ปั้น ‘เมกาซิตี้’ ดึงลูกค้า ทุ่มงบเสริมแม็กเนตชิงกำลังซื้อครึ่งปีหลัง

เมกาบางนา เร่งสปีดปั้น “เมกา ซิตี้” เสริมทัพแม็กเนตเต็มสตรีม ทั้งมาร์เวล โรงเรียนอินเตอร์ พร้อมปั้นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เผยทุ่มงบกว่า 100 ล้านยกเครื่องเติมความสดให้ศูนย์ เปิดตัวแอพพลิเคชันหวังทำตลาดแบบ one to one มั่นใจดึงนักช็อปเพิ่ม 15% ในสิ้นปี

นางสาวพลินี คงชาญศิริ รองผู้อำนวยการศูนย์การค้าเมกา บางนา บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “เมกา บางนา” เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการแข่งขันของค้าปลีกในกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกและการปั้นเมกา ซิตี้ รับกำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง เมกา บางนาเตรียมแม็กเนตต่างๆ ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นThe Marvel Experience Thailand บนพื้นที่ 13 ไร่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โรงเรียนนานาชาติ ดิษยะศริน กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รูปแบบใหม่แบบอินดอร์ที่รวมเครื่องเล่นนานาชนิด บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม. งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทบริหารโดยฮาร์เบอร์แลนด์ พัทยา และเมกา พาร์ค พื้นที่สีเขียวบนเนื้อที่ 7 ไร่ ซึ่งทั้งหมดจะทยอยเปิดให้บริการกับลูกค้าในปลายปีนี้และไตรมาสแรกของปีหน้า

[caption id="attachment_295670" align="aligncenter" width="336"] พลินี คงชาญศิริ[/caption]

ขณะที่ภายในศูนย์การค้าบริษัทเตรียมใช้งบกว่า 100 ล้านบาทปรับปรุงพื้นที่ในครึ่งปีหลัง โดยทยอยรีโนเวตห้องนํ้า พื้น โถงอาคารโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีหน้า รวมทั้งการปรับเปลี่ยนโซนร้านค้าต่างๆ โดยจะมีร้านค้าใหม่เปิดให้บริการ 40 ร้าน โดย 10% จะเป็นร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการในเมืองไทย อาทิ เอแลนด์ มัลติแบรนด์สโตร์จากเกาหลี Pomelo ออนไลน์สโตร์ดัง JD Sport ร้านค้าปลีกสปอร์ตแฟชั่นแบรนด์ดังจากอังกฤษที่เข้ามาเปิดให้บริการแห่งแรกในประเทศไทย เป็นต้น

จากกระแสโลกออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้พบว่า ร้านค้าปลีกต่างๆ หันมาให้บริการออนไลน์ควบคู่กันไป ดังนั้นศูนย์จึงเตรียมพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น และเก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า เพื่อนำมาจัดทำแผนการตลาด ส่งเสริมการขายแบบ one to one รวมทั้งสื่อสารให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาคาดว่าจะเริ่มให้บริการแอพพลิเคชันได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

“การแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ศูนย์ต้องเร่งพัฒนาตัวเอง โดยมีเป้าหมายให้เมกา บางนาเป็น meeting place ในทุกช่วงเวลา สำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกัน แต่สามารถมาใช้ชีวิตแบบครบวงจรอยู่ในเมกา บางนาได้เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ไม่ว่าการวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่ 05.00 น. รับประทานอาหารเช้าในเวลา 07.00 น. หรือจะเลือกมาใช้บริการร้านอาหาร พักผ่อน ไนท์ไลฟ์ ก็มีร้านค้าเปิดถึงเที่ยงคืน ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเปิดให้บริการอยู่กว่า 10 ราย และจะมีเพิ่มขึ้นอีกหลังจากกระแสตอบรับดีเกินคาด”

อย่างไรก็ดี เมกา บางนามีพื้นที่ราว 400 ไร่ ที่จะพัฒนาให้เป็นเมกา ซิตี้ เบื้องต้นใช้พื้นที่ไปแล้วกว่า 220 ไร่ในการพัฒนาเป็นศูนย์การค้า และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ คอนโด มิเนียมหรู บริหารโดยอารียา พรอพเพอร์ตี้ และในอนาคตมีแผนพัฒนาโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 250 ห้อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในไตรมาส 2 ปีหน้า นอกจากนี้อยู่ระหว่างหาพันธมิตรเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นสปอร์ตครบวงจร เปิดให้บริการ 24 ชม.เพื่อให้เป็นคอมมิวนิตีแห่งใหม่ของย่านกรุงเทพฯตะวันออก

นางสาวพลินี กล่าวอีกว่า ด้านการตลาดปีนี้บริษัทใช้งบเพิ่ม 10% ในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยจะเห็นอีเวนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นซิกเนเจอร์ อีเวนต์และเอ็กซิบิชัน อีเวนต์ อาทิ ฮัลโลวีน, เคาน์ดาวต์ เป็นต้น โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวม42ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 15%จากปีก่อน และเป็น 60 ล้านคนในปีหน้าด้วย

……………….……………….……………….

หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561