านั้น อะไรเป็น UNSEEN, Untold, Unseal (แกะกล่อง) ในพื้นที่สำนักงานต้องไปหามา และในปี 2562 สำนักงานแต่ละแห่งต้องมีอย่างน้อย 1 โครงการที่ทำเรื่องการสื่อสารสมัยใหม่ นำองค์ความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้
2.Go More Story ทำอย่างไรให้คนมาร่วมค้นหาท้องถิ่นมากขึ้น นำมิติในหลายเรื่องของท้องถิ่น เช่น เรื่องเล่า ตำนานท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ใช้เป็นวัตถุดิบสร้างสรรค์สินค้าท่องเที่ยว 3.Go Equity เร่งปรับสมดุลเวลาและพื้นที่ ซึ่งในปีหน้าต้องทำให้ได้ ทั้งการเดินทางเที่ยววันธรรมดา ปรับการกระจายตัวในเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว 4.Go Tourism For All หรือ การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ทำให้การอารยสถานปัตย์ที่สะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว
สุดท้ายในเรื่องที่ 5 คือ Go Together บูรณาการทำงานภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายตลาดกับฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว ตลาดในประเทศกับตลาดต่างประเทศ ตลาดในประเทศกับประชาสัมพันธ์ใน ททท. และหน่วยงานภาคนอก ทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันทั้งในองค์กรและนอกองค์กร เพราะนับวันการท่องเที่ยวจะมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มากขึ้น ททท. จะทำงานคนเดียวไม่ได้
น.ส.สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ด้วยฐานของนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มใหญ่ที่ไปเที่ยวภาคเหนือ จะเป็นกลุ่มที่เดินทางซ้ำ ทำให้แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคเหนือในปีหน้าจะเน้นนำเสนอเรื่องราว "Content Marketing" มากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Amazing Story of the North" หรือ "เรื่องเล่าชาวเหนือ" กระตุ้นให้คนเดินทางในมุมมองลึกซึ้งมากขึ้น ดึงการท่องเที่ยวในเมืองหลัก อย่าง เชียงใหม่ มายังเมืองรองอื่น ๆ ในภาคเหนือ รวมถึงการเลือกเมืองรอง อย่าง เชียงราย พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้โครงการเชียงรายแต้ ๆ เน้นการพัฒนาใน 3 มิติ คือ มิติเศรษฐกิจ (เน้นการเติบโตของรายได้ 10%) , มิติด้านสังคม (เน้นความสุขท้องถิ่น-การเป็นเจ้าบ้านที่ดี) และมิติสิ่งแวดล้อม
นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกระบี่ เผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน คลัสเตอร์ ในปีหน้าจะเน้นกลุ่มตลาดลักชัวรีมากขึ้น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะเน้นส่งมอบประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งนักท่องเที่ยวต้องไป หรือ One in a Life Time ดังนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยวของกระบี่ ก็จะเน้นการโปรโมตใน 5 เส้นทาง ครอบคลุม 5 ชุมชน ที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้โครงการกระบี่อีกครั้ง หรือ Krabi Once Again อาทิ เวลเนส แอนด์ สปา ที่ อ.คลองท่อม
นอกจากนี้ ในด้านการท่องเที่ยวของภาคอีสาน จุดหลัก คือ จะเน้นเรื่องของทัวร์ริมโขง เชื่อมโยงการท่องเที่ยวหลายจังหวัดในอีสานและเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,382 วันที่ 12-14 ก.ค. 2561 หน้า 22
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ชง ม.44 แก้ปมภูเก็ต! ททท. เร่งฟื้นเชื่อมั่น
● ททท.กวาด 3รางวัล PATA Gold Award
