ซุ่มเปิด‘ฟู้ดเฮฟเว่น’ รวมร้านดังจับนักชิม
ซีอาร์จี รุกครึ่งปีหลังส่งโมเดลใหม่ ควบรวมร้านอาหารเพิ่มความหลากหลายป้อนกลุ่มครอบครัว พร้อมเดินหน้าปักหมุดสาขาใหม่อีก 60-70 แห่ง หวังดันยอดขายปลายปีโตต่อเนื่อง
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมแผนดำเนินธุรกิจเพื่อรุกตลาดต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากการเปิดตัวโมเดลใหม่ “ฟู้ด เฮฟเว่น” ที่รวมร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำในเครือซีอาร์จีมาไว้ร่วมกัน โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่เทสโก้ โลตัส พลัสมอลล์ บางใหญ่ เป็นการรวมตัวของ 3 แบรนด์ ได้แก่ เปปเปอร์ ลันช์, โยชิโนยะและคัตสึยะบนพื้นที่ 380 ตร.ม. รองรับลูกค้าได้ 170 ที่นั่ง มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัว ใช้งบลงทุน 12.5-13 ล้านบาทต่อสาขา และตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 2 ล้านบาทต่อเดือน
“ฟู้ดเฮฟเว่น เป็นการรวมร้านอาหารในเครือซีอาร์จีเข้าด้วยกัน ประเดิมสาขาแรกที่เทสโก้ โลตัส บางใหญ่ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว โดยคัดเมนูยอดฮิตในราคาที่เข้าถึงง่าย กับร้านอาหารทั้ง 3 แบรนด์ ที่นำมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งนี้คาดว่าจะทำรายได้ให้ซีอาร์จี รวมกว่า 15-20% และทั้ง 3 แบรนด์ยังมีโอกาสในการเติบโตไปได้อีก และจะเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่งภายในปีนี้อาทิเมกาบางนา, ซีคอน สแควร์ เป็นต้น”
นอกจากนี้บริษัทยังจับมือกับผู้ให้บริการดีลิเวอรีให้บริการส่งสินค้า อาทิ LineMan, FoodPanda, Now, Honestbee และ GrabFood โดยมีการพัฒนาระบบดีลิเวอรี ให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากแบรนด์ต่างๆ ในเครือได้หลายแบรนด์ในการสั่ง 1 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 นี้ โดยจะเริ่มทดลองเปิดให้บริการในทำเลศักยภาพ ที่เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District : CBD)
ปัจจุบันซีอาร์จี มีแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารในเครือ 12 แบรนด์ มีสาขาทุกแบรนด์รวมกันกว่า 914 แห่งซึ่งในครึ่งปีหลังซีอาร์จีจะเปิดอีก 60-70 แห่ง ส่งผลให้จนถึงสิ้นปีนี้จะมีสาขามากกว่า 1,000 แห่ง รวมทั้งจะมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า โดยจะกระจายสินค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงในตลาดต่างประเทศด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7-8% โดยแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ เคเอฟซี, มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ และเปปเปอร์ ลันช์ ซึ่งมีรายได้รวมกันกว่า 75-80%
……………….……………….……………….
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมแผนดำเนินธุรกิจเพื่อรุกตลาดต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากการเปิดตัวโมเดลใหม่ “ฟู้ด เฮฟเว่น” ที่รวมร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำในเครือซีอาร์จีมาไว้ร่วมกัน โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่เทสโก้ โลตัส พลัสมอลล์ บางใหญ่ เป็นการรวมตัวของ 3 แบรนด์ ได้แก่ เปปเปอร์ ลันช์, โยชิโนยะและคัตสึยะบนพื้นที่ 380 ตร.ม. รองรับลูกค้าได้ 170 ที่นั่ง มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัว ใช้งบลงทุน 12.5-13 ล้านบาทต่อสาขา และตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 2 ล้านบาทต่อเดือน
“ฟู้ดเฮฟเว่น เป็นการรวมร้านอาหารในเครือซีอาร์จีเข้าด้วยกัน ประเดิมสาขาแรกที่เทสโก้ โลตัส บางใหญ่ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว โดยคัดเมนูยอดฮิตในราคาที่เข้าถึงง่าย กับร้านอาหารทั้ง 3 แบรนด์ ที่นำมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งนี้คาดว่าจะทำรายได้ให้ซีอาร์จี รวมกว่า 15-20% และทั้ง 3 แบรนด์ยังมีโอกาสในการเติบโตไปได้อีก และจะเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่งภายในปีนี้อาทิเมกาบางนา, ซีคอน สแควร์ เป็นต้น”
นอกจากนี้บริษัทยังจับมือกับผู้ให้บริการดีลิเวอรีให้บริการส่งสินค้า อาทิ LineMan, FoodPanda, Now, Honestbee และ GrabFood โดยมีการพัฒนาระบบดีลิเวอรี ให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากแบรนด์ต่างๆ ในเครือได้หลายแบรนด์ในการสั่ง 1 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 นี้ โดยจะเริ่มทดลองเปิดให้บริการในทำเลศักยภาพ ที่เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District : CBD)
ปัจจุบันซีอาร์จี มีแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารในเครือ 12 แบรนด์ มีสาขาทุกแบรนด์รวมกันกว่า 914 แห่งซึ่งในครึ่งปีหลังซีอาร์จีจะเปิดอีก 60-70 แห่ง ส่งผลให้จนถึงสิ้นปีนี้จะมีสาขามากกว่า 1,000 แห่ง รวมทั้งจะมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า โดยจะกระจายสินค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงในตลาดต่างประเทศด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7-8% โดยแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ เคเอฟซี, มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ และเปปเปอร์ ลันช์ ซึ่งมีรายได้รวมกันกว่า 75-80%
……………….……………….……………….
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561
