4เดือนเบิกจ่ายทะลุ1ล้านล้าน กรมบัญชีกลางชี้แรงส่งจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเดินตามเป้า

04 ก.พ. 2559 | 06:00 น.
กรมบัญชีกลางเผยผลเบิกจ่าย 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 เบิกจ่ายได้แล้ว 1.048 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2558 หลังปิดบัญชีสิ้นปีก่อน รัฐจัดเก็บรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้น 6% -สินทรัพย์สูงกว่า 6.6 ล้านล้านบาท

[caption id="attachment_29674" align="aligncenter" width="350"] มนัส แจ่มเวหา มนัส แจ่มเวหา[/caption]

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2559 ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2558- 29 มกราคม 2559 ว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายได้แล้วจำนวน 1.04 ล้านล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2.72 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 38.55% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำเบิกจ่ายได้ 9.60 แสนล้านบาท ของวงเงิน 2.17 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.15% และรายจ่ายลงทุน เบิกจ่ายได้ 8.81หมื่นล้านบาท ของวงเงิน 5.44 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น16.20% โดยสรุปแล้วสามารถเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของงบประมาณปี 2558 เนื่องจากหน่วยงานราชการได้เตรียมพร้อมเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างไว้แล้ว ส่งผลให้การเบิกจ่ายภาครัฐได้ตามเป้าหมายตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ทั้งนี้ หากนำผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 2559 ในภาพรวม เบิกจ่ายได้1.04 ล้านล้านบาท มารวมกับเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี เบิกจ่ายได้ 1.02 แสนล้านบาท คิดเป็นวงเงินรวม 1.15 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2558 เนื่องจากผลการเบิกจ่ายภาพรวมปีงบประมาณ 2558 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี สามารถเบิกจ่ายได้เพียง 1.06 ล้านล้านบาทเท่านั้น ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายมนัส กล่าวด้วยว่าขณะที่โครงการสำคัญตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบด้วย 1. มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท วงเงินรวม 3.646หมื่นล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 1.452 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2.49 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 6.8% ซึ่งเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนสามารถลงนามในสัญญาได้เพียง 1.137 หมื่นล้านบาท และเบิกจ่ายได้ 1.7 พันล้านบาท เนื่องจากกรมบัญชีกลางได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท อย่างใกล้ชิด ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด คลังเขตและคลังจังหวัด และช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ซึ่งส่งผลให้การเบิกจ่ายมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น

2.มาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน วงเงินรวม 3.19 พันล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 1.95 พันล้านบาท เบิกจ่ายได้ 1.17 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 36.9% 3.โครงการช่วยเหลือเกษตรและคนยากจนโดยสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร วงเงินรวม 254 ล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 120 ล้านบาท เบิกจ่ายได้ 73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.9% และ 4.มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ วงเงินรวม 3.974 หมื่นล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว 3.198หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2.73 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 69.2%

"จากการที่ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่าย และขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของการดำเนินงาน เพื่อให้หน่วยงานราชการสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว พร้อมทั้งกรมบัญชีกลางได้ออกหนังสือเวียนให้สำนักงานคลังจังหวัดขยายเวลาการให้บริหารแก่ส่วนราชการนั้น จึงทำให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และคาดการณ์ว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ 100% ภายในมีนาคม 2559 ตามที่รัฐบาลกำหนด" นายมนัส กล่าวและว่า

สำหรับการจัดทำงบการเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ 2558ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้แผ่นดิน 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2557 โดยมีรายได้สำคัญเพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บรายได้ของ กรมสรรพสามิตกว่า 4.7 แสนล้านบาท และรายได้รัฐพาณิชย์เพิ่มขึ้น 2.6 แสนล้านบาท ส่วนรายจ่ายของรัฐบาลสูงกว่ารายได้ 2.7 แสนล้านบาท รายจ่ายส่วนใหญ่กว่า 93% เป็นรายจ่ายตามงบประมาณ

ขณะที่ บัญชีแผ่นดินประจำปี 2558 แสดงสินทรัพย์ของรัฐบาล 6.6 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย ที่ราชพัสดุพื้นที่ 10.35 ล้านไร่ มูลค่า 3.8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 57% ของสินทรัพย์รวม รองลงมาเป็นเงินลงทุนในรัฐวิสาหกิจ 62 แห่ง มูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 26% ของสินทรัพย์รวม และเงินคงคลังจำนวน 4.5 แสนล้านบาท ด้านหนี้สินของรัฐบาลมีหนี้สินรวม 4.6 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เงินกู้ 4.2 ล้านล้านบาท ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล

"การจัดทำงบการเงินแผ่นดิน เป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของกรมบัญชีกลาง เพื่อสะท้อนถึงฐานะการเงินและ ผลการดำเนินงานของแผ่นดิน โดยรวบรวมมาจากผลการดำเนินงานของรัฐบาลปีที่ผ่านมา ซึ่งจะแสดงความโปร่งใส ทางการคลังและเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อรัฐบาลในการกำหนดนโยบายทางการคลัง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้รัฐบาลมีศักยภาพในการระดมทุนได้มากขึ้นอีกด้วย" นายมนัส กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559