SENAฝ่ากระแสลุยคอนโดฯ ปี 61สร้างนิวไฮ 7,500 หน่วย
อสังหาฯเรื่องของ“ใหญ่-เล็ก”
ตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่คู่กับประเทศไทยมานาน โดยเฉพาะวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นพื้นที่การแข่งขันของรายใหญ่ๆ ถ้าโปรดักต์ไม่ดีจริง อยู่ยาก เนื่องจากลูกค้ามีช่องทางเข้าถึงข้อมูลโครงการ เปรียบเทียบกันได้ชัดขึ้น การแข่งขันจึงขึ้นอยู่กับใครเป็นมืออาชีพในแง่ของคุณภาพและบริการมากกว่ากัน ซึ่งปัจจุบันเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือ “ราคา” นับวันแพงขึ้น ขณะที่ขนาดของ “ห้อง” เล็กลง ผลพวงแนวโน้มราคาที่ดินที่เป็นตัวผลัก
“การทำธุรกิจอสังหาฯ มีทั้งความใหญ่และความเล็กในตัว กล่าวคือ “ความใหญ่” หมายถึงแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดี เป็นที่รู้จักและจดจำได้ จะได้เปรียบสูง ขณะที่ “ความเล็ก” หมายถึงการใส่ใจของผู้สร้าง เพราะที่อยู่อาศัย ถ้าจะให้ถูกใจคนซื้อ ก็ต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจในเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ หากโครงการนั้นมีทั้งความเล็กและความใหญ่ ก็มีแววจะประสบความสำเร็จ”
ผุด 7,500 หน่วย
ดร.เกษรา ระบุว่า หลังจากรีแบรนด์ SENA อย่างจริงจังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด MADE FROM HER “ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายแฮปปี้” ส่งผลให้มีคนรู้จักแบรนด์ SENA เพิ่มขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายขึ้น ด้วยภาพลักษณ์ดูทันสมัย ต่างจากในอดีต ส่งผลให้ตัวเลขผลประกอบการเติบโตทุกปี กล่าวได้ว่าแบรนด์เปรียบเป็นใบเบิกทางสำคัญ แต่สิ่งสำคัญกว่า คือโปรดักต์และบริการคุณภาพที่ลูกค้าได้รับและบอกต่อ
ในปีนี้ SENA ลงทุน 2.3 หมื่นล้านบาท เป็นงบลงทุนที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 40 ปีตั้งแต่ทำ ธุรกิจมา เปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโด มิเนียมรวม 17 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท ภายในช่วงระยะ 1-2 ปี โดย ที่ปี 2561 มุ่งตลาดคอนโดมิเนียม วางแผนเปิดทั้งหมดรวม 7,500 หน่วย ถือเป็นตัวเลขที่มากสุดเป็นอันดับ 1 ของตลาด เมื่อเทียบกับตัวเลขของค่ายอื่นๆ เน้นเจาะกลุ่มระดับราคา 2-3.5 ล้านบาทต่อหน่วย เป้าหมายลูกค้าคือบุคคลรายได้ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ในระดับตำแหน่งผู้จัดการ และแตะระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผ่านหลากหลายแบรนด์และทำเล
นำร่องด้านพลังงานสะอาด
ขณะนี้หมู่บ้านที่ SENA สร้างและออกสู่ตลาดแล้ว เปรียบเป็นหมู่บ้านแห่งแรกด้านโซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบโครงการแรกของไทย (เสนา พาร์ค แกรนด์) โดยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน (โซลาร์รูฟท็อป) ดำเนินงานผ่าน บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ แต่ละหลังสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางด้วย ในลักษณะบริษัทติดตั้งให้ก่อนส่งมอบบ้าน มีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งพลังงานของแต่ละบ้าน ช่วยในการประหยัดค่าไฟฟ้า
“การบุกเบิกบ้านโซลาร์ กลายเป็นจุดขายของบริษัท ปัจจุบันมีลูกค้าบางส่วนเข้ามาซื้อเพราะต้องการความคุ้มค่าด้านนี้ ซึ่งขณะนี้มีบ้านเสนา ที่มีพลังไฟฟ้าใช้เองได้ถึง 300หลังคาเรือน แต่ละหลังผลิตได้ประมาณ 2.5 กิโลวัตต์ และติดครั้งเดียว ใช้ได้นาน 20-25 ปี เป็นเทคโนโลยีสะอาดและประหยัดกว่าไฟฟ้าของรัฐบาล”
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3381 ระหว่างวันที่ 8 - 11 ก.ค. 2561
