ความมั่นใจและอดทน คันเร่งสู่ความสำเร็จอย่างสมดุลและยั่งยืน
เราเริ่มจาก “หนึ่ง” หรือขาที่แข็งแรง และค่อยๆ นับหรือก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง เพื่อให้ mamybooking.com เป็นเว็บไซต์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ “นึกถึงเป็นลำดับแรก”
ก่อนที่จะเลือกหรือตัดสินใจทำอะไรสักหนึ่งอย่าง ลองตอบคำถามกับตัวเองว่า “คุณพร้อมหรือยังถ้าหากคนทั้งโลกบอกว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำมันผิดมันไม่ดี มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณพร้อมที่จะยืนยันว่าสิ่งที่คุณตั้งใจทำได้ มีโอกาส และเติบโตอย่างอดทนและมั่นคง ที่สำคัญคือคุณสามารถลงมือทำได้ทันที เพราะความมั่นใจนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนคุณให้ก้าวเดินไปอย่างมีพลัง ในทางกลับกันความมั่นใจที่เป็นเชื้อเพลิงนั้นต้องอยู่บนหลักพื้นฐานความถูกต้อง ที่สำคัญเมื่อเริ่มเดินแล้วนั้น อย่าท้อ อย่ากังวลกับปัญหาระหว่างทาง หาต้นตอของสาเหตุและค่อยๆ แก้ไขไป เพราะผมเชื่อเสมอว่า เราสามารถทำได้ทุกอย่างเมื่อเปิดรับการเรียนรู้ทั้งกายและใจ หนึ่งกระบวนการคิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทัศนคติเชิงบวกจาก คุณโจอี้ พีระศิลป์ กฤชเทียมเมฆ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท หม่ามี๊ บุ๊คกิ้งจำกัด
คุณโจอี้ผู้บริหารหนุ่มในวัย 24 ย่างเข้าสู่ 25 ปี เผยถึงเส้นทางการเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทของตนได้อย่างน่าสนใจว่า ตนเกิดและเติบโตมากับอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะครอบครัวทำธุรกิจด้านเรือสปีดโบต เรียกได้ว่านอกจากคลุกคลียังคุ้นเคยกับตลาดการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อาทิ บริษัททัวร์ในจังหวัดแถบชายหาด ทั้งนี้ส่วนตัวยังมองว่านี่คือโอกาสที่จะต่อยอดในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต
ความตั้งใจดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่คุณโจอี้ได้เริ่มศึกษา มองหาช่องทางและลงพื้นที่ไปพูดคุยกับกลุ่มทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เช่น จังหวัดระนอง ที่มีเกาะหัวใจมรกต เป็นต้น ซึ่งหลังจากการรวบรวมข้อมูลและประเมินได้ว่าศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยมีสายป่านที่ยาวทั้งการสนับสนุนของภาครัฐ ความปลอดภัยที่มีความเข้มงวดและเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบเครื่องไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม ประกอบกับความรู้จากการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติในขณะนั้น คุณโจอี้จึงตัดสินใจสร้างแพลตฟอร์มการจองทัวร์หรือทริปการท่องเที่ยวขึ้นในชื่อสุดน่ารักอย่าง หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง (www.mamybooking.com) หรือบริษัท หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง จำกัด ในปี 2559
คุณโจอี้ กล่าวเสริมว่า สำหรับชื่อหรือที่มาของ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง เป็นคำเรียกของหลานที่เรียกคุณแม่ของตน ซึ่งนอกจากน่ารักยังจดจำง่าย อีกทั้งยังสอดคล้องกับคำว่า บุ๊คกิ้งที่หมายถึงการจองอย่างลงตัว ด้านช่องทางการทำธุรกิจเราเลือกการใช้ เว็บไซต์ มาแทนแอพพลิเคชันเพราะสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกอุปกรณ์สมัยใหม่ในยุค IoT ซึ่งตัวของเว็บไซต์ ประกอบไปด้วยช่องทางการจองทัวร์ท่องเที่ยวทั่วไทย รวมทั้งรถเช่าที่มีหลากหลายขนาดรองรับทุกการเดินทางจากทุกสนามบินภายในประเทศ สำหรับแพลตฟอร์มนี้เริ่มสร้างขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อธันวาคม 2560 ได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สำคัญคือความสามารถในการรองรับการจ่ายเงินทุกประเภท
ด้านแผนพัฒนาและก้าวเดินต่อจากนี้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง ตั้งเป้าขยายผลในการสร้างโมเดล Ticketing Business หรือธุรกิจจองตั๋วล่วงหน้าในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งสามารถเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างคล่องตัวทั้งการไม่ต้องต่อแถวรอซื้อตั๋วหรือการเข้าชมได้ทันที นอกจากประหยัดเวลายังเพิ่มความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ภายในปีนี้ยังพร้อมเปิดตัวธุรกิจรับส่งนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยทั้งหมดมีหนึ่งความฝัน หนึ่งเป้าหมาย และหนึ่งความตั้งใจที่จะทำให้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง เป็น เบอร์หนึ่งของไทยในด้านเว็บไซต์การจองทัวร์ รถเช่า Ticketing รถรับส่งนักท่องเที่ยวและอื่นๆ ในด้านการให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสุขใจ
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงคนนี้ยอมรับว่า กว่าจะมีวันนี้ เจอคำว่า ท้อ จนนับไม่ถ้วน ทั้งการเริ่มทำสิ่งใหม่ที่ใครหลายๆ คนไม่เข้าใจ การค้นหาทีมงานที่มีแนวคิดแปลกใหม่และใส่ใจลูกค้าเหมือนกับครอบครัวบนกรอบพื้นฐานการบริการที่ดีเยี่ยมหรือ (Service mind) รวมทั้งการคำนวณงบประมาณในการลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจ ซึ่งคำว่าท้อไม่ได้ทำให้เราล้มลงกลับกันยังสร้างลำแข้งที่แข็งแรงและตกผลึกถึงคำนิยามคำหนึ่งที่เป็นดั่งสัจธรรมในการดำเนินธุรกิจ คือ “เราต้องทำได้ทุกอย่างในบริษัทของเรา”
จากวันแรกที่ความฝันเริ่มต้น จนวันนี้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มขึ้นมายอมรับว่า ขนลุก และสนุกในทุกวัน โดยเฉพาะการคิดค้นรูปแบบการบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งการทำข้อมูลหลังบ้านให้มีศักยภาพไม่เกิดการติดขัด และนำเอาช่องทางการเงินรูปแบบใหม่ อาทิ WeChat Pay รวมทั้งนำเอาภาษาจีนมาเติมเต็มตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ดีภาพของการดำเนินธุรกิจยังคงก้าวเดินต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องพึงปฏิบัติหรือมีไว้ในทัศนคติคือ ความอดทน เพราะตนเชื่อเสมอว่า อดทนในวันนี้ สบายในระยะยาว
นอกจากรูปแบบการทำงานที่สนุกและสร้างความสุขแล้ว คุณโจอี้ได้เลือกที่จะแบ่งเวลาการพักผ่อนของตัวเองใน 3 รูปแบบ คือ 1.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงเพื่อทำให้สมองและหัวใจมีพลังคิดสร้างสิ่งใหม่ในบลูโอเชี่ยน 2.ต้องมีเวลาอยู่กับตัวเอง มิตินี้สำคัญอย่างมากเพราะการได้อยู่กับตัวเองจะทำให้เราได้พัก คิดและมองมุมกลับในสิ่งที่ได้ทำมา เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นสำหรับวันต่อไป และ 3.การออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใหม่ๆ คือ ชาร์จแบตเตอรี่ลมหายใจที่ดีที่สุด เพราะทุกครั้งที่สายตาพบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น หัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะ และนั้นจะทำให้ไอเดียต่างๆ ผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายจนสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้อย่างสร้างสรรค์นั้นเอง และนี่คือบทสรุปรวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่ควรค่าแก่การสนับสนุน ส่งเสริม ในมิติของการท่องเที่ยวไปกับ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง จากผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ชื่อ พีระศิลป์ กฤชเทียมเมฆ
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 (845) วันที่ 24 - 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ก่อนที่จะเลือกหรือตัดสินใจทำอะไรสักหนึ่งอย่าง ลองตอบคำถามกับตัวเองว่า “คุณพร้อมหรือยังถ้าหากคนทั้งโลกบอกว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำมันผิดมันไม่ดี มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณพร้อมที่จะยืนยันว่าสิ่งที่คุณตั้งใจทำได้ มีโอกาส และเติบโตอย่างอดทนและมั่นคง ที่สำคัญคือคุณสามารถลงมือทำได้ทันที เพราะความมั่นใจนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนคุณให้ก้าวเดินไปอย่างมีพลัง ในทางกลับกันความมั่นใจที่เป็นเชื้อเพลิงนั้นต้องอยู่บนหลักพื้นฐานความถูกต้อง ที่สำคัญเมื่อเริ่มเดินแล้วนั้น อย่าท้อ อย่ากังวลกับปัญหาระหว่างทาง หาต้นตอของสาเหตุและค่อยๆ แก้ไขไป เพราะผมเชื่อเสมอว่า เราสามารถทำได้ทุกอย่างเมื่อเปิดรับการเรียนรู้ทั้งกายและใจ หนึ่งกระบวนการคิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทัศนคติเชิงบวกจาก คุณโจอี้ พีระศิลป์ กฤชเทียมเมฆ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท หม่ามี๊ บุ๊คกิ้งจำกัด
คุณโจอี้ผู้บริหารหนุ่มในวัย 24 ย่างเข้าสู่ 25 ปี เผยถึงเส้นทางการเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทของตนได้อย่างน่าสนใจว่า ตนเกิดและเติบโตมากับอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะครอบครัวทำธุรกิจด้านเรือสปีดโบต เรียกได้ว่านอกจากคลุกคลียังคุ้นเคยกับตลาดการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อาทิ บริษัททัวร์ในจังหวัดแถบชายหาด ทั้งนี้ส่วนตัวยังมองว่านี่คือโอกาสที่จะต่อยอดในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต
คุณโจอี้ กล่าวเสริมว่า สำหรับชื่อหรือที่มาของ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง เป็นคำเรียกของหลานที่เรียกคุณแม่ของตน ซึ่งนอกจากน่ารักยังจดจำง่าย อีกทั้งยังสอดคล้องกับคำว่า บุ๊คกิ้งที่หมายถึงการจองอย่างลงตัว ด้านช่องทางการทำธุรกิจเราเลือกการใช้ เว็บไซต์ มาแทนแอพพลิเคชันเพราะสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกอุปกรณ์สมัยใหม่ในยุค IoT ซึ่งตัวของเว็บไซต์ ประกอบไปด้วยช่องทางการจองทัวร์ท่องเที่ยวทั่วไทย รวมทั้งรถเช่าที่มีหลากหลายขนาดรองรับทุกการเดินทางจากทุกสนามบินภายในประเทศ สำหรับแพลตฟอร์มนี้เริ่มสร้างขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อธันวาคม 2560 ได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สำคัญคือความสามารถในการรองรับการจ่ายเงินทุกประเภท
ด้านแผนพัฒนาและก้าวเดินต่อจากนี้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง ตั้งเป้าขยายผลในการสร้างโมเดล Ticketing Business หรือธุรกิจจองตั๋วล่วงหน้าในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งสามารถเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างคล่องตัวทั้งการไม่ต้องต่อแถวรอซื้อตั๋วหรือการเข้าชมได้ทันที นอกจากประหยัดเวลายังเพิ่มความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ภายในปีนี้ยังพร้อมเปิดตัวธุรกิจรับส่งนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยทั้งหมดมีหนึ่งความฝัน หนึ่งเป้าหมาย และหนึ่งความตั้งใจที่จะทำให้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง เป็น เบอร์หนึ่งของไทยในด้านเว็บไซต์การจองทัวร์ รถเช่า Ticketing รถรับส่งนักท่องเที่ยวและอื่นๆ ในด้านการให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสุขใจ
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงคนนี้ยอมรับว่า กว่าจะมีวันนี้ เจอคำว่า ท้อ จนนับไม่ถ้วน ทั้งการเริ่มทำสิ่งใหม่ที่ใครหลายๆ คนไม่เข้าใจ การค้นหาทีมงานที่มีแนวคิดแปลกใหม่และใส่ใจลูกค้าเหมือนกับครอบครัวบนกรอบพื้นฐานการบริการที่ดีเยี่ยมหรือ (Service mind) รวมทั้งการคำนวณงบประมาณในการลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจ ซึ่งคำว่าท้อไม่ได้ทำให้เราล้มลงกลับกันยังสร้างลำแข้งที่แข็งแรงและตกผลึกถึงคำนิยามคำหนึ่งที่เป็นดั่งสัจธรรมในการดำเนินธุรกิจ คือ “เราต้องทำได้ทุกอย่างในบริษัทของเรา”
จากวันแรกที่ความฝันเริ่มต้น จนวันนี้ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มขึ้นมายอมรับว่า ขนลุก และสนุกในทุกวัน โดยเฉพาะการคิดค้นรูปแบบการบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งการทำข้อมูลหลังบ้านให้มีศักยภาพไม่เกิดการติดขัด และนำเอาช่องทางการเงินรูปแบบใหม่ อาทิ WeChat Pay รวมทั้งนำเอาภาษาจีนมาเติมเต็มตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ดีภาพของการดำเนินธุรกิจยังคงก้าวเดินต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องพึงปฏิบัติหรือมีไว้ในทัศนคติคือ ความอดทน เพราะตนเชื่อเสมอว่า อดทนในวันนี้ สบายในระยะยาว
นอกจากรูปแบบการทำงานที่สนุกและสร้างความสุขแล้ว คุณโจอี้ได้เลือกที่จะแบ่งเวลาการพักผ่อนของตัวเองใน 3 รูปแบบ คือ 1.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงเพื่อทำให้สมองและหัวใจมีพลังคิดสร้างสิ่งใหม่ในบลูโอเชี่ยน 2.ต้องมีเวลาอยู่กับตัวเอง มิตินี้สำคัญอย่างมากเพราะการได้อยู่กับตัวเองจะทำให้เราได้พัก คิดและมองมุมกลับในสิ่งที่ได้ทำมา เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นสำหรับวันต่อไป และ 3.การออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใหม่ๆ คือ ชาร์จแบตเตอรี่ลมหายใจที่ดีที่สุด เพราะทุกครั้งที่สายตาพบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น หัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะ และนั้นจะทำให้ไอเดียต่างๆ ผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายจนสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้อย่างสร้างสรรค์นั้นเอง และนี่คือบทสรุปรวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่ควรค่าแก่การสนับสนุน ส่งเสริม ในมิติของการท่องเที่ยวไปกับ หม่ามี๊ บุ๊คกิ้ง จากผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ชื่อ พีระศิลป์ กฤชเทียมเมฆ
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 (845) วันที่ 24 - 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561
