ฟันธงขายรถทะลุล้านคัน! สัญญาณบวกดันอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้สดใส
อุตสาหกรรมยานยนต์ครึ่งปีหลังสดใส! ปัจจัยหนุนมาจากเศรษฐกิจขยายตัว-การลงทุนจากภาครัฐเดินหน้า ค่ายรถมั่นใจ! ยอดขายถึง 1 ล้านคัน
ยอดขายรถยนต์รวมของไทยตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง พ.ค. 2561 ทำได้ทั้งสิ้น 401,264 คัน เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 340,182 คัน โดยในเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งเติบโตเพิ่มขึ้น 16% ส่วนเซ็กเมนต์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เติบโตเพิ่มขึ้น 19.2% ขณะที่ ตัวเลขการขายเฉพาะเดือน พ.ค. 2561 พบว่า ทำได้ทั้งสิ้น 84,965 คัน เพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตัวเลขการขายที่เติบโตเป็นผลมาจากความต้องการรถยนต์ที่มีอยู่สูง ตั้งแต่ต้นปีประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มขยายตัว ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ค่ายรถยนต์มั่นใจว่า ยอดขายรถรวมของปี 2561 อาจจะถึง 1 ล้านคัน
"เดิมทีเราประเมินว่า ยอดขายรถรวมในปีนี้จะอยู่ที่ 9-9.3 แสนคัน แต่เมื่อผ่านพ้นไป 5 เดือน ตลาดรวมมีการเติบโตกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็น ครบรอบการถือครองรถคันแรก ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนจะมีการซื้อรถคันใหม่ รวมไปถึงการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น ทั้งอีอีซี , ทั้งรถไฟฟ้า-โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมไปถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น , จีดีพีจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3 ตอนนี้ก็น่าจะไปถึงระดับ 4.1-4.2 ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยบวกที่จะผลักดันให้ยอดขายรถยนต์รวมในปีนี้ไปสู่ระดับ 1 ล้านคัน" นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
สำหรับมิตซูบิชิ มียอดขาย 33,929 คัน เติบโต 25.9% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.5% ซึ่งหากทิศทางตลาดเป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ ทางมิตซูบิชิจะต้องมีการปรับเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะเดือน ส.ค. นี้ จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่คาดว่าจะเข้ามาเสริมทัพไลน์อัพสินค้าให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ด้าน นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ตลาดในครึ่งปีแรกดีเกินกว่าที่คาดไว้ ทำให้ประเมินว่า ยอดขายรถยนต์จะทำได้กว่า 9.5 แสนคัน โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ภาคการเกษตรที่ราคาพืชผลเริ่มดีขึ้น การส่งออกที่ขยายตัว ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ เศรษฐกิจโลก การตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกากับจีน ขณะที่ อีซูซุกำลังพิจารณาว่าจะมีการปรับเป้าหมายของบริษัท โดยต้องรอดูตัวเลขยอดขายของเดือน มิ.ย. รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ปัจจุบัน อีซูซุมีส่วนแบ่งการตลาด 18.3%
"ในช่วงไตรมาส 3 เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งตามปกติจะเป็นโลว์ซีซันของการขาย แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 4 จะเข้าสู่หน้าขายแบบเต็มที่ ซึ่งเรายังมองว่า ตลาดรวมน่าจะดี อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ที่มีผลกับดอกเบี้ยที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น และทำให้เงินบาทของเราอ่อน โดยประเทศเพื่อนบ้านของเราตอนนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว ทั้งอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย"
ขณะที่ นายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)ฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ดีขึ้นส่งสัญญาณบวกกับตลาดรถยนต์ โดยคาดว่า ยอดขายรถยนต์รวมปีนี้น่าจะอยู่ที่ 9.4 แสนคัน ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง คือ ตลาดหุ้น ขณะที่ ฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขายในปีนี้ 1.26 แสนคัน
ส่วนนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เดิมทีได้ประเมินว่า ตลาดรถยนต์จะมียอดขาย 9.2 แสนคัน แต่ปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยนเป็น 9.6 แสนคัน เนื่องจากตลาดเติบโตประกอบกับช่วงไตรมาส 4 จะมีงานอีเวนต์ขายรถ , การประกาศโบนัสของแต่ละบริษัท และความชัดเจนด้านการเมือง ที่ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมเกิดความคึกคัก
"ภาพรวมตอนนี้เติบโตทั้งรถยนต์นั่งและรถปิกอัพ เพราะสถาบันการเงินมีความผ่อนคลาย หนี้ครัวเรือนไม่น่าห่วง , รถคันแรกที่ครบ 5 ปี เข้าสู่ปีที่ 6 ทำให้เรามองว่า บางส่วนจะเปลี่ยนรถ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผล คือ การลงทุนจากภาครัฐในโครงการต่าง ๆ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่จากบริษัทรถยนต์และการทำแคมเปญเพื่อเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น"
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ยังคงเติบโต สอดคล้องไปกับเศรษฐกิจไทย รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ การแข่งขันของบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ที่มีข้อเสนอพิเศษออกมา เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดล้วนส่งผลดีต่อตลาด
"แม้ว่าเสถียรภาพทางการเมืองจะยังไม่ชัดเจนและราคาน้ำมันที่ผันผวน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก"
……………….
เซ็กชัน : ยานยนต์ โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,379 วันที่ 1-4 ก.ค. 2561 หน้า 32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● TRDตั้งรง.ชุดแต่งรถในไทย
● กลุ่มฯยานยนต์ย้ำ! ให้คงภาษีนำเข้ารถยนต์ 80%
[caption id="attachment_297546" align="aligncenter" width="500"]
ลงทะเบียนสำรองที่นั่ง : https://goo.gl/forms/iglj95bfXocf9lqE2[/caption]
ยอดขายรถยนต์รวมของไทยตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง พ.ค. 2561 ทำได้ทั้งสิ้น 401,264 คัน เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 340,182 คัน โดยในเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งเติบโตเพิ่มขึ้น 16% ส่วนเซ็กเมนต์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เติบโตเพิ่มขึ้น 19.2% ขณะที่ ตัวเลขการขายเฉพาะเดือน พ.ค. 2561 พบว่า ทำได้ทั้งสิ้น 84,965 คัน เพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตัวเลขการขายที่เติบโตเป็นผลมาจากความต้องการรถยนต์ที่มีอยู่สูง ตั้งแต่ต้นปีประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มขยายตัว ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ค่ายรถยนต์มั่นใจว่า ยอดขายรถรวมของปี 2561 อาจจะถึง 1 ล้านคัน
"เดิมทีเราประเมินว่า ยอดขายรถรวมในปีนี้จะอยู่ที่ 9-9.3 แสนคัน แต่เมื่อผ่านพ้นไป 5 เดือน ตลาดรวมมีการเติบโตกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็น ครบรอบการถือครองรถคันแรก ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนจะมีการซื้อรถคันใหม่ รวมไปถึงการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น ทั้งอีอีซี , ทั้งรถไฟฟ้า-โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมไปถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น , จีดีพีจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3 ตอนนี้ก็น่าจะไปถึงระดับ 4.1-4.2 ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยบวกที่จะผลักดันให้ยอดขายรถยนต์รวมในปีนี้ไปสู่ระดับ 1 ล้านคัน" นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
สำหรับมิตซูบิชิ มียอดขาย 33,929 คัน เติบโต 25.9% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.5% ซึ่งหากทิศทางตลาดเป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ ทางมิตซูบิชิจะต้องมีการปรับเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะเดือน ส.ค. นี้ จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่คาดว่าจะเข้ามาเสริมทัพไลน์อัพสินค้าให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ด้าน นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ตลาดในครึ่งปีแรกดีเกินกว่าที่คาดไว้ ทำให้ประเมินว่า ยอดขายรถยนต์จะทำได้กว่า 9.5 แสนคัน โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ภาคการเกษตรที่ราคาพืชผลเริ่มดีขึ้น การส่งออกที่ขยายตัว ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ เศรษฐกิจโลก การตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกากับจีน ขณะที่ อีซูซุกำลังพิจารณาว่าจะมีการปรับเป้าหมายของบริษัท โดยต้องรอดูตัวเลขยอดขายของเดือน มิ.ย. รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ปัจจุบัน อีซูซุมีส่วนแบ่งการตลาด 18.3%
"ในช่วงไตรมาส 3 เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งตามปกติจะเป็นโลว์ซีซันของการขาย แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 4 จะเข้าสู่หน้าขายแบบเต็มที่ ซึ่งเรายังมองว่า ตลาดรวมน่าจะดี อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ที่มีผลกับดอกเบี้ยที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น และทำให้เงินบาทของเราอ่อน โดยประเทศเพื่อนบ้านของเราตอนนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว ทั้งอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย"
ขณะที่ นายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)ฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ดีขึ้นส่งสัญญาณบวกกับตลาดรถยนต์ โดยคาดว่า ยอดขายรถยนต์รวมปีนี้น่าจะอยู่ที่ 9.4 แสนคัน ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง คือ ตลาดหุ้น ขณะที่ ฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขายในปีนี้ 1.26 แสนคัน
ส่วนนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เดิมทีได้ประเมินว่า ตลาดรถยนต์จะมียอดขาย 9.2 แสนคัน แต่ปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยนเป็น 9.6 แสนคัน เนื่องจากตลาดเติบโตประกอบกับช่วงไตรมาส 4 จะมีงานอีเวนต์ขายรถ , การประกาศโบนัสของแต่ละบริษัท และความชัดเจนด้านการเมือง ที่ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมเกิดความคึกคัก
"ภาพรวมตอนนี้เติบโตทั้งรถยนต์นั่งและรถปิกอัพ เพราะสถาบันการเงินมีความผ่อนคลาย หนี้ครัวเรือนไม่น่าห่วง , รถคันแรกที่ครบ 5 ปี เข้าสู่ปีที่ 6 ทำให้เรามองว่า บางส่วนจะเปลี่ยนรถ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผล คือ การลงทุนจากภาครัฐในโครงการต่าง ๆ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่จากบริษัทรถยนต์และการทำแคมเปญเพื่อเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น"
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ยังคงเติบโต สอดคล้องไปกับเศรษฐกิจไทย รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ การแข่งขันของบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ที่มีข้อเสนอพิเศษออกมา เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดล้วนส่งผลดีต่อตลาด
"แม้ว่าเสถียรภาพทางการเมืองจะยังไม่ชัดเจนและราคาน้ำมันที่ผันผวน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก"
……………….
เซ็กชัน : ยานยนต์ โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,379 วันที่ 1-4 ก.ค. 2561 หน้า 32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● TRDตั้งรง.ชุดแต่งรถในไทย
● กลุ่มฯยานยนต์ย้ำ! ให้คงภาษีนำเข้ารถยนต์ 80%
[caption id="attachment_297546" align="aligncenter" width="500"]
