“พาณิชย์” เปิดงานโครงการประชารัฐ 4 สร้าง “สร้างงาน สร้างตลาด สร้างโอกาส สร้างรายได้” ยันเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ผลิตชุมชน สร้างองค์ความรู้ สนับสนุนแหล่งเงินทุนและหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ ช่วยคนตัวเล็กค้าขาย ลดค่าครองชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระบุกำลังขยายไปสู่การใช้แอพฯ มือถือ เปิดโอกาสร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมโครงการ พร้อมจัดงานธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูกลดค่าครองชีพ
นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานโครงการประชารัฐ โดยการขับเคลื่อนไทยนิยม ยั่งยืน “สร้างงาน สร้างตลาด สร้างโอกาส สร้างรายได้” เพื่อจังหวัดพัทลุง ปัตตานี และนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 ณ ห้องประชุมโนรา โรงพยาบาลพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะการดูแลผู้มีรายได้น้อยและการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และได้เดินหน้าในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการชุมชนให้มีความกินดี อยู่ดี เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิต จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการในครั้งนี้ โดยได้มุ่งเน้นการจัดงานช่วยเหลือใน 10 จังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดของประเทศ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากจังหวัดอำนาจเจริญและบุรีรัมย์
การจัดงานที่จังหวัดพัทลุง กระทรวงพาณิชย์ได้นำอาชีพแบบง่ายๆ และมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก อาทิ การทำก๋วยเตี๋ยว และกล้วยแขกขั้นเทพ โดยมุ่งไปสู่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนผู้สนใจที่ต้องการมีอาชีพเสริม จำนวน 200 คน รวมทั้งจัดอบรมเบื้องต้นการส่งออกและขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้แก่ผู้ประกอบการจังหวัดพัทลุง ปัตตานี และนราธิวาส จำนวน 100 คน ทั้งนี้การอบรมในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีอาชีพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ภายในงานโครงการประชารัฐ 4 สร้าง มีประชาชนให้ความสนใจมาสอบถามเกี่ยวกับการจดลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า การเริ่มต้นธุรกิจ การหาตลาดและคู่ค้า มาตรการความช่วยเหลือจากธนาคารของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธนาคาร SME) โดยเฉพาะการนำเสนอวงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยปลอดดอกเบี้ยในปีแรก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและการประกอบธุรกิจเบื้องต้นมาจัดแสดง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและประชาชนที่มีความประสงค์ในการเพิ่มศักยภาพเพื่อสร้างรายได้ อาทิ น้ำพริกกะลา ผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากขมิ้นชัน
รวมทั้งยังมีการนำสินค้าชุมชนจากจังหวัดพัทลุง ปัตตานี นราธิวาส อาทิ ผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอรี่ ชาชัก ผลิตภัณฑ์น้ำมันจากถั่วดาวอินคา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ได้ให้บริการคำปรึกษาทางธุรกิจ และได้ส่งเสริมอาชีพจากสมุนไพร ในส่วนของ ธกส. ได้นำมาตรการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนมาให้คำแนะนำ เพื่อพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถี ดึงภูมิปัญญาและวิถีชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ท้องถิ่นในจังหวัดพัทลุง
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับห้างโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ ได้แก่ เซ็นทรัล บิ๊กซี และแม็คโคร กับผู้ประกอบการรายย่อยจาก 4 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง ตรัง ปัตตานี และนราธิวาส โดยสินค้าที่ผู้ประกอบการนำมาจับคู่ธุรกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสุกร หมอนยางพารา กาแฟข้าวสังข์หยด ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วย ขนมปั้นขลิบ เครื่องแกง ลูกหยี ส้มแขกแปรรูป อาหารทะเลแห้งและแปรรูป ข้าวเกรียบ เค้กมะพร้าว ขนมเปี๊ยะ
ขณะดียวกัน เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง กระทรวงฯ ได้จัดมหกรรมธงฟ้าลดค่าครองชีพ ระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2561 โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
“กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า โครงการประชารัฐ 4 สร้าง คือ สร้างงาน สร้างตลาด สร้างโอกาส สร้างรายได้ เพื่อจังหวัดพัทลุง นราธิวาส และปัตตานี ที่นำมาจัดระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคมนี้ จะสร้างความเข้าใจและตื่นตัวให้พี่น้องประชาชนมาเยี่ยมชมงาน เกี่ยวกับมาตรการและการส่งเสริมของรัฐบาลในการมีอาชีพเสริม หรือทางเลือกในการประกอบธุรกิจใหม่ๆ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ซึ่งจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระบวนความคิดในมิติใหม่ในการพัฒนาและพึ่งพาตนเอง สร้างงาน สร้างอาชีพ ตลอดจนส่งเสริมรวมทั้งเกิดการรวมตัวของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นของตน สร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวิเชียรกล่าวทิ้งท้าย