จี้ภาครัฐ! เร่งทำฐานข้อมูลถึงพื้นที่จริง ดึงแรงงานนอกระบบเข้าถึงการออม

25 มิ.ย. 2561 | 09:35 น.
อนุ กมธ.กิจการผู้สูงอายุ จัดเสวนาโต๊ะกลม "แรงงานนอกระบบกับการออม เพื่อสร้างหลักประกันรายได้ในวัยผู้สูงอายุ" ระบุ การออมต้องเริ่มที่เยาวชนและวัยแรงงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างเพียงพอก่อนเกษียณอายุ

วันที่ 25 มิ.ย. 2561 เว็บไซต์ www.radioparliament.net เผยแพร่ข่าวว่า พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการผู้สูงอายุ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง "แรงงานนอกระบบกับการออม เพื่อสร้างหลักประกันรายได้ (บำนาญ) ในวัยสูงอายุ" จัดขึ้น ณ ห้องรับรอง 1-2 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 ว่า ปัจจุบัน มีหลายหน่วยที่มีภารกิจส่งเสริมการออมให้กับประชาชน ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ แต่ที่ผ่านมา ยังขาดการบูรณาการข้อมูลระหว่างกัน ทำให้การดำเนินงานยังไม่บรรลุเป้าหมายเท่าที่ควร โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ยังไม่มีหลักประกันด้านรายได้ที่มั่นคงเมื่อเกษียณอายุ ดังนั้น แต่ละหน่วยงานจำเป็นต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแรงงานนอกระบบให้ได้ โดย อนุ กมธ.ฯ จะนำข้อมูลจากการเสวนามาวิเคราะห์ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาระบบการออมของแรงงานนอกระบบต่อที่ประชุม สนช. ให้ความเห็นชอบ ก่อนส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปพิจารณาดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


org_7045796066

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กอช. ลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องการออมเงินกับประชาชน เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกกองทุนให้ได้ตามเป้า 1 ล้านคน ภายในปี 2561 โดย กอช. อยู่ระหว่างประสานขอความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการออมกับ กอช. มากขึ้น ทั้งนี้ ผลตอบแทนของ กอช. อยู่ที่ 3-4% ต่อปี ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน จึงจะเกิดผลตอบแทนที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม กอช. จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักศึกษาหันมาสนใจการออมมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนทัศนคติของประชาชน ให้มองความมั่นคงในระยะยาว ไม่มองประโยชน์เฉพาะการกู้เงินเพียงเท่านั้น

ด้าน นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ระบุว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ภายใน 8 ปีข้างหน้า หากเริ่มออมเงินในวัยผู้สูงอายุจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอกับการเลี้ยงชีพ จึงจำเป็นต้องเริ่มออมตั้งแต่เยาวชน ส่วนการพัฒนาการออมของแรงงานนอกระบบ ภาครัฐต้องจัดทำฐานข้อมูล โดยระบุถึงพื้นที่ที่แรงงานนอกระบบอาศัยอยู่ เพื่อให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้าไปส่งเสริมให้เกิดการออม ขณะที่ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานกองทุน กอช. เพื่อสร้างระบบให้คนไทยมีบำเหน็จบำนาญหลังพ้นวัยทำงาน การพัฒนาการออมภาคบังคบ รวมทั้งควรสร้างแรงจูงใจให้กับแรงงานนอกระบบเข้าถึงการออม โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์การออมที่หลากหลายให้สอดคล้องกับความต้องการ


MP20-3278-C

ขณะที่ น.ส.ศิริวรรณ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า แนวโน้มอีก 10 ปีข้างหน้า ไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลต้องจัดสรรเงินเบี้ยยังชีพมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น รัฐบาลต้องส่งเสริมการออมตั้งแต่วัยทำงาน และต้องนำเงินไปลงทุนให้เกิดผลตอบแทนสูงเพียงพอต่อการที่จะมีผู้เกษียณอายุจำนวนมากในอนาคต


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไลฟ์สไตล์การออมหญิงยุคใหม่ สะสมของรักเพิ่มความมั่งคั่ง
ปลัดคลังเตรียมเสนอ4แพ็คเกจหนุนการออมเป็นวาระแห่งชาติ


e-book-1-503x62