สองนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่

01 ก.ค. 2561 | 01:55 น.
ปักหมุดอสังหาลักชัวรี สร้างฝันจากการลงมือทำ

ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ กำลังเปิดเวทีต้อนรับ 2 พี่น้องนักธุรกิจสาวเก่งจากอินทีเรียดีไซน์ สู่การเป็นดีเวลอปเปอร์หน้าใหม่ กับโครงการบ้านแฝดระดับไฮเอนด์ ดี 8 (D8) ที่ซอยลาดพร้าว 88 โดย “คุณอิ๊ก - กมนนัทธ์ เต็มไตรรัตน์” คนพี่ และ “คุณอูน - พิรพรรณ ภูมิวสนะ” คนน้อง แห่งบริษัท ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูจากอเมริกา ที่ทั้งคู่นำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนเห็นช่องทางขยายธุรกิจสู่อสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นเรื่องเป็นราว

TO__5270

สองศรีพี่น้องที่ทั้งสวยและเก่ง เริ่มทำธุรกิจจากความชอบ (Passion) บวกกับพรสวรรค์ที่ได้รับมาจากคุณพ่อ ซึ่งทำธุรกิจโรงงานหล่อเฟอร์นิเจอร์ทองเหลือง ทั้งคู่ได้เห็นเฟอร์นิเจอร์สวยๆ งามๆ จนพัฒนามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ส่งออก และเริ่มเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างธุรกิจอินทีเรียดีไซน์ หรืองานตกแต่งภายในเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว จนธุรกิจเติบโตและพัฒนาความสำเร็จมาเรื่อยๆ โดยทั้งคู่ไม่ได้เรียนจบมาทางด้านนี้เลย

“คุณอิ๊ก” บอกว่า เธอไม่ได้คิดว่าคนจบอะไรแล้วจะต้องไปทำงานตรงสาย เธอจบรัฐศาสตร์ทั้งตรีและโท ในขณะที่น้องสาว จบไฟแนนซ์ แต่ด้วยความชอบและความกล้าที่จะลงมือทำ เธอได้ลองตกแต่งห้องที่โน่นที่นี่ จนคนที่เห็นยอมรับในฝีมือ และในที่สุดทั้งคู่จึงจับมือกันสร้างธุรกิจของตัวเอง

และนำความชอบจากธุรกิจแรกมาต่อยอดเป็นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง แบรนด์แกลลอรีที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านนำเข้าระดับไฮเอนด์ 7 แบรนด์ 7 ดีไซเนอร์ชื่อดังของโลก โดยผนึกความสามารถจากการออกแบบตกแต่งบ้าน เข้ามาเสริมความแกร่งให้กับซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของตลาดมากยิ่งขึ้น

“เรามีประสบการณ์เกี่ยวกับอินทีเรียมากว่า 10 ปี เราอยากมีออพชันรองรับตลาดที่มีดีมานด์ลักชัวรีมากขึ้น และมองเห็นช่องว่างในตลาด ที่มาเน้นตลาดลักชัวรีมากขึ้น เราเลยมองหาแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ดูดีมีดีไซน์ เข้ามาทำตลาด”

“คุณอูน” บอกว่า เธอและพี่สาวแบ่งหน้าที่กันทำ ตัวเธอดูแลเรื่องการตลาด ดูลูกค้าโปรเจ็กต์ ซึ่งตอนนี้ซอนเดอร์ ลิฟวิ่งกำลังหันมาโฟกัสกับลูกค้าโปรเจ็กต์มากขึ้น รวมทั้งยังทำหน้าที่ประสานงานกับเฮดควอเตอร์ที่อเมริกา ส่วนคุณอิ๊กจะดูตลาดดิจิตอล ดูภาพรวมของแบรนด์ โดยทั้งคู่จะดูภาพรวมและตัดสินใจร่วมกัน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบตามความเหมาะสม ด้วยการเปิดรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และให้เกียรติในการทำงานซึ่งกันและกัน

TO__5252

ทั้งคู่อธิบายว่า การสร้างซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่
ต้องอาศัยการให้ความรู้กับผู้บริโภคในเบื้องต้น ทำให้เขารู้จักกับแบรนด์
เสียก่อน หลังจากนั้น จึงเปิดโชว์รูมที่ถนนพระราม 9 ซึ่งเลือกแล้วเป็นทำเลที่เหมาะ มีแหล่งที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเดินทางได้สะดวก และคนมีกำลังซื้อจะเดินทางผ่านไปมา ทำให้เห็นสินค้าและสามารถเข้ามาจับต้องได้
ซึ่งเธอถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากลูกค้าได้สัมผัสของจริง ได้ทดลองใช้ จึงจะสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีและ
เหมาะสมกับตัวเองได้ และหลังจากนี้ คือการจับมือกับพาร์ตเนอร์โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ในการทำโปรเจ็กต์สร้างแพ็กเกจ การตกแต่งบ้านร่วมกัน เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและ
ตรงเป้า

การทำธุรกิจของสองพี่น้องคนเก่งนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เฟอร์นิเจอร์ เธอยังสามารถต่อยอดความชอบไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเป็นนักพัฒนาโครงการบ้านแฝด D8 ภายใต้บริษัท เดวา เรียลเอสเตทฯ ที่พวกเธอร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ พัฒนาที่ดินในซอยลาดพร้าว 88 เป็นบ้านแฝดระดับไฮเอนด์ในราคาเกือบ 40 ล้านบาท ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ และกำลังก่อสร้างพร้อมเปิดชมบ้านตัวอย่างในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562

ทุกธุรกิจที่ทั้งคู่สร้างขึ้นมา คือธุรกิจที่เธอทำจากความชอบ และมีความสนุกที่จะทำ เธอเอาตัวเองเข้าไปเป็นลูกค้าคนหนึ่ง โปรดักต์ที่ทำ ก็คือโปรดักต์ที่ทั้งคู่เห็นแล้วรักและชอบเหมือนกัน เห็นแล้วอยากได้ เช่นเดียวกับโครงการ D8 ที่ “คุณอิ๊ก” เล่าว่า วัสดุส่วนใหญ่เธอเลือกเองเลือกว่าเป็นของที่ดีมีคุณภาพ เลือกเหมือนตัวเองคือคนที่เข้าไปอยู่

ทั้งคู่บอกว่า ทั้งหมดที่ทำ ไม่ได้บอกว่านั่นคือสิ่งที่ถูกที่สุด แต่อยู่ที่การได้ลงมือทำ ได้ทดลองทำ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ถ้าไม่ดี ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยน ซึ่งแน่นอนที่ผ่านมาย่อมมีผิดพลาดบ้าง แต่นั่นคือการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ซึ่งไม่มีสอนในตำราที่ไหน สิ่งสำคัญคือ ทั้งคู่เปิดรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมทั้งฟังความคิดเห็นของทีมงาน เพราะทุกคนคือทีมที่มาช่วยพัฒนางานให้ดีที่สุด

และอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการทำงานของสองพี่น้องคู่นี้ก็คือ ไม่ได้เลียนแบบใคร และไม่ลงไปแข่งขันในตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก ทั้งหมดเกิดจากไอเดียที่ต้องการสร้างความต่าง ลงมือทำ แล้วรอดูผล และพร้อมปรับเปลี่ยน หากสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้อง ผลไม่ออกมาตามเป้าที่ตั้งไว้

สองพี่น้องสรุปทิ้งท้ายว่า การสร้างธุรกิจจากสิ่งที่รัก ผสมกับความคิดสร้างสรรค์ที่มี นั่นคือหัวใจของความสำเร็จในการทำธุรกิจของเธอทั้งคู่ และหากจะมีธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งพวกเธอก็มองๆ อยู่ ก็จะต้องเป็นธุรกิจที่เอื้อและเสริมกับธุรกิจหลักที่มีอยู่แล้ว เพื่อทำให้ทุกอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั่นเอง

หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,378 วันที่ 28-30 มิถุนายน 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว