KTBST คาดสงครามการค้าและค่าเงินอ่อนตัวยังกดดันต้องรับมือแรงขายจากตปท.

25 มิ.ย. 2561 | 04:46 น.
KTBST คาด สงครามการค้าและค่าเงินที่อ่อนตัว ยังกดดันให้นักลงทุนต้องรับมือกับแรงขายจากต่างประเทศ ในสัปดาห์นี้ ประเมินกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ 1,600-1,690 จุด แนะนำหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาปรับตัวลงมามาก เช่นกลุ่มแบงก์ กลุ่มที่อิงการลงทุนและนโยบายภาครัฐฯ รวมทั้ง หุ้นที่ปันผลที่ดี

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (25-29 มิ.ย.) ว่า ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนและสหรัฐฯกับประเทศอื่น ยังคงเป็นตัวแปรหลักของตลาดซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป 20% จึงเป็นปัจจัยที่ต้องมาดูว่าท่าทีของกลุ่มยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ จะมีการตอบโต้อย่างไร ซึ่งการตอบโต้จากประเทศต่างๆที่มากขึ้นจะยิ่งเป็นลบต่อตลาดหุ้น เพราะจะเพิ่มความกังวลว่า การค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกรวมถึงประเทศไทยจะเกิดการชะลอตัว

ktbs

ดังนั้นด้วยปัจจัยต่างประเทศดังกล่าวที่ยังกดดัน จึงยังไม่ชัดว่าแรงขายหุ้นของนักลงทุนจะสิ้นสุดเมื่อใด แรงขายล่าสุดก็เกิดจากความกังวลเรื่องค่าเงินอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เป็นตลาดที่มีแรงขายมากถึง 4% (MSCI World Index ลดลง 2%) และคาดว่าแรงขายจะยังคงมีอยู่ จึงมองว่าตลาดมีโอกาสเกิด rebound หากไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,634 จุด ความเสี่ยงของตลาด คือ สงครามการค้าจะรุนแรงขึ้นหรือเบาลง แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ และค่าเงินบาท แต่ด้วยความแข็งแรงของ GDP และกำไรของบริษัทในตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามาก มีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อกลับ และประเมินว่าข่าวหรือปัจจัยในเชิงลบเหล่านี้ สะท้อนเข้ามาในดัชนีฯมากในระดับหนึ่งแล้ว แม้โอกาสที่ดัชนีฯจะกลับขึ้นไปหา 1,800 จุด จะไม่ง่าย แต่ที่ระดับ 1,690 จุด นั้น เรามองว่าสามารถขึ้นไปได้ไม่ยากนัก

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

สำหรับกลยุทธ์ในลงทุนสัปดาห์นี้ นักลงทุนอาจเตรียมพร้อมที่ขาย หากมีแรงขายกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง เราประเมินว่า ดัชนีฯ จะมีแนวรับที่แข็งแรงที่ระดับ 1,600 จุด จากดัชนีฯที่ซื้อขายที่ที่ระดับ forward P/E เพียง 15.2 เท่า ซึ่งค่อนข้างต่ำ ดังนั้น หากดัชนีฯปรับตัวลง น่าจะเป็นจังหวะของการเข้าซื้อหุ้นบางตัวที่มีความแข็งแรง ไม่อ่อนไหวไปตามตลาดมากเกินไป เช่น BBL ,KKP, EPG รวมถึง หุ้นที่อิงการลงทุนและนโยบายภาครัฐฯ คือ AMATA , CK ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมัน แนะนำ PTTEP, PTT และหุ้นที่ผันผวนน้อยให้ผลตอบแทนปันผลที่ดี แนะนำ LH และ QH ที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผล 5-6% ต่อปี KTBST คาดกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ 1,600-1,690 จุด

e-book-1-503x62