ฉาย บุนนาค : SCB-SCC หุ้นเบญจภาคีที่ควรเก็บ และความเขลาของ “กองทุนฝรั่งมังค่า”

แม้ดัชนีจะปรับตัวลงกว่า 200 จุด หรือกว่า 15% อย่างน่าใจหายในช่วงที่ผ่านมา กับปริมาณแรงขายตั้งแต่ต้นปี 2561 ถึงปัจจุบันเฉียด 1.8 แสนล้านล้านบาทจากกองทุนต่างประเทศ พร้อมข่าวลือสมทบมากมายหนาหูเกี่ยวกับหุ้นชั้นดีหลายตัว

เช่น “SCB” หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ “SCC” หรือ “บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย” ส่งผลให้ราคาลดลงอย่างน่าใจหาย

ข่าวลือ คือ ข่าวลือ... สิ่งที่จับต้องได้จริงคือผลประกอบการหรือผลงานของบริษัท ที่สะท้อนความเข้มแข็งและมั่นคงขององค์กร

เงินปันผล คือ ดอกผลแห่งการลงทุนที่ตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกราย

แม้พวกกองทุน “ฝรั่งมังค่า” จะขายหุ้นไทยอย่างมันมือ นั่นไม่ได้หมายความว่า หุ้นหรือบริษัทเหล่านั้นมีปัญหาหรือหมดความน่าเชื่อถือ!
กองทุนฝรั่ง ไม่ได้ฉลาดเฉลียวอะไรกว่าเราคนไทย ฝรั่งที่บริหารเงินทุนไม่ได้มี 3 หัว 4 มือ 10 ขา กับไอคิว 180

กลับกัน... กองทุนต่างชาติเหล่านี้คือกองทุน ที่แสวงหาผลประโยชน์สูงสุด ไม่ผูกพันอะไรกับบริษัทใด ๆ เป็นพิเศษ เงินทุนนี้ไหลไปตามที่ต่าง ๆ ที่ให้อัตราตอบแทนสูงสุดทั่วโลก

ปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เช่น อัตราดอกเบี้ยทั่วโลก อัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการลงทุนแต่ละกอง และอื่นๆ อีกมากมาย คือเหตุแห่งการปรับพอร์ทการลงทุนครั้งนี้

โดยสรุปการขายหุ้นไทยของกองทุนเหล่านี้ คือ “การปรับพอร์ตการลงทุน” และ “การเคลื่อนไหวของกระแสเงินโลก” เพียงเท่านั้น!

หุ้นที่ดีหลายต่อหลายตัวปัจจุบันอยู่ในกรอบราคาที่น่าลงทุน น่าสะสมระยะยาวและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหุ้นส่วนบริษัท เช่น SCB และ SCC
SCB และ SCC วันนี้ราคาไม่ถึง 120 บาท และ 414 บาทต่อหุ้น เทียบเท่ากับ P/E เพียงไม่ถึง 10 เท่า พร้อมอัตราจ่ายเงินปันผลเกือบ 5% ต่อปี ซึ่งถือว่าถูกกว่ามาตรฐานราคาหุ้นตัวอื่น ๆ ในตลาด

“หัวใจสำคัญ” ของ “ความสำเร็จในการลงทุน” คือ จงกล้าในยามที่คนกลัว และจงกลัวในยามที่คนอื่นกล้า แปลตามภาษาธรรมคือ จงมีสติ ใช้ปัญญาดูเหตุและผล อย่าใช้ความกลัวและความโลภตัดสินใจ

กรณีนี้ถือเป็นโอกาสหรือไม่ โปรดจงใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจต่อเองครับ

|คอลัมน์ : ฉาย บุนนาค
|โดย : ฉาย บุนนาค  
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 18  ฉบับ 3380 ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ค.2561