"วิรไท"ชี้ตลาดเงินผันผวนสูงไม่จบเร็วย้ำให้ป้องกัน-บริหารความเสี่ยง

03 ก.ค. 2561 | 11:56 น.
"วิรไท"ผู้ว่าธปท.เผยตลาดเงินผันผวนสูงไม่จบเร็วย้ำให้ป้องกัน-บริหารความเสี่ยง/จับตาผลกระทบภาคเกษตร-เอ็นพีแอลทรงตัวหลังหนี้ตกชั้นน้อยลง

bot

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ระบุว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของค่าเงินข้างหน้า ความผันผวนจะสูงและตลาดเงินตลาดทุนยังมีความเสี่ยงคงไม่จบเร็ว ซึ่งสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งธนาคารกลางต่างประเทศเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ต่อเนื่อง ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะหยุดการเข้าซื้อพันธบัตร(คิวอี)ก่อนจะปรับดอกเบี้ยขึ้นในปีหน้า ขณะสงครามการค้ายังไม่ยุติซึ่งจะเห็น2-3วันที่ผ่านมาสกุลเงินในภูมิภาคเปลี่ยนแปลง เช่น สกุลเงินหยวนที่เป็นเป้าหมายสงครามการค้าและมีมาตรการตอบโต้ ประกอบกับปลายปีสหรัฐจะมีการเลือกกลางเทอม อาจมีมาตรการกีดกันการค้าออกมามีอิทธิพลต่อสงครามการค้า

"แม้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสกุลเงินต่างประเทศ เพราะฐานะต่างประเทศเรามั่นคงและเข้มแข็งโดยมีกันชนด้านต่างประเทศต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าหนี้ต่างประเทศทั้งรัฐหรือเอกชนก่อหนี้ต่างประเทศไม่มาก ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงจึงไม่อ่อนไหว เมื่อเงินทุนไหลออกโดยที่ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงกว่าหนี้ระยะสั้น 3.5 เท่า หรือไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งปีก่อนเกินดุล 4.9 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ และปีนี้คาดจะเกินดุล 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยทั้งหมดนี้เป็นกันชน แต่เราจะชะล่าใจไม่ได้ เพราะตลาดเงินตลาดทุนโลกมีความเชื่อมโยงหากตลาดผันผวนรุนแรงจะกระทบแน่นอน จึงจำเป็นต้องบริหารและป้องกันความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง"
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ผู้ว่าการธปท.กล่าวถึงด้านเศรษฐกิจว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(บอร์ดกนง.)ได้ปรับเพิ่มประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) เป็น 4.4% จากเดิม 4.1% เมื่อ2สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยหลายตัวชี้วัดดีขึ้นโดยภาคต่างประเทศชัดเจนทั้งการส่งออก ภาคบริการการท่องเที่ยวยังขยายตัวดี สัญญาณการบริโภค การลงทุนในประเทศทั้งนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักรและเห็นการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์

ขณะที่ธปท.จับตามอง ผลกระทบภาคเกษตร ซึ่งที่ผ่านมามีผลกระทบหลายเรื่องเช่น ยกเลิกนโยบายพยุงราคาสินค้าบางรายการ หรือภัยแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะทำโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่วน เอ็นพีแอลนั้นเห็นสัญญาณทรงตัวที่ 2.9%โดยเห็นตัวเลขหนี้ตกชั้นน้อยลง

e-book-1-503x62-7