‘หม่ำอินเตอร์’ปูพรมทั่วปท. ขยายโรงงานรุกโมเดิร์นเทรดดันรายได้โต

05 ก.ค. 2561 | 07:11 น.
“ภูมิสุข เมืองพล” เร่งขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการรุกตลาดโมเดิร์นเทรด พร้อมนำผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั่วประเทศ เชื่อดันรายได้บริษัทโต 20-30% แย้มมีแผนบุกตลาดต่างประเทศในอนาคตหลังตลาดในไทยแข็งแรง

นางสมพร วชิรธีระพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูมิสุข เมืองพล จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจร้านขายของฝากในอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น และผู้ผลิตและจำหน่ายหมํ่า แบรนด์ “หมํ่าอินเตอร์” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปีนี้บริษัทกำลังดำเนินการเรื่องการลงทุนขยายโรงงาน และเพิ่มจำนวนเครื่องจักรในการทำหมํ่า เพื่อเพิ่มกำลังผลิตรองรับการขยายตลาด และเพิ่มจำนวนฐานลูกค้า โดยวางเป้าหมายไว้ที่การจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าแบบโมเดิร์นเทรด ซึ่งล่าสุดกำลังเจรจาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายที่ท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops Market)

7466

“การขยายโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 เดือน โดยจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตที่เพียงพอในการขยายตลาด นอกจากท็อปส์มาร์เก็ตแล้ว บริษัทยังมองไปที่ห้างโลตัสสรรพสินค้า และแม็คโคร ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการขนส่งสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำผลิตภัณฑ์ไปส่งที่ศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางได้ เพื่อกระจายไปยังสาขาอื่นๆ จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะต้องนำผลิตภัณฑ์ไปส่งเองยังสาขาที่วางจำหน่าย”

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยจะดำเนินการในเรื่องของการขอรับรองมาตรฐานระบบการบริหารงานและประเมินผลทั่วทั้งองค์กร(Balanced Scorecard : BSC) โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นคนไทยมาซื้อไปจำหน่ายที่ประเทศเยอรมนี เพื่อทำเป็นเมนูต่างๆในร้านอาหาร ซึ่งแผนในอนาคตบริษัทจะมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละประเทศที่จะเข้าไปทำตลาด ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทที่ต้องการปูพื้นฐานการทำตลาดในประเทศไทยให้มีความแข็งแรงก่อน

7465

สำหรับช่องทางการทำตลาดเดิมของหมํ่าอินเตอร์คือ  การวางจำหน่ายที่ร้านขายของฝากที่บริษัทเป็นเจ้าของที่อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น รวมถึงร้านขายของฝากที่จังหวัดนครราชสีมา และการจัดส่งผ่านทางบริษัทไปรษณีย์ไทยฯไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศ ขณะที่ช่องทางออนไลน์ก็จะมีการดำเนินการผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก และไลน์แอด (Line@) เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในปีนี้จะดำเนินการขยายช่องทางทำตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้ประมาณ 20-30% ในปีนี้ จากเดิมที่มีรายได้อยู่ในระดับหลักล้านบาทในปีที่ผ่านมา

นางสมพร กล่าวอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์หมํ่าอินเตอร์ของบริษัทอยู่ที่คุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต โดยจะไม่ใช้เนื้อที่ฟรีซหรือแช่แข็ง แต่จะใช้เป็นเนื้อสดที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ รวมถึงความสะอาดและมาตรฐานในการผลิตโดยเครื่องจักรอย่างดีจากประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแพ็กเกจจิ้งนวัตกรรมแบบสุญญากาศ ซึ่งสามารถช่วยอายุของผลิตภัณฑ์ และช่วยในการเก็บกลิ่น ทำให้ลูกค้าพกพาไปได้อย่างสะดวกสบาย โดยจะแตกต่างจากเจ้าอื่นในตลาดซึ่งยังคงใช้ถุงแบบธรรมดาอยู่ และที่สำคัญคือเรื่องของรสชาติที่อร่อยถูกใจผู้บริโภค

“สูตรของหมํ่าอินเตอร์ที่จำหน่ายต้องผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้งจนได้สูตรที่ลงตัวอย่างในปัจจุบัน   โดยมีการปรับปรุงพัฒนารสชาติมาอย่างต่อเนื่อง จากการทำตลาดกึ่งวิจัยกับลูกค้าโดยตรงเวลาที่ชิมผลิตภัณฑ์ว่าควรจะต้องปรับอะไร อย่างไร ตรงไหนบ้าง ซึ่งยืนยันได้จากลูกค้าที่เคยซื้อไปจะต้องกลับมาซื้อซํ้าทุกครั้ง”

7464

ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น จะมุ่งเน้นที่ความจริงใจและความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นหลัก โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่ายในร้านจะต้องมีคุณภาพ เพื่อไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีเมื่อซื้อสินค้า ซึ่งเมื่อบริษัทต่อยอดมาทำหมํ่าอินเตอร์ ก็จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค

อนึ่ง ธุรกิจอาหารผลิตภัณฑ์ “หมํ่าอินเตอร์” เกิดจากการที่ลูกค้ามักจะถามหาผลิตภัณฑ์หมํ่าจากที่ร้าน หรือให้แนะนำว่าเจ้าใดที่อร่อย ซึ่งบริษัทก็ไม่ทราบว่าเจ้าใดที่อร่อย จึงเกิดแนวคิดในการทำหมํ่าขึ้นมาจำหน่ายเองภายใต้แบรนด์ของบริษัท และกลายมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในที่สุด

หน้า 13หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับ 3378 วันที่  28-30 มิถุนายน 2561

e-book-1-503x62